ABC Treks (Annapurna Base Camp) เนปาล 9 วันเต็ม
ทริปนี้ บางเอเจ้นก็จะจัดรวมกับเส้น Poon Hill แต่เราจัดแยกจากเส่น Poon Hill ความยากของการเดินทางก็จะเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ต้องเดินขึ้นสูงกว่า ขึ้นบันไดหินเยอะกว่า แต่ธรรมชาติและทิวทัศน์ระหว่างทางสวยไม่เป็นรองเส้นพูนฮิลล์เลย สมาชิกจะได้เข้าใกล้ยอดเขาที่สูงติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกมากมายเช่น Mt.Machhapuchre หรือที่นิยมเรียกกันว่ายอดเขาหางปลา, Mt.Annapurna, Mt.Dhaulagiri, Mt.Ganuapurna แต่ไม่ใช่ว่าที่ที่ไม่เคยไปเทรคพูนฮิลล์มาก่อน จะไม่สามารถไปเดินเส้น ABCได้นะคะ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือเคยไปเดินเขาในเมืองไทยมาบ้าง ท่านก็สามารถผ่านเส้นทางนี้ได้อย่างสบายๆ
ทริปที่จัดปี 2566
08 – 16 เมย. : เทศกาลสงกรานต์ อากาศหนาวเย็นบนยอดเขาสูงๆ อาจจะเจอหิมะที่ ABC
07 – 15 ตค. : วันคล้ายวันสวรรคต ร.9 : อากาศเย็นสบายๆ ท้องฟ้าใสกิ๊ก ดอกไม้ป่ากำลังบาน
21 – 29 ตค. : วันปิยะมหาราช : อากาศเริ่มหนาว ท้องฟ้าใสกิ๊ก ดอกไม้ป่ากำลังบาน
28 ตค. – 6 พย. : อากาศหนาวเย็นมาก อาจจะเห็นหิมะตกที่ ABC
03 – 12 ธค. : วันพ่อแห่งชาติ : อากาศหนาวเย็น ไปเล่นหิมะที่ ABC กัน
หมายเหตุ : ถ้ามีกรุ๊ปส่วนตัว สามารถกำหนดวันเดินทางเองได้ กี่คนก็ออกทริปได้ เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์สูงอยู่ที่เนปาล สามารถจัดการทุกอย่างให้ได้
ติดต่อ ศิริพร : 098-2725406, 092-4341166 Line ID : ssp061962
อีเมล์ : s_pond2010@hotmail.com
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก : กรุงเทพ-กาฐมาณฑุ-โพครา |
08.00 น. |
เช็คอินน์ กับสายการบินไทยสมายด์ ไฟร้ท์ WE 319 |
10.15 น. |
ได้เวลาบินสู่กรุงกาฐมาณฑุ เนปาล ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.ครึ่ง |
12.45 น. |
ถึงกาฐมาณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระออกจากสนามบิน เดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภายในประเทศ |
14.30 น. |
บินไป เมืองโพครา โดย Yeti Airlines ใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที |
15.00 น. |
ถึงเมืองโพครา รับสัมภาระแล้วนั่งรถไปที่พักในเมืองโพครา ประมาณ 15 นาที |
15.30 น. |
เข้าที่พัก โรงแรมในเมืองโพครา เก็บสัมภาระ ปล่อยตามอัธยาศัย |
เย็นๆ |
ประมาณ ห้าโมงเย็นพากันเดินเท้าจากที่พักไปถ่ายรูปเล่นริมทะลสาบเฟว่า (Phewa Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองโพครา จะมองเห็นเรือพายสีสันสดใสจำนวนมากจอดรอให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังเกาะกลางทะเลสาบ ในวันที่ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอ จะมองเห็นยอดเขาหางปลา (Machhapuchre mt.) หรือยอดเขามัจฉาปุชเรสีขาวใหญ่โตอลังการโผล่มาทักทายนักท่องเที่ยวได้ตื่นเต้นถ่ายรูปกันรัวๆ ใครต้องการจะนั่งเรือไปชมบาราฮี ซึ่งเป็น วัดฮินดู ที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบเฟว่าก็สามารถเช่าเรือพร้อมคนพายให้พายไปส่งได้ (ค่าเช่าต่อลำประมาณ 8 usd) นั่งได้ 8 คน |


วันที่ 2 : Pokhara – Jhinu Bridge – Chomrong – Lower Sinuwa (2030 m.) 5-6 ชม. |
เช้า |
ทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. |
นั่งรถจี๊ปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จากเมือง Pokhara ไปส่งที่หมู่บ้าน Syomrong
ซี่งอยู่ใกล้ๆกับ Jhinu Bridge พอลงจากรถก็ส่งสัมภาระให้ลูกหาบ เริ่มออกเดินประมาณครึ่งชั่วโมงไปยังหมู่บ้าน Jhinu Danda |
เที่ยง |
ทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Jhinu Danda ใครยังไม่หิวก็เดินต่ออีก 2 ชั่วโมงไปทานที่ หมู่บ้าน Chomrong ก็ได้ มีร้านอาหารให้เลือกหลากหลายกว่า |
บ่ายๆ |
จาก Jhinu ออกเดินทางต่อ ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ไปพักค้างคืนที่หมู่บ้าน Lower Sinuwa เดินผ่านหมู่บ้าน Chommrong ซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่ที่สุดในเส้นทางนี้ เป็นชุมทางสำหรับการเทรคกิ้งเส้น ABC และเป็นศูนย์ขายส่งสินค้าราคาถูก ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆในแถบนี้มักจะมาซื้อสินค้าจากหมู่บ้าน Chhomrong ไปขายหรือหรือนำไปใช้ ใครที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์อะไรก็หาซื้อได้ที่หมู่บ้านนี้ มีทุกอย่างทั้ง เสื้อผ้ากันหนาว หมวก รองเท้า ถุงมือ ถุงเท้า อุปกรณ์เดินเขา ขนมขบเคี้ยว ร้านชากาแฟ เบเกอรี่ มีไว้บริการนักเดินเขาที่ผ่านไปผ่านมา ออกเดินทางกันต่อ |
เย็นๆ |
ถึงหมู่บ้าน Lower Sinuwa เก็บสัมภาระเข้าห้องพัก สั่งอาหารไว้ก่อน นัดเวลากับทางเกสเฮ้า แล้วค่ำๆออกไปทานกัน |


วันที่ 3 : Sinuwa – Bamboo – Dovan – Himalaya (2920 เมตร) เดินประมาณ 6 ชั่วโมง |
เช้า |
ทานมื้อเช้าที่โรงแรม |
08.00 น. |
ออกเดินทางต่อ ไปพักค้างคืนที่หมู่บ้าน Himalaya เดินผ่านหมู่บ้าน Upper Sinuwa ซึ่งอยู่ห่างออกไปครึ่งชั่วโมง ยอดเขา Machhapuchre หรือยอดเขาหางปลา โผล่มาทักทายเต็มๆ |
เที่ยงๆ |
พักทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Bamboo (2145 m.) หลังจากนั้นออกเดินทางกันต่ออีกครึ่งทาง หรือประมาณ 3 ชั่วโมง |
เย็นๆ |
ถึงหมู่บ้าน Himalya ไปถึงรีบสั่งอาหารมื้อเย็นเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นถ้าใครต้องการจะอาบน้ำอุ่นก็ต้องรีบเข้าคิวกันหน่อยเพราะห้องอาบน้ำร้อนมีน้อย (จ่ายค่าอาบน้ำอุ่นกันเองนะคะ ประมาณ 200-300 รูปี) |


วันที่ 4 : Himalaya – Deurali – MBC – ABC (4130 เมตร) เดินประมาณ 6 ชั่วโมงเศษ |
เช้า |
ทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของเกสเฮาส์ |
08.00 น. |
ออกเดินทางกันต่อ วันนี้ต้องเดินทางกันประมาณ 6 ชั่วโมงเศษ เดินผ่านหมู่บ้าน Deurali (สูง 3200 เมตร) |
เที่ยง |
พักทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน MBC (Machhapuchre Base Camp) (สูง 3700 เมตร) หลังจากนั้นก็ออกเดินกันต่อ |
บ่ายๆ |
ถึง ABC (Annapurna Base Camp) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของทริปนี้ เข้าที่พักเก็บสัมภาระ แล้วสั่งอาหารมื้อเย็นไว้ก่อน นั่งพักให้หายเหนื่อย จิบชา กาแฟแก้หนาวกันก่อน เย็นๆออกไปถ่ายรูปทิวทัศน์และพระอาทิตย์ตกสวยๆที่รอบๆเบสแคมป์กัน เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม หมวก ถุงมือ ขาดไม่ได้ บน ABC อากาศหนาวเย็นมาก เพราะได้ขึ้นมาที่ระดับความสูงถึง 4130 เมตรแล้ว) ถ้าไปเดือนเมษายน อากาศบนเขาจะหนาวเย็นกว่าเดือนตุลาคม อุณหภูมิอาจจะถึง 0 องศาหรือถึงขั้นติดลบ เพราะล้อมรอบไปด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ ตรงเบสแคมป์ สามารถมองเห็นยอดเขาสูงๆจำนวนมาก ที่โดดเด่นคือ Annapurna I (8,091 เมตร) ยอดเขาสูงอันดับ 10 ของโลก, Annapurna south (7,219 เมตร), Machapuchare (6,993 เมตร) |
18.00 น. |
ทานมื้อเย็นด้วยกันที่เกสเฮ้าส์ หลังจากนั้นใครอยากจะออกไปถ่ายรูปดาวสวยๆก็เชิญตามอัธยาศัย แล้วแยกกันไปพักผ่อน |


วันที่ 5 : ABC – MBC – Deurali – Himalaya – Dovan – Bamboo ((2310 m.) 6-7 ชั่วโมง |
06.00 น. |
ตื่นเช้า ออกไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเทือกเขาหิมะสวยๆกัน สัมผัสอากาศหนาวเย็น เก็บบรรยากาศสวยๆแสนประทับใจไว้ให้เยอะที่สุด แล้วกลับมากันทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของเกสเฮาส์ แล้วออกไปถ่ายรูปวิวทิวทัศน์รอบๆ ABC ตอนที่แดดจ้าๆ กันอีกรอบ |
09.00 น. |
ได้เวลาอำลา ABC กันแล้ว วันนี้เราต้องเดินลงเขากันยาวๆกันเลย เราออกจากที่พักกันสายๆก็ได้ ให้สมาชิกดื่มด่ำบรรยากาศที่เบสแคมป์กันให้เต็มอิ่ม |
เที่ยงๆ |
แวะทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Himalaya แล้วออกเดินทางกันต่อ |
18.00 น. |
ถึงหมู่บ้าน Bamboo เก็บสัมภาระ แล้วสั่งอาหารมื้อเย็น ทานพร้อมกัน แล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน |


วันที่ 6 : Bamboo – Sinuwa – Chhomrong – Jhinu Danda (1780 เมตร) |
08.00 น. |
ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารที่เกสเฮ้าส์ |
08.30 น. |
ออกเดินทางกันต่อ เดินลงเขายาวๆไปเลย จนถึง Sinuwa เดินลงเขาสลับกับไต่ขึ้นไปเขาจนถึงหมู่บ้าน Chhomrong |
เที่ยงๆ |
ทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Chhomrong |
บ่ายๆ |
เดินถึงหมู่บ้าน Jhinu Danda เก็บสัมภาระ สั่งอาหารมื้อเย็นไว้ก่อนแล้วไปแช่น้ำพุร้อนกันที่บ่อน้ำพุร้อนที่หมู่บ้าน Jhinu Danda ซึ่งมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ริมแม่น้ำ ถ้าต้องการไปแช่น้ำพุร้อน ต้องเดินลงเขาไปจากที่พักประมาณ 15 นาที (ให้ท่านนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วย ใครที่ไม่ได้สระผมมาหลายวัน แนะนำให้สระที่นี่เลย มีก๊อกน้ำให้สระผม อาบน้ำเสร็จก็ต้องเดินขึ้นบันไดกลับที่พักอีกอีกประมาณ 20 นาที ถึงที่พักแล้วจะรู้สึกหิวจนตาลายเพราะแช่น้ำพุร้อนกันนาน เสียพลังงานไปเยอะ (หมายเหตุ : ใครต้องการไปแช่น้ำพุร้อนให้เตรียมเงินไปจ่ายค่าบำรุงรักษาบ่อน้ำพุ 100 รูปีด้วยค่ะ) |
เย็นๆ |
ทานมื้อเย็นพร้อมกัน คืนนี้อากาศไม่ค่อยหนาวมาก อาจไม่ต้องใช้ถุงนอนก็ได้ |

วันที่ 7 : Jhinu Danna-New Bridge-Birethanti -Nayapul-Pokhara |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของเกสเฮ้าส์ |
08.00 น. |
ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะเดินกันประมาณ 3 ชั่วโมงผ่านหมู่บ้าน New Bridge |
เที่ยง |
แวะทานมื้อเที่ยงกันหมู่บ้าน New Bridge แล้วเดินทางกันต่ออีกนิดหน่อย จะต้องเดินผ่านนาข้าวขั้นบันไดสวยๆที่ชาวบ้านปลูกเรียงกันเป็นระดับบนไหล่เขา ดูสวยงาม อาจจะต้องหยุดถ่ายรูปไปเป็นระยะๆ พอข้ามสะพาน Jhinu Bridge แล้วเดินไปขึ้นรถจี๊บกลับเมืองโพครา นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง |
บ่ายๆ |
ถึงโพคราเก็บสัมภาระ แล้วใครหมดแรงอยากพักผ่อนก็ตามสบาย หรือใครต้องการจะออกไปเดินช๊อปปิ้ง ซื้อของฝากของขวัญก็เชิญตามอัธยาศัย |
เย็น |
ไปหามื้อเย็นที่ร้านอาหารแถวทะเลสาบเฟว่าทานกัน |


วันที่ 8 : Pokhara-Kathmandu-Thamel |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้า ด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรมในเมืองโพครา หลังจากนั้นปล่อยตามอัธยาศัย |
10.30 น. |
นั่งรถไปสนามบินโพครา ประมาณ 10 นาที แล้วเช็คอินน์กับสายการบิน Yeti Airlines |
11.00 น. |
บินสู่เมืองกาฐมาณฑุ ใช้เวลาบินประมาณครึ่งชั่วโมง |
11.30 น. |
ถึงสนามบินภายในประเทศกาฐมาณฑุ รับสัมภาระแล้วขึ้นรถยนต์ พาไปส่งที่พักในทาเมล ใช้เวลาเดินทางประมาณประมาณ 30 นาที |
12.30 น. |
ถึงที่พัก เก็บสัมภาระ แล้วพาไปทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารในย่านทาเมล |
13.30 น. |
เดินทางด้วยรถตู้พาท่านไปชมเจดีย์โพดะนาถ (Bhoudanath Stupa) และวัดลิงหรือหรือ Swayambhunath Temple เจดีย์โพดะนาถ (Bhoudanath Stupa) เป็นมีสถูปดวงตาเห็นธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์สถูปทรงกลมสีขาวมีภาพดวงตาเห็นธรรมสีแดง เหลืองและน้ำเงิน และเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาลและยังเป็นศูนย์กลางทางศาสนาแบบทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีบ้านเรือนสีสดใสตั้งอยู่รายรอบ จากนั้นนำท่านนั่งรถต่อไปชมวัดลิง หรือ Swayambhunath Temple ซึ่งเป็นวัดที่มีเจดีย์ดวงตาเห็นธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขา ต้องเดินขึ้นบันไดไปสูงพอประมาณ จากตัววัดมองลงมาเห็นวิวของกรุงกาฐมาณฑุทั้งเมือง ที่องค์เจดีย์จะมีคิ้วและดวงตาอยู่โดยรอบทั้งสี่ด้าน เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงมีอายุกว่า 2000 ปี องค์สถูปครึ่งวงกลมสีขาว เป็นสัญญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีปล้องไฉนสีทองเหลืองอร่าม 13 ชั้น เหนือองค์สถูป เป็นสัญลักษณ์แทนรระดับธรรม 13 ชั้นก่อนบรรลุพระนิพพาน |
17.30 น. |
พากลับที่พัก ล้างหน้าล้างตา แล้วออกไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในย่านทาเมล หลังจากนั้นก็ปล่อยท่านให้ช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย |

วันที่ 9 : Kathmandu – Bangkok |
08.00 น. |
ทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นปล่อยตามอัธยาศัย |
11.00 น. |
นั่งรถไปสนามบินตรีภูวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง |
12.00 น. |
เช็คอินน์กับสายการบินไทย โหลดสัมภาระ แล้วผ่านพิธีทางศุลกากร |
13.50 น. |
ได้เวลาเหินฟ้าโบกมืออำลาเนปาล ด้วย TG320 บินสู่ประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ |
18.25 น. |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน |
อัตราค่าทริป : ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในกรุ๊ป
อัตรานี้รวม
* ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ (ไป-กลับ)กาฐมาณฑุ-โพครา-กาฐมาณฑุ
* ค่าที่พักในโพครา 2 คืน (รวมอาหารเช้า)
* ค่าที่พักในทาเมล 1 คืน (รวมอาหารเช้า)
* ค่าที่พักบนภูเขาระหว่างการเทรคกิ้ง 6 คืน
* ค่าจ้างไกด์เดินเขาชาวเนปาล 1 คนสำหรับ 7 วัน
* ค่าจ้างลูกหาบแบกสัมภาระ 7 วัน (ลูกหาบ 1 คนต่อลูกค้า 2 คน น้ำหนักเป้ไม่เกินท่านละ 13 kg.)
* ค่า ACAP permit & TIMS CARD (ใบขออนุญาตเดินเขา)
* ค่ารถรับ-ส่งระหว่างสนามบิน-โรงแรม-จุดเริ่มเทรคกิ้ง ตลอดทริป
* ค่าทำวีซ่าเข้าเนปาล
อัตรานี้ไม่รวม
* ตั๋วการบินไทย หรือไทยสมายด์ ไป-กลับ กรุงเทพ-กาฐมาณฑุ
(เช็คค่าตั๋วเครื่องบินวันที่จองทริป จองทริปมาแต่เนิ่นๆ มีโอกาสได้ตั๋วถูกกว่า)
* ค่าประกันภัยการเดินทาง
* ค่าอาบน้ำร้อนและชาร์จแบตเตอรี่ตามโรงแรมบนภูเขา บางที่ก็ฟรีและบางที่อาจจะคิดเงิน
* ค่าอาหารทุกมื้อระหว่างการเทรคกิ้งบนเขา 6 วัน(สามารถสั่งทานได้เองจากโรงแรมบนเขาที่พัก ทุกคืนและมื้อเที่ยง สามารถซื้อทานตามร้านค้าระหว่างการเทรคกิ้ง)
* ค่าน้ำดื่มบรรจุขวดระหว่างเดินเทรคกิ้งบนเขา สามารถหาซื้อได้ที่โรงแรมหรือร้านค้าระหว่างทาง
* ค่าทิปไกด์-ลูกหาบ เด็กยกกระเป๋า เด็กเสิร์ฟ
* ค่าธรรมเนียมเข้าชมวัดและวัง (บางท่านอาจจะเคยไปมาแล้ว)
* ค่าเช่าถุงนอน ประมาณวันละ 100 รูปี (ถุงนอนควรรับอุณหภูมิได้ -5 ถึง -10 องศา)
* ค่าเช่าไม้เท้า ถ้าท่านไม่ต้องการซ์้อ เช่าก็ได้ ค่าเช่าประมาณ วันละ 20 รูปี
* ค่ารถนำเที่ยวชมเมือง ทั้งในกาฐมาณฑุและโพครา (กรุณาแจังล่วงหน้าจะติดต่อรถเช่าให้)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ติดต่อ ศิริพร : 098-2725406, 092-4341166
Line ID : ssp061962
Email : s_pond2010@hotmail.com
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ : 11/06268
การจองทริป
– สแกนหน้าพาสปอร์ตส่งมาทางอีเมลล์
– สำหรับท่านที่ให้เราจองตั๋วให้ เราจะเช็คค่าตั๋วให้ก่อนวันต่อวันค่ะ
– โอนค่าทริปก่อนวันเดินทางประมาณ 20 วันตอนที่นัดเจอ
เพื่อรับพาสปอร์ตไปขอวีซ่าเนปาลและทำประกันภัยการเดินทาง
การทำวีซ่า
– ส่งพาสปอร์ตและสำเนาพาสปอร์ตหน้าแรก 1 แผ่น (พาสปอร์ตต้องมีอายุการใช้เหลืออย่างต่ำ 6 เดือนนับจากวันเดินทาง)
– รูปถ่ายสีขนาด1 นิ้วครึ่ง 3 ใบ
(ทำวีซ่า 1 ใบ และส่งให้ทางเอเจ้นเนปาลทำ ACAP Permit &TIMS card อีก 2 ใบ)
สิ่งที่ต้องเตรียม
** ของใช้ส่วนตัว (สบู่, แปรงสีฟัน, ยาสีฟัน, ผ้าเช็ดตัว, ครีมทาผิว, ครีมกันแดด ลิปกลอสที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก)
** หมวกกันแดด หมวกกันหนาว แว่นตากันแดด ถุงมือ ถุงเท้า, หมวกอาบน้ำ, ถุงนอน, แจ๊คเก็ต, ไม้เท้า
** ยาสามัญประจำตัวที่จำเป็น
** อาหารแห้งต่างๆ เช่น มาม่า น้ำพริกชนิดต่างๆ กาแฟสำเร็จรุป น้ำปลา อาหารกระป๋อง (ควรนำติดตัวไปบ้างแต่อย่านำไปเยอะ)
กระเป๋าเดินทาง
* ควรเป็นเป้ เพราะสะดวกต่อลูกหาบ ซึ่งต้องแบกสัมภาระให้ท่านถึง 9 วันเต็ม ไม่ควรนำกระเป๋าลากใบโตๆ ไปหรือถ้านำไปควรฝากไว้ที่โรงแรมในทาเมลหรือโพครา ก่อนออกเทรคกิ้ง
* ควรมีกระเป๋าสะพายหรือเป้เล็กติดตัวสำหรับใส่ของใช้ส่วนตัว เช่นกระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต SD การ์ด ลูกอม หมากฝรั่ง
หมายเหตุ : สายการบินภายในประเทศ กำหนดให้น้ำหนักโหลดกระเป๋าได้ไม่เกิน 15 กก.ต่อท่าน
คำแนะนำเพิ่มเติม
*อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 1 บาท ~ 3.00 รูปี, 1 USD ~120-130 รูปี
*เวลาที่เนปาลช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 15 นาที
*ในกาฐมาณฑุและโพคราไฟฟ้าดับเป็นประจำ วันละหลายครั้งๆละ 2 ชม.
ควรเตรียม ไฟฉายพกติดตัวไปด้วย
*** ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะต้องเดินอย่างน้อยวันละ 4 ชม. อาจจะมีเกิดอาการแพ้ความสูงแต่ไม่รุนแรง แค่มึนศีรษะ ควรเตรียมยาสำหรับแก้อาการแพ้ความสูง (ไดอะม๊อก) ซึ่งต้องทานก่อนนอน และยาคลายกล้ามเนื้อซึ่งต้องทานทันทีหลังอาหารก่อนนอน ที่สำคัญ ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปใช้ครบ เช่นถุงนอนที่รับอุณหภูมิได้ไม่ต่ำกว่า -10 องศา เสื้อแจ็คแก็ตที่ให้ความอบอุ่นกับร่างกายได้ดีพอ ที่สามารถกันแดดและกันลมได้ด้วยถุงมือและหมวกไหมพรม หมวกกันแดด เพราะแม้อากาศจะหนาวแต่แดดก็แรงไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
Related