ทัวร์ภูฎาน ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้ากลางเทือกเขาหิมาลัย (5 วัน 4 คืน)

วันที่ 1 : กรุงเทพ – พาโร – ทิมพู
05.00 น.นัดพบนักท่องเที่ยว สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 5 เคาน์เตอร์ของสายการบินภูฏานแอร์ไลน์ (แถว K)
06.30 น.ได้เวลาบินอสู่เมืองพาโร ประเทศภูฎาน โดยสายการบินภูฏานแอร์ไลน์ ไฟร้ท B3-701
07.40 น.ถึงสนามบินกัลกัตต้า ประเทศอินเดีย แวะพักเครื่องและรับผู้โดยสารประมาณ 45 นาที
10.05 น.ตามเวลาของประเทศภูฏานซึ่งช้ากว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง บินถึงสนามบินพาโร ท่าอากาศยานของประเทศภูฎาน ที่ระดับความสูง 2,250 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งเดียวของประเทศภูฏาน ตั้งอยู่ในหุบเขาพาโร
11.00 น. หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้วพบมัคคุเทศก์ท้องถิ่น นำท่านชอบบริเวณรอบๆพาโรซอง (Paro Dzong) ซึ่งเป็นป้อมปราการและวิหารหลวงแห่งเมืองพาโร พาโรซองได้ถูกสร้างให้โด่ดเด่นตระหง่านอยู่ในหุบเขา เป็นป้อมปราการที่ใช้ป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรู ทางเข้าซองจะเป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นอย่างสวยงามพาดผ่านไปยังตัวป้อมปราการ ปัจจุบันพาโรซองเป็นทั้งสถานที่ทำงานของรัฐบาลและมีส่วนที่เป็นวัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป ให้เวลาสมาชิกถ่ายรูปกับสะพานไม้ข้ามลำน้ำที่งดงามโดดเด่น
เที่ยง  : ทานมื้อเที่ยง ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร เดินทางสู่เมืองทิมพู (Thimphu) เมืองหลวงของภูฏาน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามระหว่างทาง นำท่านชมวัดทัมชู (Tamchoe Monastery) ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองพาโรและเมืองทิมพู เปิดโอกาศให้สมาชิกถ่ายรูปกับสะพานโซ่เหล็กที่เก่าแก่ดูคลาสสิก และจุดชมวิิวแม่น้ำวังชูซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำพาโรและแม่น้ำทิมพูไหลมาบรรจบกัน ก่อนที่จะไหลลงสู่ประเทศอินเดีย
ถึงเมืองทิมพู นำสมาชิกสู่ที่พัก เช็คอินน์ เก็บสัมภาระเข้าห้องพักแล้ว พาท่านออกไปชมทิมพูซอง หรือเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่าทาชิโชซอง (Tashicho Dzong) ซึ่งเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ปัจจุบันแบ่งเป็นพระตำหนักฤดูร้อนในสมเด็จพระสังฆราชภูฏาน พระอารามหลวง สำนักพระราชวัง ทำเนียบรัฐบาล ห้องประชุมรัฐสภาแห่งชาติ โดยมีจำนวนห้องทั้งหมดกว่า 100 ห้อง แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะท้องพระโรงใหญ่ ประดับภาพจิตรกรรมฝาผนังและผ้าพระบท เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา นิกายวัชรยาน โดยเฉพาะตำนานแห่ง พระปัทมสัมภวะ (หรือพระปทุมสมภพ แปลว่าผู้กำเนิดจากดอกบัว) พระพุทธเจ้าที่ชาวภูฏานนับถือเป็นอาจารย์ใหญ่ ผู้นำศาสนาพุทธนิกายวัชรยานตันตระ มาเผยแผ่ในดินแดนแห่งนี้เมื่อกว่า 2000 ปีก่อนและเรียกขานในภาษาทิเบตว่า “กูรู รินโปเช”
หลังจากนั้นนำท่านขึ้นไปยังจุดชมวิวเมืองทิมพู แวะชมวิวพร้อมกับนมัสการพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในภูฏาน (Big Buddha) ซึ่งสร้างอยู่ในทำเลที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดของภูฏาน หลังจากนั้นพาไปชม Memorial Chorten ซึ่งเป็นมหาสถูปที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระเจ้าจิกมี่ ตอจิ วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์วังชุก ซึั่งเสด็จสวรรคตในปี 1972 สร้างขึ้นเพื่อสันติภาพและความรุ่งเรืองของโลก
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 2 : จุดชมวิวโดชูล่า-ปูนาคา-ดรุค วังเกล
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นพาไปชมสวนสัตว์ทาคิน (Takin Zoo) สัตว์ประจำชาติภูฏานซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างแพะกับวัว ก่อนที่จะนำท่านเดินทางสู่เมืองปูนาคา ระยะทาง 70 กม.ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ผ่านช่องเขาโดชูล่า ผ่านผืนป่าหิมพานต์ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นสน ต้นแมกโนเลียและกุหลาบพันปี แวะชมกงล้อมนตราระหว่างทาง ที่ใช้พลังน้ำพัดให้หมุนอยู่ชั่วนาตาปี เชื่อว่าทำให้มนตราแผ่กระจายไปปกป้องคุ้มครองคนในหมู่บ้านและผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ชมโด ชูล่า (Chula Pass) หรือช่องเขาศิลา ที่ระดับความสูง 3145 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งมีสถูป ดรุ๊ก วังเกล (Druk Wangel Chorten) หรือสถูปแห่งความเป็นศิริมงคลและสันติสุขของแผ่นดิน ซึ่งมีทั้งหมด 100 องค์ สร้างถวายพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน 108 องค์ โดยสมเด็จพระราชินี อะชิ ดอร์จิ วังโม พาท่านจิบชา กาแฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาและทุ่งนาเขียวขจี
ถึงเมืองปูนาคา ที่ระดับ 1300 เมตร ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเมืองทิมพูประมาณ 1000 เมตร จึงมีภูมิอากาศอบอุ่นกว่าเมืองทิมพู กษัตริย์แห่งภูฏานและสมเด็จพระสังฆราชจะทรงแปรพระราชฐานในฤดูหนาว (ธค.- กพ.) ปูนาคาจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงในฤดูหนาว (Winter Capital) ในขณะที่ทิมพูเป็นเมืองหลวงฤดูร้อนและเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ
เที่ยง : ทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารระหว่างทาง ระหว่างทานมื้อเที่ยง ท่านสามารถชมวิวของวัด Chimi Lhakhang หรือวัดแห่งการเกิด สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยท่านลามะ Drukpa Kuenley ซึ่งชาวภูฏานมีความเชื่อว่าคู่รักใดไม่มีลูกก็ให้มาขอพรที่วัดนี้แล้วจะสมหวัง วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านเล็กๆอยู่ระหว่างเมืองปูนาคาและเมืองวังดี (ท่านที่มีความประสงค์จะเดินทางไปยังวัดนี้ จะมีไกด์พาเดินไป ระยะทางประมาณ 1 กม ชมธรรมชาติที่สวยงามระหว่างทาง ผ่านทุ่งนาและหมู่บ้านชนบทของชาวภูฏาน)
หลังจากนั้นนำท่านไปชมปูนาคาซอง (Phunakha Dzong) ที่มีตำนานว่า “กูรู รินโปเช” หรือ “พระปทุมสมภพ” มีพุทธทำนายว่าจะมีบุรุษนาม นัมเกล มาสร้างป้อมปราการหรือ ซอง (Dzong) บริเวณด้านหน้าเขารูปงวงช้างแห่งนี้ ซึ่งภายหลังคำทำนายนั้นเป็นจริง เมื่อท่าน”ซับดรุง งาวัง นัมเกล” ประมุขฝ่ายอาณาจักรและศาสนจักร สร้างปูนาคา ซอง เป็นที่ประทับเมื่อราว 350 ปีก่อน (ก่อนที่จะไปสร้าง ทาชิโช ซอง ที่ทิมพู) ปูนาคา ซอง เป็นป้อมที่มีขนาดใหญ่มาก มีพระตำหนัก ศาลาว่าการเมือง โบส์ถ วิหาร ตั้งอยู่ในปูนาคา ซองรวมกันถึง 21 แห่ง มีภิกษุ สามเณรจำพรรษาอยู่ถึง 6000 รูป แม้ที่นี่จะเคยเกิดไฟไหม้ถึง 6 ครั้ง น้ำท่วม แผ่นดินไหว แต่ที่นี่ยังคงความสง่างามตราบจนทุกวันนี้ นำท่านกราบนมัสการพระศรีศากยมุนี พระปทุมสมภพและรูปปั้นท่านซับดรุงในวิหารประทานที่อลังการด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องพุทธประวัติศิลปะภูฏานอันวิจิตรตระการตา
เย็น : ทานมื้อค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 3 : ปูนาคา – พาโร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารพาท่านเดินทางกลับสู่เมืองพาโร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
เที่ยง : แวะทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคาร โด ชูลา
ถึงเมืองพาโร พาท่านชมวัดคิชู (Kyichu temple) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน ตามประวัติ วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 หรือประมาณ 1300 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ภูฏานยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบต โดยกษัตริย์ซอง เซน กัมโป ซึ่งชาวทิเบตยกย่องว่าเป็นผู้อัญเชิญศาสนาพุทธสายวัชรยานมาประดิษฐานในทิเบต และโปรดให้สร้างวัด 108 แห่ง เพื่อตอกอวัยวะ 108 จุดของยักษ์ตนหนึ่งซึ่งนอนแผ่ทั่วเทือกเขาหิมาลัยไว้ เพื่อจะไม่ให้สัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแผ่ไปถึง โดยจุดที่สร้างวัดคิชู ที่เมืองพาโรเป็นเท้าซ้ายของยักษ์ (อีกวัดหนึ่งในภูฏานอยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างตรงเข้าซ้ายของยักษ์) นำท่านชมวิหารเก่าแก่สมัยกษัตริย์ซองเซน กัมโป ซึ่งปูพื้นด้วยไม้แผ่นใหญ่ตรงบริเวณเบื้องหน้าพระปฏิมาประทาน มีรอยบุ๋มลึก เนื่องจากมีผู้แสวงบุญมายืนและก้มลงกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ (ร่างกายแตะพื้น 8 จุด) ซ้ำๆกันเป็นเวลานานนับพันปี ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางกลับที่พัก
เย็น : ทานมื้อค่ำพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 4 : พาโร – วัดทักซัง
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางชมวัดทักชังหรือวัดรังเสือ (Taktsang Monastery or Tiger’s nest) เป็นวัด 13 วัดที่สร้างเกาะเกี่ยวกันอยู่บนหน้าผาสูง 3000 ฟุต ซึ่งดูเหมือนวิมานสวรรค์ล่องลอยอยู่เหนือกลุ่มเมฆ วัดทักชังเป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฎานเลื่อมใสศรัทธากันมากที่สุด ที่ทุกคนต้องขึ้นไปอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต เป็นสถานที่กูรู รินโปเช หรือท่านปัทมะสัมภวะ ปรมาจารย์แห่งคำสอนแบบวัชรยานตันตระ ที่เดินทางมาจากทิเบต ได้ขี่นางเสือขึ้นไปและนั่งสมาธิในถ้ำ จึงได้ชื่อว่าวัดถ้ำเสือ หรือวัดรังเสือ Tiger Nest) ซึ่งหลังจากสำเร็จสมาธิแล้ว  ท่านจึงได้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อความเป็นศิริมงคลและความเจริญก้าวหน้าของชีวิต ถือว่าเป็นวัดที่น่ามหัศจรรย์ 1 ใน 10 แห่งของโลก การเดินทางขึ้นไปที่วัดนี้ ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ จากลานจอดรถด้านล่าง ถ้าใครไม่อยากเดิน ก็สามารถขี่ม้า ซึ่งชาวบ้านนำมารับจ้างให้คนขี่หลัง เพื่อพาขึ้นไปครึ่งทาง และจะต้องลงเดินเท้าอีกประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะถึงวัด แต่ขาลงท่านจะต้องเดินเท้าลงตลอดทาง เนื่องจากม้าไม่สามารถพาท่านเดินลงได้ พาท่านไปได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมวิหาร แต่บริเวณภายในวัดท่านไม่สามารถจะถ่ายรูปได้
เที่ยง  : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนจุดชมวิว (อาหารมังสวิรัติ) หลังจากนั้นพาท่านเดินทางกลับที่พัก
เย็น   : ทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 5 : พาโร – กรุงเทพมหานคร
เช้า : ทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นออกเดินทางสู่สนามบินพาโร
08.00 น.เช็คอินน์ โหลดสัมภาระขึ้นเครื่องกับสายการบินภูฏานแอร์ไลน์
10.15 น.ได้เวลาบินกลับเมืองไทย ด้วยไฟร้ท B3-700
10.55 น.แวะเติมน้ำมันและรับผู้โดยสารที่สนามบินกัลกัตต้าของอินเดีย
11.50 น.เดินทางต่อ บินสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
15.55 น.ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าทริป  5xxxxx บาท

สอบถามรายละเอียดหรือจองทริป กรุณาติดต่อ คุณศิริพร โทร : 092-4341166, 081-8183286
Line ID : sk_pond      ใบประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/06268

อัตรานี้รวม
1. ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-พาโร-กรุงเทพ ของสายการบินดรุ๊กแอร์ หรือภูฎานแอร์ไลน์
2. ค่าวีซ่าภูฎาน
3. ที่พัก โรงแรม 3 ดาว ที่พาโร 2 คืน และที่ทิมพู 2 คืน รวมอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น
5. บริการรถรับ-ส่ง ตามที่ระบุในโปรแกรม
6. หัวหน้าทัวร์ไทย – และไกด์ภูฏาน
7. ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆที่ระบุในโปรแกรม

อัตรานี้ไม่รวม
1. ค่าทิปสำหรับ มัคคุเทศก์ พนักงานขับรถ พนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่นค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์,  ค่าซักรีด ค่าอาหาร
และเครื่องดื่มสั่งพิเศษนอกรายการ, ค่าโทรศัพท์ทางไกล, ค่าอินเตอร์เน็ต ฯลฯ
3. ค่าโหลดน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่เกินกำหนดของสายการบิน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ศิริพร : 081-8183286, 092-4341166
อีเมลล์ : s_pond2010@hotmail.com   Line ID : sk_pond

www.easy-on-tour.com                   HiT & HoT Tour Limited Partnership