ทัวร์สิกขิม ดาร์จีลิ่ง ทะเลสาบฉางโก ลาเชน ช๊อปต้า ลาชุง หุบเขายุมถัง รวม 8 วัน
สิกขิม เป็นแคว้นเล็กๆแทรกตัวอยู่ใจกลางเทือกเขาหิมาลัย อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย มีอาณาเขต
ทิศเหนือ : ติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต (ประเทศจีน)
ทิศตะวันออก : ติดกับประเทศภูฏาน
ทิศตะวันตก : ติดกับประเทศเนปาล
ทิศใต้ : ติดกับรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย
ในอดีต สิกขิมเคยเป็นรัฐเอกราชปกครองตนเองโดยราชวงศ์นัมเยลมากว่า 300ปี สิกขิมผ่านการสู้รบและรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งเนปาล จีน รวมถึงประเทศล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ซึ่งมีผลทำให้สิกขิมต้องเสียดาร์จีลิ่งให้กับอังกฤษเพื่อแลกกับการอยู่อยู่รอดของประเทศในช่วงศต.ที่18 กระทั่งปี คศ.1975 สิกขิมกลายเป็นรัฐที่ 22 ของประเทศอินเดีย หลังจากผลการทำประชาพิจารณ์ของประชาชนส่วนใหญ่เลือกที่จะผนวกกับกับอินเดีย และก็นับเป็นการสิ้นสุดการปกครองโดยระบอบกษัตริย์ตั้งแต่บัดนั้นมา สิกขิมมีพื่นทีเพียง 2745 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 5.4 แสนคน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเนปาลี ที่อพยพมาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ส่วนชนพื้นเมืองอย่างชาวเลปชาและพูเทีย มักอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของสิกขิม พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา แทบจะไม่มีที่ราบให้เห็น จนได้รับการขนานนามว่า “ดินแดนไร้ที่ราบหรือดินแดนแห่งทะเลภูเขา” ด้วยเหตุนี้ การสัญจรในสิกขิมจึงต้องใช้เส้นทางรถยนต์ เป็นหลัก สิกขิมเป็นที่ตั้งของยอดเขาคังเชนจังก้า ที่สูงเป็นอันดับสามของโลก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสิกขิมติดกับชายแดนประเทศเนปาล sIKKIM มีจุดเด่นคือ มียอดเขาคังเชนจุงก้า ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก (สูง 8598 m) และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ และไม่มีการอนุญาตให้มีการปีนยอดเขานี้

กำหนดการออกทริปปี 2566
20 เมย.-27 เมย. : ดอกกุหลาบพันปีกำลังบานเต็มหุบเขา อากาศยังหนาวเย็นอยู่ มีหิมะที่ Zero Point และมีบ้างที่ทะเลสาบฉางโก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละวัน
29 เมย.- 06 พค. : วันแรงงาน & วันฉัตรมงคล : อากาศเย็นสบาย หิมะจะเหลือให้เห็นอยู่บ้างที่ Zero Point ดอกกุหลาบพันปีบนยอดเขาสูงยังมีเยอะอยู่
29 พย.- 06 ธค. : วันพ่อแห่งชาติ : อากาศหนาวเย็น ชวนไปสัมผัสหิมะกัน
สนใจจองทัวร์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ—>ศิริพร : 098-2725406, 092-4341166
ไลน์ไอดี : ssp061962
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก : สุวรรณภูมิ – กัลกัตต้า – Bagdogra – กังต๊อก | |
00.30 น. | นัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก เช็คอินน์ โหลดสัมภาระ |
02.40 น. | บินสู่สนามบินกัลกัตต้าโดยสายการบิน Indigo เที่ยวบิน 6E 1058 (ใช้เวลาบิน 2.35 ชม) |
03.45 น. | ถึงสนามบินกัลกัตต้า (เวลาที่อินเดีย ซึ่งช้ากว่าเวลาไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที) เข้าคิวรอแสตมป์วีซ่าที่สนามบิน พร้อมทำเพอร์มิต และผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วพาขึ้นรถออกเดินไปยังโรงแรมในเมืองกัลกัตต้า เช็คอิน เก็บสัมภาระ แยกย้ายกันไปพัก |
08.00 น. | ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟัน แล้วทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.30 น. | พาไปเที่ยวชมเมืองกัลกัตต้า เพื่อฆ่าเวลา ช่วงที่รอต่อเครื่อง เท่าที่เวลาจะอำนวย |
10.30 น. | พากลับโรงแรม เก็บสัมภาระ เช็คเอ้า เดินทางไปสนามบินภายในประเทศ |
11.00 น. | เช็คอินกับสายการบินภายในประเทศ Indigo ไฟร้ท 6E 751 โหลดสัมภาระ แล้วไปรอขึ้นเครื่องที่เกท |
12.20 น. | ได้เวลาบินสู่สนามบิน Bagdogra ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 25 นาที |
13.45 น. | ถึงสนามบิน Bagdogra รับสัมภาระ แล้วออกมาขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล |
14.00 น. | ออกเดินทางสู่เมืองกังต๊อก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐสิกขิม ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หมายเหตุ : เราจะต้องหยุดทำเพอร์มิตเข้าสิกขิมที่ด่านรังโปก่อนเข้าเขตสิกขิม ให้สมาชิกเตรียมสำเนาพาสปอร์ต สำเนาวีซ่าและรูปถ่ายไปด้วยนะคะ |
17.30 น. | ถึงกังต๊อกพาเข้าที่พัก เช็คอินน์เก็บสัมภาระ พาออกไปทานมื้อเย็นในย่าน MG Marg. |
วันที่ 2 : กังต๊อก – ทะเลสาบฉางโก (3780m) : 32 km (ไป-กลับ 4 ชม.) พาขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองกังต๊อก | |
07.00 น. | ประมาณ 7 โมงเช้า เจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรม ทานมื้อเช้าพร้อมกัน |
08.00 น. | นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าไปทะเลสาบ Tsomgo ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา |
10.00 น. | ถึงทะเลสาบ พาไปเช่ารองเท้าเพื่อเดินลุยหมะ หลังจากนั้น พาไปถ่ายรูปกับทะเลสาบสีเทอร์คอยซ์สวยๆ ที่มีฉากหลังเป็นยอดเขาหิมะสีขาว ถ่ายรูปกับตัวจามรีที่ชาวบ้านนำมาสวมเครื่องประดับร่างกายสวยๆ พามารับจ้างให้นักท่องเที่ยวขี่เล่นและถ่ายรูปกัน |
12.00 น. | ก่อนกลับพาไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารข้างทะเลสาบ จะเป็นอาหารแบบง่ายๆ เช่น ผัดหมี่ บะหมี่ต้ม ข้าวผัด โมโม่ ชานมหอมๆ |
15.30 น. | เดินทางกลับถึงเมืองกังต๊อกพาไปขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองกังต๊อก หลังจากนั้นพาไปเที่ยวเก็บตกสถานที่สำคัญอื่นๆในกังต๊อก เช่น Do-Drul Chorten Stupa สถูปสีขาวครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยกงล้อมนตรา 113 อัน ถ้ามีเวลาเหลือจะพาเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งไปชม Namgyal Institute of Tibetology ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศาสนาพุทธ นิกายทิเบต เช่นภาพเขียนพระพุทธประวัติ ทังก้า (Thangka) ภาพพระโพธิสัตว์ พระพุทธรูปโบราณล้ำค่าปางต่างๆ |
19.00 น. | ทานมื้อเย็นพร้อมกัน (ร้าน Taste of Tibetian) ในย่าน MG.Marg. แล้วพากันกลับที่พัก หรือถ้าอยากจะเดินช๊อปปิ้งต่อ ก็เชิญตามอัธยาศัย |
หมายเหตุ : คืนนี้ก่อนนอน เตรียมแยกกระเป๋าจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับใช้ในสิกขิมเหนือ 3 วัน (ของที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ ฝากไว้ที่โรงแรมได้ค่ะ) |
วันที่ 3 : สิกขิมเหนือ (ลาเชน) 117 km (6 ชม.) | |
เช้าตรู่ : | ตื่นเช้าคว้ากล้องวิ่งไประเบียงหลังของโรงแรม เพื่อถ่ายภาพยอดเขาคังเช็นจุงก้า ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกหลังจากนั้นก็แยกกันไปอาบน้ำแต่งตัว |
07.00 น. | ทานมื้อเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. | พาไปชม Enchey Monastery ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีอายุราว 200 ปี สร้างโดยลามะ Drupthob Karbo เป็นทรงเจดีย์จีน วัดนี้มีชื่อเสียงเรื่องระบำหน้ากาก ซึ่งเป็นงานประจำปี จัดทุกวันที่ 18 และ 19 ของเดือน ตามปฏิทินจันทรคติ |
09.30 น. | เดินทางต่อ นั่งรถไปเมืองลาเชน ซึ่งอยู่ทางเหนือของสิกขิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม. ทานมื้อเที่ยงที่เมือง Mangan แล้วออกเดินทางต่อ แวะถ่ายรูปกับทิวเขาสวยๆระหว่างทาง |
15.00 น. | ถึงเมืองลาเชน พาเข้าที่พัก เป็นเกสเฮ้าหรือโรงแรมสไตล์ทิเบต เช็คอินแล้วแยกย้ายกันเข้าห้องพัก เก็บสัมภาระ แล้วออกมาชมวิวเทือกเขาหิมะลัยที่สูงชัน ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย |
19.00 น. | ออกมาทานมื้อเย็นพร้อมกันที่ห้องอาหารของที่พัก |
Day 4 : Lachen – Thangu Village 30 km.(3962 เมตร) – Chopta Valley – Lachung | |
เช้า | ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม เป็นอาหารท้องถิ่น (มื้อบังคับ) หลังจากนั้นนั่งรถไปชม ช๊อปปต้าวัลเล่ย์ Chopta Valley ห่างจากเมืองลาเชนประมาณ 2 ชม.ครึ่ง ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศของธารน้ำแข็งซึ่งเกิดจากการละลายของหิมะบนยอดเขาแล้วไหลลงมาสู่ลำธารข้างล่าง ในฤดูหนาวที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยหิมะจนขาวโพลน ท่านจะมีโอกาสได้พบฝูงจามรี หรือ แย็ก (Yak) ที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงไว้จำนวนมากในหุบเขาแห่งนี้ ถ่ายรูปกันจนจุใจ แล้วนั่งรถต่อ พาไปไปดื่มชาที่หมู่บ้านถางคู(Thangu Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่สูงสุดในเส้นทางนี้ พร้อมอุดหนุดสินค้าพื้นเมืองต่างๆที่ชาวบ้านนำมาวางขาย รวมทั้งขนมของขบเคี้ยวตามร้านค้าของชาวบ้าน |
11.00 น. | นั่งรถกลับโรงแรมในเมืองลาเชน อีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทานมื้อเที่ยงที่โรงแรม |
14.00 น. | หลังจากนั้นเช็คเอ้าท์ อำลาเมืองลาเชน เดินทางสู่เมืองลาชุง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง |
เย็นๆ | ถึงเมืองลาชุง พาเข้าที่พัก เก็บสัมภาระ แล้วพานั่งรถออกไปเที่ยวชมบรรยากาศภายในเมืองลาชุง ได้เวลาพอสมควร พากลับที่พัก ทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหารของโรงแรม ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นสะใจ |
วันที่ 5 : ลาชุง-หุบเขายุมถัง (3659 m.) – Zero Point (ยูเมซัมดอง) 4800 m.) | |
เช้า | 07.30 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. | นั่งรถออกไปเที่ยวหุบเขายุมถัง (Yumthang Valley) ระยะทาง 24 km.จากเมืองลาชุง ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินกลางเทือกเขาหิมาลัย ตั้งอยู่สูงถึง 3564 เมตรจากระดับน้ำทะเลและยังได้รับสมญานามว่า “สวิสเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” ให้เวลาท่านถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความงดงามของทะเลภูเขาหิมะสีขาวที่สูงเสียดฟ้าสลับซับซ้อนสุดสายตา ระหว่างทางท่านจะเห็นดอกไม้ป่าสีสันสดใสรวมถึงดอกกุหลาบพันปีหลากสีสันและหลายสายพันธุ์ จากนั้นนั่งรถต่อขึ้นไป Zero Point หรือยูเมซัมดองอีก 15 km.ตั้งอยู่สูงถึง 4800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ให้ท่านได้เล่นหิมะและถ่ายรูปกันให้จุใจ (เตรียมอุปกรณ์กันหนาวกันให้เพียงพอนะคะ (ทั้งแจ๊คเก๊ต หมวก ถุงเท้า ถุงมือ ผ้าพันคอ ขอบอกว่าหนาวจนปากสั่นฟันกระทบ (ถ้ากลัวเปียกก็ควรเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วยค่ะ เพราะถ้าลมแรงหิมะก็จะตกแรงด้วยค่ะ) |
11.30 น. | เดินทางลงจาก Zero Point พากลับโรงแรมที่พัก ทานมื้อเที่ยง |
13.30 น. | อำลาเมืองลาชุง นั่งรถไปกลับ คืนนี้จะแวะพักระหว่างทางที่เมือง Mangan |
16.00 น. | ถึงเมือง Mangan พาเข้าที่พักเก็บสัมภาระ แล้วออกมาทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อบังคับอีกแล้ว) อิ่มแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น |
วันที่ 6 : Mangan-Gangtok – Darjeeling (2134 m) (6-7 hours.) | |
07.00 น. | ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. | อำลาเมือง Mangan นั่งเรถกลับกรุงกังต๊อก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. |
12.00 น. | ถึงกังต๊อกพาไปฝากสัมภาระที่โรงแรมเดิมที่เคยพักแล้วพาไปทานมื้อเที่ยงในย่าน MG.Marg หลังจากนั้นกลับไปรับสัมภาระที่โรงแรม |
13.30 น. | อำลาเมืองกังต๊อกออกเดินทางไปดาร์จีลิ่ง แวะชมวัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) เป็นศูนย์กลางของพระลามะนิกายหมวกดำซึ่งเป็นวัดในนิกายคาเกียวปะที่มีชื่อเสียงที่สุดในสิกขิม ก่อสร้างโดยกษัตริย์สิกขิมองค์ที่ 4 ภายในวัดประกอบไปด้วยห้องต่างๆ โดยห้องแรกเป็นที่ประดิษฐานรูปแทนองค์อดีตกัลป์วากรรมาปะที่ 16 ซึ่งเป็นผู้นำนิกายนี้ องค์กรรมาปะรังจุง เรกเป ดอร์เจ อพยพมาจากทิเบตภายหลังถูกจีนรุกราน เชื่อกันว่าในชาติปัจจุบันท่านได้กลับชาติมาเกิดเป็นดะไลลามะะองค์ที่ 17 หรือลามะอูเก็น ทรินเลย์ ดอร์เจ ซึ่งในห้องมีรูปของท่านตั้งอยู่ด้วย ขณะนี้ตัวท่านได้พำนักอยู่ที่ธรรมศาลา ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่องค์ดะไลลามะองค์ที่ 14 ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบตได้พำนักอยู่ สำหรับตัวอาคารเก่าของวัดรุมเต็กได้ถูกทำลายลงเนื่องจากแผ่นดินไหว จึงมีการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ นอกจากนี้วัดรุมเต็กยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาธรรมะของพระลามะโดยมีการก่อตั้งสถาบันศรีนาลันทาและเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี พศ.2524 โดยมีพระลามะมาจำวัดและศึกษาอยู่ประมาณ 120 รูป หลังจากนั้นออกเดินทางต่อสู่เมืองดาร์จีลื่ง |
16.30 น. | ถึงเมืองดาร์จีลิ่งพาเข้าที่พักเก็บสัมภาระแล้วพาไปทานมื้อเย็นในย่านตลาดชอร์ราสต้า (Chawrasta) ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของเมืองดาร์จีลิ่ง |
วันที่ 7 : ชมวิวไทเกอร์ฮิลล์–ชมอนุสรณ์สถาน Batasia Loop – วัด Dali – ชมสวนสัตว์แห่งเมืองดาร์จีลิ่ง – เที่ยวไร่ชาแห่งเมืองดาร์จีลิ่ง | |
04.00 น. | ออกเดินทางแต่เช้ามืดด้วยรถซูโม่จี๊ป เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือยอดเขาคังเชนจังก้า ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกที่จุดชมวิว Tiger Hill |
07.00 น. | กลับจาก Tiger Hill พาท่านแวะถ่ายรูปที่ Batasia Loop ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงนักรบกล้าชาวกุรข่า (Gurkha) ล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้ที่สวยงามมีวิวเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ให้สมาชิกได้มีเวลาช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองถูกๆที่พ่อค้าแม่ค้านำมาวางขายอยู่ริมทางรถไฟ แล้วพามาแวะไหว้พระที่วัดต้าลี่ (Dali) ถ้ารถไม่ติดจะพาไปชม Ghoom ก่อนที่จะกลับมาทานมื้อเช้าที่โรงแรมหรือร้านอาหารใกล้เคียง |
10.00 น. | พาไปชมสวนสัตว์แห่งเมืองดาร์จีลิ่ง (Himalayan Zoo Logical park) ชมแพนด้าแดง เสือดาวหิมะ จิ้งจอกหิมาลัย หมีดำ นกยูง และสัตว์ป่านานาชนิดอีกมากมาย ไปต่อกันที่ Everest Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติของนักไต่เขาและอุปกรณ์ของใช้ในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ของนักไต่เขาที่มีชื่อเสียงต่างๆ |
12.00 น. | กลับมาทานมื้อเที่ยงด้วยกันในภัตตาคารย่านถนนโชว์ราสต้า |
14.00 น. | พาไปถ่ายรูปกับสถานีรถไฟแห่งเมืองดาร์จีลิ่งและรถไฟ Toy train หลังจากนั้นพาไปชมไร่ชาแห่งเมืองดาร์จีลื่ง ให้สมาชิกได้ถ่ายรูปกับไร่ชาสวยๆ ที่มีภูเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง |
19.00 น. | ทานมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน |
วันที่ 8 : Darjeeling – Bagdogra – Kolkata – Bangkok | |
08.00 น. | พาไปทานมื้อเช้ากันที่ร้านอาหารในดาร์จีลิ่ง |
10.00 น. | อำลาดาร์จีลิ่ง เดินทางสู่สนามบิน Bagdogra ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง |
12.30 น. | ถึงสนามบิน Bagdogra เช็คอินน์ โหลดสัมภาระขึ้นเครื่องกับสายการบิน Indigo ไฟร้ท์ 6E 6444 |
13.00 น. | หลังจากนั้น ไปทานอาหารเที่ยงในสนามบิน (มื้อนี้เลือกทานกันเอง และจ่ายกันเองนะคะ) |
14.20 น. | ได้เวลาบินสู่สนามบินกัลกัตต้า ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 5 นาที |
15.25 น. | เดินทางถึงสนามบินโกลกัตต้า รับสัมภาระ แล้วพาเดินเท้าไปยังสนามบินระหว่างประเทศ ไปฝากสัมภาระ แล้วเรียกแท็กซี่พาไปช้อปปิ้งในเมืองกัลกัตต้ากัน |
18.00 น. | นั่งรถกลับสนามบินกัลกัตต้า ไปรับสัมภาระที่ฝากไว้แล้ว |
19.30 น. | พาไปเช็คอินกับสายการบิน Indigo ไฟร้ท 6E 6444 แล้วไปหามื้อเย็นทานกันในฟูดคอร์ตของสนามบินกัลกัตต้า (มื้อนี้เลือกทานกันเองและจ่ายกันเองนะคะ) |
21.30 น. | ได้เวลาเหินฟ้า อำลาดินแดนภารตะ บินกลับประเทศไทย ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 40 นาที |
วันที่ 9 : กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) | |
01.40 น. | ดึกๆ เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ |
หวังว่าช่วงเวลา 8 วันที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน กิน เที่ยว คุย ถ่ายรูป ช๊อปปิ้งด้วยกัน คงจะสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมทริปบ้างนะคะ และคงมีโอกาสได้ให้บริการพวกท่านในทริปต่อๆไปอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
อัตราค่าทริป : ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกแต่ละทริป
สมาชิก 5-6 ท่าน ค่าทริปท่านละ 30000-29500 บาท
สมาชิก 7-8 ท่าน ค่าทริปท่านละ 29000-28500บาท
สมาชิก 10-12 ท่าน ค่าทริปท่านละ 28000-27000 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ
ศิริพร 098-2725406,092-4341166 ไลน์ไอดี : ssp061962
หมายเหตุ : ถ้ามีกรุ๊ปส่วนตัวขั้นต่ำ 5 ท่าน สามารถกำหนดวันเดินทางได้เอง
รับสมาชิกได้ไม่เกิน 15 คน
อัตรานี้รวม
1.วีซ่าเข้าประเทศอินเดีย พร้อมเพอร์มิต (วีซ่าแบบ E Tourist Visa แบบไม่ต้องโชวฺ์ตัว)
2.ค่าประกันภัยและอุบัติเหตุที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ ระหว่างการเดินทาง (วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท)
3.ค่าที่พัก ห้องละ 2-3 คน แล้วแต่กรุ๊ปสมาชิก ทุกที่มีน้ำอุ่นให้อาบและมีผ้าห่มอุ่นๆให้ใช้
4.ค่ารถจิ๊ปซูโม่ หรือรถ Innova ที่ใช้เป็นพาหนะระหว่างการเดินทางในสิกขิมและดาร์จีริ่ง
5.ค่าขออนุญาตผ่านด่านตามจุดต่างๆ (Checking point) ระหว่างการเดินทางไปเที่ยวสิกขิมเหนือ และทะเลสาบ Tsomgo ต้องขอผ่านบริษัททัวร์ท้องถิ่นจากสิกขิมเท่านั้น นักท่องเที่ยวไม่สามารถเหมารถไปกันเองได้ ต้องมีไกด์จากเอเย่นท้องถิ่นนำไป ยกเว้นการเที่ยวในกรุงกังต๊อกและดาร์จีลิ่ง
6.ค่าธรรมเนียมเข้าชมวัดต่างในสิกขิมและดาร์จีลิ่ง รวมถึงค่าธรรมเนียมขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชมวิวเมืองกังต๊อก (Gangtok Ropeway)
7.ค่าอาหารในกังต๊อก สิกขิมเหนือและดาร์จีลิ่ง รวมถึงน้ำดื่ม ยกเว้นบางมื้อที่ให้เลือกทานกันเอง
ที่สนามบิน ตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
อัตรานี้ไม่รวม :
1.ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ BKK-Kolkata สายการบิน INDIGO และตั๋วภายในประเทศไปกลับ Kolkata-Bagdogra
2.ค่าทิปพนักงานขนกระเป๋า ไกด์ท้องถิ่น คนขับรถ เป็นธรรมเนียมที่ต้องให้ เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆ (เราแชร์กันให้เค้าได้ค่ะ) (เราใช้บริการไกด์และคนขับรถประจำ 5 วัน คือวันที่ไปทะเลสาบฉางกู่ และช่วงที่อยู่สิกขิมเหนือ 4 วัน)
3.ค่าอาหารและขนมขบเคี้ยวที่ท่านสั่งพิเศษ นอกเหนือไปจากรายการที่ทางบริษัทจัดให้
4.ค่าธรรมเนียม จ่ายค่าสัมภาระโหลดน้ำหนักเกิน (โหลดขึ้นเครื่องได้ไม่เกินคนละ 15 kg) สัมภาระหิ้วขึ้นเครื่องได้คนละ 7 kg.
5.ค่าตั๋วรถไฟทอยเทรน Toy Train แห่งเมืองดาร์จีลิ่ง ต้องจองผ่านเอเยนซี่ (ประมาณ 600-800 รูปีอินเดีย) ถ้าต้องการจะขึ้นรถไฟ เราไม่แน่ใจว่าจะจองได้หรือไม่ เพราะตั๋วมีจำนวนจำกัดต่อวัน
เอกสารประกอบการทำวิซ่าอินเดีย
– สำเนาพาสปอร์ต 1 แผ่น สแกนแล้วส่งทางไลน์
– รูปถ่ายสีขนาด 2×2 นิ้ว ฉากหลังสีขาวจำนวน 1 ใบ สแกนแล้วส่งทางไลน์
– รายละเอียดส่วนตัว 17 ข้อส่งอีเมลหรือทางไลน์
เอกสารที่ใช้ในการทำเพอร์มิต
– สำเนาพาสปอร์ต 3 ชุด
– สำเนาวีซ่าอินเดีย 3 ชุด
– รูปถ่ายสี ขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว จำนวน 6 ใบ
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนการเดินทาง
– หมวกกันแดด, หมวกกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้าควรเตรียมไปหลายๆคู่ อากาศที่สิกขิมหนาว
– ถุงนอนสำหรับคนขี้หนาว (ควรเตรียมถุงนอนที่รับอุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส)
– ผ้าเช็ดตัว เอาของตัวเองไปจะดีกว่า, ผ้าเช็ดหน้า ที่ปิดจมูกกันฝุ่น
– ทิชชูทั้งแห้งและเปียก แชมพู สบู่ ยาสีฟัน หมวกอาบน้ำ ที่พักส่วนใหญ่มีให้แต่สบู่
– ขนมต่างๆ (รวมถึงมาม่า น้ำพริก หมูหยอง หมูฝอย หมูเค็ม หรืออาหารกระป๋อง
– Memory card สำหรับกล้อง Digital (เผื่อไปให้พอ)
– แบตเตอรีสำรองสำหรับกล้องถ่ายรูป
– เพาเวอร์แบงค์สำหรับสมาร์ทโฟน
– ปลั๊กแปลงขาเสียบ (ที่สิกขิมจะใช้ปลั๊กแบบขากลม)
– ยาประจำตัว (เท่าที่จำเป็น) ส่วนยาไดอะม๊อกซ์แก้ AMS ทางเรามีไว้บริการให้สมาชิกค่ะ
– ให้สมาชิกเตรียมกระติกน้ำติดตัวไปด้วยเพื่อใส่น้ำต้ม เนื่องจากทางสิกขิมเหนือไม่อนุญาตให้นำ
น้ำดื่มบรรจุขวดเข้าไปรวมถึงเครื่องดื่มบรรจุขวดอย่างอื่น เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
การจองทริป
– ส่งสำเนาพาสปอร์ตมาให้ทางไลน์ และโอนเงินค่ามัดจำทัวร์คนละ 3000 โอนค่าตั๋วเครื่องบิน
ในวันที่จองทัวร์ (เราจะเช็คค่าตั๋วออนไลน์ให้ก่อนแจ้งให้โอนเงิน)
– ค่าทริปที่เหลือ จ่ายก่อนที่จะทำ E Tourist Visa ก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์
สนใจจองทัวร์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ ศิริพร : 0982725406, 092-4341166
Line ID : ssp061962
วิวสวยมาก อากาศหนาวเย็น ชอบภูเขาหิมะ ชอบดอกกุหลาบพันปีสีสวยๆบานเต็มหุบเขา