รีวิวแบ็คแพ็คเที่ยวพม่า 8 วัน
(8-15 สค.55 : ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ พุกาม อินเล)

ทริปพม่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราและเพื่อนๆ เรารวมกลุ่มกันได้กัน 5 คน ชาย 1 หญิง 4 คน ออกเดินทางเช้าตรู่ นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง

วันแรก : ดอนเมือง – ย่างกุ้ง
นั่ง Air Asia รอบเช้าไปลงสนามบินย่างกุ้ง ไปถึงประมาณ 8 โมงกว่า ก็จัดแจงแลกเงินจ๊าดที่สนามบิน พอเดินออกมาด้านนอก มีแท็กซี่จอดเรียกลูกค้ากันเต็มไปหมด เรากับเพื่อนเรียกแท็กซี่คนหนึ่ง ลักษณะคล้ายรถสองแถวเล็ก ตกลงราคากันที่ 10 usd ให้ไปพาทานมื้อเช้า อาหารแบบท้องถิ่น อาหารไม่ค่อยแตกต่างจากบ้านเรา แต่รสชาดจะจืดและมันมากกว่าอาหารไทย หลังจากนั้นก็ให้รถพาไปซื้อตั๋วรถบัสไปเมืองมัณฑะเลย์ พอได้ตั๋วแล้วลุงคนขับรถก็ถามพวกเราว่าต้องการเหมารถของเค้าเที่ยวมั๊ย เค้าคิดราคา 50 usd ต่อคัน เที่ยวทั่วเมืองย่างกุ้งและพาไปสิเรียมด้วย พวกเราปรึกษากันแล้วก็ตกลงให้ลุงพาไปเที่ยว

สถานที่แรก คือเจดีย์โบดาตาว ไปสักการะเส้นพระเกศาของพระทุทธเจ้า ไหว้เทพทันใจ และเทพกระซิบ แล้วให้ลุงพาไปเมืองสิเรียม ชมเจดีย์เลเลพญา
บ่ายๆ : ไปวัดพระตาหวาน วัดพระหินอ่อนซึงเป็นมีพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหยกสีขาวสวยงาม แล้วไปต่อที่วัดพระเขี้ยวแก้ว ไหว้พระทันฑธาตของพระพุทธเจ้า

เย็นๆ : ให้รถพาไปส่งที่หน้ามหาเจดีย์ชเวดากอง เราอำลาลุงคนขับพร้อมจ่ายค่ารถ แล้วขึ้นไปไหว้พระข้างบน จ่ายค่าเข้าคนละ 5 usd แล้วต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้นบน เสียดายเย็นนั้นฝนลงโปรยปราย ถ่ายรูปได้ไม่สะดวก เราสัญญากับพี่ที่ไปด้วยว่าวันสุดท้ายก่อนบินกลับไทย เราจะไปถ่ายรูปพระเจดีย์ชเวดากองอีกครั้ง ไหว้พระเสร็จแล้วก็รีบลงมาด้านล่าง แล้วเรียกแท็กซี่ไปส่งสถานีรถบัสไปมัณฑะเลย์ จ่ายค่าแท็กซี่ไป 10 usd ระยะทางไกลเหมือนกัน เราว่าน่าจะเกิน 1 ชั่วโมง รถออกจากสถานีประมาณสองทุ่ม เราขึ้นรถแล้วก็หลับเลย โชคดีที่ก่อนขึ้นรถเราถามคนขับซะก่อนว่ามีผ้าห่มให้มั๊ย พอเค้าบอกว่าไม่มี เรารีบเปิดกระเป๋าเดินทาง หยิบผ้าห่มที่พกติดกระเป๋าออกมา ก่อนที่จะส่งกระเป๋าให้เด็กรถไปเก็บในช่วงเก็บกระเป๋า แต่บนรถจะมีหมอนรองคอให้ใช้ รถวิ่งมาสักพักใหญ่ๆ แล้วก็จอดให้เข้าห้องน้ำ 15 นามี เราลงไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา แล้วก็เดินดูอาหารที่วางขายที่สถานี อาหารน่ากินดี รู้สึกหิวเหมือนกัน เพราะยังไม่ได้กินมื้อเย็นเลย แต่กลัวกินไม่ทัน เพราะกว่าจะได้เข้าห้องน้ำ ต้องรอคิวเกือบห้านาที่ หลังจากนั้นก็ขึ้นรถแล้วหลับต่อ รถจอดครั้งที่สอง เพื่อให้ทานมื้อเย็น เรารีบลงไปซื้ออาหาร แล้วนั่งกินในสถานี เสร็จแล้วก็รีบไปแปรงฟัน กลับมาขึ้นรถ หลับยาวเลย รถจอดอีกครั้ง ตอนแรกคิดว่าถึงมัณฑะเลย์แล้ว เห็นเด็กรถหันมาพูดกับผู้โดยสาร แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง เห็นผู้โดยสารคนอื่นเดินลงจากรถ คิดว่าเค้าคงจอดพักรถ เรากำลังง่วง ก็เลยนอนต่อ แต่เด็กรถนำแปรงสีฟันมาแจก แล้วก็ยืนจ้องจนเราต้องพากันเดินลงจากรถตามคนอื่นไป ข้างนอกยังมืดอยู่เลย ดูนาฬิกาเกือบจะตีห้าแล้ว ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็
กลับมารอขึ้นรถ สักพักคนขับกับเด็กรถก็มาขึ้นรถ เดินทางกันต่อ

วันที่ 2 : เช้าตรู่ประมาณ 6 โมงเช้า รถบัสมาถึงสถานีเมืองมัณฑะเล พอลงจากรถ ก็มีคนขับรถสองแถวมารุมกันเต็มไปหมด เราเดินออกมาให้พ้นก่อน รับกระเป๋า เสร็จแล้ว มีคนขับสองแถวเข้ามาถามว่ามีที่พักรึยัง เค้าเสนอว่ามีที่พักประมาณ 10 usd ต่อห้อง เราก็ขึ้นรถ มีนักท่องเที่ยวอื่นๆขึ้นมาเต็มคันรถ คนขับพาไปจอดที่หน้าโรงแรม E-T พอคุยไปคุยมา ปรากฏว่าพวกเราถูกหลอก ค่าห้อง 25 usd ต่อห้องต่อคืน คนขับบอกว่าถ้าไม่พักที่นี่ก็ต้องจ่ายค่ารถสองแถวด้วย เราจ่ายค่ารถสองให้เค้าไป จำราคาไม่ได้ แล้วก็พากันเดินออกไปหาที่พักที่อื่น ได้พักโรงแรมอ่านออกภาษาไทยว่าสบายผิว ค่าห้องคืนละ 15 usd ห้องสองเตียง รวมอาหารเช้า หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเราก็ขึ้นไปกินอาหารเช้าบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม วิวสวยใช้ได้เลย พอลงมาข้างล่าง ก็มีรถสองแถวอีกคันที่ตามเรามาจากโรงแรมเดิม เค้าบอกว่า เป็นเพื่อนกับลุงคนขับแท็กซี่จากย่างกุ้งที่พาเราเที่ยวย่างกุ่งในวันแรกพร้อมเสนอพาเที่ยวจุดต่างๆ สองวันเต็ม เรากับเพื่อนๆช่วยกันต่อรองราคา แล้วก็ขึ้นรถไปเที่ยวเลย ที่แรก มัณทะเลย์ฮิลล์ ต้องเดินขึ้นเขาไปไกลและสูงพอประมาณ เนื่องจากวัดอยู่บนเขา มองลงไปข้างล่างเห็นแม่น้ำอิระวดี และทะเลเจดีย์เต็มไปหมด แรกๆก็รู้สึกตื่นเต้น มองไปทางไหนก็เจอแต่เจดีย์ พอสายๆคนขับรถก็พาไปส่งที่ท่าเรือ เพื่อลงเรือไปเที่ยวเมืองหลวงเก่าอังวะ ก่อนลงเรือ ก็ไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารใกล้ๆท่าเรือ เป็นอาหารพื่นบ้าน รสชาดใช้ได้ หลังจากนั้นก็ไปรอลงเรือนั่งเรือไปเมืองอังวะ พอไปถึงก็ต้องเหมารถม้าชมเมืองอังวะ ต้องเหมารถม้า 2 คัน เพราะคันหนึ่งนั่งได้ แค่ 3 คน ที่นี่เต็มไปด้วยวัดเก่าๆและเจดีย์สวยๆ เราจำชื่อไม่ค่อยได้ พอจบจากชมเมืองอังวะ ก็นั่งเรือกลับไปท่าเรือ ขึ้นรถไปชมพระอาทิตย์ตกที่สะพานอูเบ็งแห่งเมืองอมรปุระ
วันที่สองที่มัณฑะเลย์ นั่งเรือไปมิงกุน เที่ยวในมิงกุนครึ่งวัน กลับจากมิงกุนไปต่อที่สกายฮิลล์ ไปไหว้พระมหามัยมุนีก่อนที่จะนั่งรถบัสรอบเย็นไปพุกาม ถึงพุกามสี่ทุ่มครึ่ง เข้าที่พัก เช้าวันแรกที่พุกาม เหมารถม้าพาเที่ยวชมเจดีย์ต่างๆรอบเมืองพุกาม หลังจากชมวิวตอนพระอาทิตย์ตกรอบๆทะเลเจดีย์แห่งเมืองพุกามตอนพลบค่ำแล้ว ก็ปิดท้ายด้วยไปชมเจดีย์ชเวสิกองตอนกลางคืน พักที่พุกามอีกคืนเช้าต่อมานั่งรถบัสไปยองชเว ถึงยองชเวก็เย็นมากแล้ว วันแรกเที่ยวไหนไม่ทัน เข้าที่พักเลย เก็บสัมภาระแล้วเดินหาของกินง่ายๆ เช่นปลาย่าง ไก่ย่าง ลูกชิ้นปิ้งริมทาง แวะซื้อผลไม้ในตลาดสดเช้าอีกวันเหมาเรือไปเที่ยวทะเลสาบอินเลทั้งวัน กลับมาพักยองชเวอีกคืน (นอนยองชเวทั้งหมด 2 คืน) เช้าวันสุดท้ายที่ยองชเว ตอนเช้าเช่าจักรยานขี่เล่นในเมืองครึ่งวัน บ่ายสามครึ่งรถ

แท็กซี่ (ฟรี) มารับจากโรงแรมไปส่งท่ารถบัสกลับย่างกุ้ง รถออกห้าโมงเย็น ถึงย่างกุ้งเช้าตรู่ (15 สิงหาคม) เรียกแท็กซี่จากท่ารถไปหาโรงแรมถูกๆ แถวๆ ตลาดสุเหล่ (ใกล้ๆเจดีย์สุเหล่) เก็บของ อาบน้ำแล้วออกไปทานมื้อเช้าในตลาดสุเหล่ แล้วนั่งรถเมลล์ ไปชมมหาเจดีย์ชเวดากองอีกครั้ง ก่อนกลับโรงแรมแวะทานอาหารพื้นเมืองในร้านเล็กๆใกล้เจดีย์ชเวดากอง แล้วนั่งรถเมล์กลับที่พัก อาบน้ำแต่งตัว แล้วให้เด็กที่โรงแรมเรียกแท็กซี่ให้ ไปส่งสนามบินย่างกุ้ง เครื่องออก 6 โมงเย็น บินถึงเมืองไทย 2 ทุ่มเศษ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments