รีวิวทริปเทรคกิ้งลังตัง เนปาล (Langtang Trek) Nepal 3-10 Nov’12

ทริปนี้มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ใช้เวลาในการเดินขึ้น-ลงภูเขาทั้งหมด 5 วันและปีนเขาขึ้นไปชม Glacier อีกครึ่งวัน ต้องนั่งรถไป-กลับ Kathmandu-Shyabru Bensi อีก 2 วัน (รวมเวลาบินไป-กลับจากเมืองไทยด้วยก็เป็น 10 วันเต็ม)เราออกเดินทางจากทาเมลโดยรถจิ๊ปส่วนตัวพาพวกเราทั้งหมด 11 ชีวิต (ไทย 7 คนและลูกหาบชาวเนปาลอีก 4 คนไปส่งท่ารถรถบัสไปเมือง Shyabru Bensi รถบัสที่เรานั่งเป็นรถบัสธรรมดาไม่มีทั้งแอร์และพัดลม แต่อากาศก็เย็นสบาย เพราะเดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูหนาวในเนปาลเต็มตัวแล้ว)รถบัสออกจากจุดจอดรถประมาณ 7.30 น.ตอนเช้า ไปถึงเมือง Shyabru Bensi ประมาณบ่ายสาม เราไม่รู้มาก่อนว่ารถบัสที่เรานั่งจะเป็นรถบัสหวานเย็น คือจอดรับ-ส่งผู้โดยสารตลอดทาง จนผู้โดยสารแน่นเต็มคันรถทั้งที่นั่งและยืนและยังมีนั่งบนหลังคารถด้วย ทำให้ได้สัมผัสวิถีชิวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริง รถแวะให้ทานมื้อเที่ยงที่จุดทานอาหารระหว่างทาง เป็นอาหารพื้นเมืองแบบบุฟเฟ่ต์ รสชาดดี มีไก่ทอดผสมเครีองเทศให้ทานด้วย ค่าอาหารหัวละ 200 รูปี (ประมาณ 75 บาท) แต่เพื่อนหลายคนในกรุ๊ปไม่กล้าทาน ทั้งที่คนอื่นทานกันเต็ม ทั้งเนปาลีและฝรั่ง รถบัสคันที่เรานั่ง มีฝรั่งนั่งกันมาเยอะมาก เพิ่งรู้ว่าเส้นลังตัง เป็นที่สนใจของต่างชาติเยอะเหมือนกัน

เส้นทางไป Shyabru Bensi จะมีด่านตรวจ Permit และ TIMS Card เราต้องนำเอกสารทั้งสองอย่างพร้อมพาสปอร์ตลงไปให้เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกและประทับตรา หลังจากนั้นก็เดินทางกันต่อ ระหว่างมีด่านตำรวจและด่านทหารหลายด่านมาก รถจะจอดให้เจ้าหน้าที่ขึ้นมาตรวจเป็นระยะ จำไม่ได้ว่าเจอกี่ด่าน รู้แต่ว่าหลายครั้งมาก รถบัสถูกตรวจอย่างละเอียดทั้งผู้โดยสารและสิ่งของทั้งภายในรถและบนหลังคารถ เนื่องจากเมือง Shyabru Bensi ตั้งอยู่ติดชายแดนทิเบต มักจะมีชาว

ทิเบตลักลอบเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากที่รัฐบาลจีนใช้นโยบายกดขี่ข่มเหงชาวทิเบต ทำให้มีชาวทิเบตจำนวนมากต้องพากันอพยพหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในเนปาล จะเห็นว่าชาวบ้านแถวนั้นมีวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตที่แตกต่างจากชาวพื้นเมืองเนปาล เราเรียกพวกชนเผ่านี้ว่า Tamang ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อชาติลูกผสมระหว่างชาวทิเบตกับชนพื้นเมืองชาวเนปาลแถบชายแดน ชาว Tamang มักจะมีอาชีพเย็บปักถักร้อยและทอผ้า ชาวบ้านจะนั่งทำงานกันอยู่หน้าบ้านหรือหน้าร้านค้าของตนเอง ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นว่าเป็นสินค้า Hand made เพื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยวเช่น หมวกไหมพรม กระเป๋า ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว และของใช้กระจุกกระจิกต่างๆ เช่นที่ผูกผม สร้อยข้อมือ สร้อยคอต่างๆ ซึ่งต่างจากชาวเนปาลี ที่มักจะรับเอาสินค้าจากที่อื่นมาขายอีกทอดหนึ่ง
Langtang Trek เส้นทางนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักเดินเขาชาวไทยมากนัก จุดหมายของพวกเราคือ Kyanjin Gompa Village สูง 3900 เมตรจากระดับน้ำทะเล หมู่บ้านนี้ถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาหิมะทำให้อากาศหนาวเย็นตลอดปี และเป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เราต้องเดินเท้าจากเมือง Shyabru Bensi ไปถึง 3 วันเต็ม

หมู่บ้านแรกที่เราหยุดพักค้างคืนระหว่างทางคือหมู่บ้าน Lama Hotel จากนั้นเราไปนอนพักหมู่บ้านที่ 2 คือ Langtang Village และ Kyanjin Gompa เป็นหมู่บ้านบนเขาที่สุดท้ายที่เราพักค้างคืน เราพักที่นี่ถึง 2 คืน ก่อนจะเดินกลับลงมาค้างคืนระหว่างทางที่หมู่บ้าน Lama Hotel อีกคืน สุดท้ายเราต้องกลับมาค้างที่เมือง Shyabru Bensi อีก 1 คืน ก่อนที่จะนั่งรถจิ๊ปกลับทาเมล เส้นทางเดิน ส่วนมากเราเดินอยู่ในป่า เดินเรียบแม่น้ำไปเกือบตลอดทั้งเส้นทาง ผ่านน้ำตกน้อยใหญ่หลายสิบสายจน

นับไม่ถ้วน วิวของเส้นทาง Langtang สวยไม่เป็นรองเส้น ABC มากนัก และก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักเดินเขามือใหม่ เพราะเดินไม่ยาก อากาศเย็นสบาย ใช้เวลาเดินแต่ละวันไม่มาก อยากแนะนำให้เพื่อนๆนักเดินเขาที่กำลังมองหาเส้นทางใหม่ๆ มาลองเทรคเส้นทางนี้ดู แล้วท่านจะประทับใจกับบรรยากาศที่สงบเงียบ ไม่พลุกพล่านเหมือนเส้นทางเลียบหิมาลัยเส้นอื่นในเนปาล

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments