ทริปสิกขิม ทะเลสาบฉางโก ลาเชน ช๊อปต้าวอลเล่ย์ ลาชุง หุบเขายุมถัง รวม 7 วัน

สิกขิม เป็นรัฐเล็กๆ แทรกตัวอยู่ใจกลางเทือกเขาหิมาลัย อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย  มีอาณาเขต ทิศเหนือติดกับเขตปกครองตนเอ งทิเบต (ประเทศจีน) ทิศตะวันออกติดกับประเทศภูฏาน ทิศตะวันตกติดกับประเทศเนปาลและทิศใต้ติดกับรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย สิกขิม เคยเป็นรัฐเอกราชปกครองตนเองโดยราชวงศ์นัมเยล มากว่า 300 ปี สิกขิมผ่านการสู้รบและรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเนปาล จีน รวมถึงประเทศล่าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ซึ่งมีผลทำให้สิกขิมต้องเสียเมืองดาร์จีลิ่งให้กับอังกฤษเพื่อแลกกับการอยู่รอดของประเทศ ในช่วงศตวรรษที่ 18 กระทั่งปี คศ.1975 สิกขิมก็กลายเป็นรัฐที่ 22 ของประเทศอินเดีย หลังจากผลการทำประชาพิจารณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ เลือกที่จะผนวกกับกับอินเดีย และก็นับเป็นการสิ้นสุดการปกครองโดยระบอบกษัตริย์ตั้งแต่บัดนั้นมา
สิกขิม มีพื่นที่เพียง 2745 ตารางกิโลเมตร. มีประชากรประมาณ 5.4 แสนคน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเนปาลีที่อพยพมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ส่วนชนพื้นเมืองอย่างชาวเลปชาและพูเทีย มักอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของสิกขิมมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาแทบจะไม่มีที่ราบให้เห็น จนได้รับการขนานนามว่า “ดินแดนไร้ที่ราบหรือดินแดนแห่งทะเลภูเขา” ด้วยเหตุนี้ การสัญจรในสิกขิมจึงต้องใช้เส้นทางรถยนต์เป็นหลัก  สิกขิม  ยังเป็นที่ตั้งของยอดเขาคังเชนจุงก้าซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก (สูง 8598 เมตร) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสิกขิม ซึ่งติดกับชายแดนประเทศเนปาล และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สักการะบูชาของชาวสิกขิม ทางการสิกขิมไม่การอนุญาตให้ปีนยอดเขานี้ 

ทริปที่จัด  ปี 62-63
05 ธค. – 11 ธค.62 : อากาศหนาวเย็น เริ่มเข้าฤดูหนาว หิมะเริ่มตก
27 ธค. – 02 มค.63
: อากาศหนาวเย็น มีหิมะเยอะ ท้องฟ้าใสกิ๊ก เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหนาวเย็น
01 เมย. – 07 เมย.63 : เป็นช่วงที่สวยที่สุด มีหิมะที่ทะเลสาบ และสิกขิมเหนือ ดอกกุหลาบพันปีเริ่มเบ่งบาน
09 เมย. – 15 เมย.63 : เป็นช่วงที่สวยที่สุด มีหิมะที่ทะเลสาบ และสิกขิมเหนือ ดอกกุหลาบพันปีกำลังบานเต็มหุบเขา

หมายเหตุ : 
ถ้ามาด้วยกันเป็นกรุ๊ป สามารถกำหนดวันดินทางเองได้ 
*** เราเป็นบริษัททัวร์เล็กๆ มีหัวหน้าทัวร์จำกัด ดังนั้นแต่ละทริปเราจะไม่รับสมาชิกเยอะ อย่างมากก็ 2 คันรถ Innova ไม่เกิน 12 คน
ค่าทริปขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในกรุ๊ป
สอบถามรายละเอียดได้ที่
ศิริพร   092-4341166, 081-8183286  ไลน์ไอดี : sk_pond135

หมายเหตุ : 
ถ้าท่านมีเวลาพอ เรามีทริปสิกขิมระยะยาว 9 วันและ 10 วัน อีก 2 ทริปมาแนะนำ เพิ่มเที่ยวในเพลลิ่ง 1 วัน และเพิ่มเที่ยวที่ดาร์จีลิ่งอีก 2 วัน 

ดูตามลิงค์นี้ค่ะ
ทริปสิกขิม ดาร์จีลิ่ง  ทะเลสาบฉางโก หุบเขายุมถัง ช๊อปต้าวัลเล่ย์) รวม 9 วัน

 ทริปสิกขิม ดาร์จีลิ่ง เพลลิ่ง (หุบเขายุมถัง ช๊อปต้าวัลเล่ย์ ทะเลสาบฉางโก) 10 วัน

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก : สุวรรณภูมิ – กัลกัตต้า – Pakyong – กังต๊อก
03.00 น. นัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออกเช็คอินน์โหลดสัมภาระ
05.10 น. เหินฟ้าสู่สนามบินกัลกัตต้าโดยสายการบิน Spicejet เที่ยวบิน SG 84 (ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมงครึ่ง)
06.10 น. ถึงสนามบินกัลกัตต้า (เวลาที่อินเดีย ซึ่งช้ากว่าเวลาไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที) เข้าคิวรอแสตมป์วีซ่าที่สนามบินพร้อมทำเพอร์มิต และผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วออกเดินไปยังอาคารสนามบินภายในประเทศแล้วหาที่นั่งพักผ่อน เพื่อรอภายในประเทศไปสนามบิน Pakyong ที่สิกขิม
07.00 น. ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วหาอาหารเช้าทานภายในสนามบินกัลกัตต้ากัน (มื้อนี้ให้เลือกทานกันเอง และจ่ายตังค์เองนะคะ)
08.30 น. เช็คอิน กับสายการบิน Spicejet ไฟร้ท SG 3324 โหลดสัมภาระ ผ่านพิธีการตม.แล้วไปรอขึ้นเครื่องที่เกท
09.30 น. ได้เวลาบินสู่สนามบิน Pakyong ซึ่งเป็นสนามบินแห่งใหม่แห่งรัฐสิกขิม ใช้เวลาบิน 1 ชม. 25 นาที
10.55 น. ถึงสนามบิน Pakyong  ผ่านตม.รับสัมภาระ แล้วออกมาขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เดินทางไปเมืองกังต๊อก ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
11.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองกังต๊อก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐสิกขิม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)
12.10 น. ถึงกังต๊อก พาเข้าที่พัก Hotel Pomra เช็คอินน์เก็บสัมภาระ แล้วออกไปทานมื้อเที่ยงในย่าน MG Marg.
14.00 น. หลังจากนั้นพาไปเที่ยววัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) Rumtek Monastery วัดนี้เป็นวัดในนิกายคาเกียวปะ ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในสิกขิม ก่อสร้างโดยกษัตริย์สิกขิมองค์ที่ 4 ภายในวัดประกอบด้วยห้องต่างๆ โดยห้องแรกเป็นที่ประดิษฐานรูปแทนองค์อดีตกัลป์วากรรมาปะองค์ที่ 16 ซึ่งเป็นผู้นำนิกายนี้ องค์กรรมาปะรังจุง เรกเปดอร์เจ อพยพมาจากทิเบตภายหลังถูกจีนรุกราน เชื่อกันว่าปัจจุบันท่านได้ท่านได้กลับชาติมาเกิดเป็นดะไลลามะะองค์ที่ 17 หรือลามะอูเก็น ทรินเลย์ ดอร์เจ ซึ่งในห้อง มีรูปของท่านตั้งอยู่ด้วย ขณะนี้ท่านได้พำนักอยู่ที่ธรรมศาลา ที่เดียวกับที่องค์ทะไล ลามะองค์ที่ 14 ซึ่งเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบตพำนักอยู่ เพราะรัฐบาลอินเดียยังไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าสิกขิมเนื่องจากปัญหาทางการเมืองสำหรับตัวอาคารเก่าของวัดรุมเต็กได้ถูกทำลายลงจากแผ่นดินไหวปัจจุบันจึงมีการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่นอกจาก นี้วัดรุมเต็กยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาธรรมะ โดยมีการก่อตั้งสถาบันศรีนาลันทาและเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี พศ.2524 โดยมีพระลามะศึกษาอยู่ประมาณ 120 รูป
16.30 น. พาไปชม Do-Drul Chorten Stupa เป็นสถูปสีขาวงกลมใหญ่โต ล้อมรอบด้วยกงล้อมนตรา 113 อัน จากนั้นก็เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเป็น Namgyal Institute of Tibetology ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศาสนาพุทธ นิกายทิเบต เช่นภาพเขียน พระพุทธรูปพุทธโพธิสัตว์ต่างๆ


วันที่ 2 : กังต๊อก – ทะเลสาบฉางโก (3780m) : 32 km (ไป-กลับ 5 ชม.)
– พาขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองกังต๊อก
07.00 น. เจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรม ทานมื้อเช้าพร้อมกัน
08.00 น. ออกเดินทางไปเที่ยว ทะเลสาบฉางโก (Tsomgo Lake) ห่างจากกรุงกังต๊อก 32 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
10.30 น. ถึงทะเลสาบ ก่อนที่พาไปเดินลุยหิมะ จะพาไปเช่ารองเท้าบู๊ตที่ชาวบ้านนำมาบริการให้เช่าเพื่อเดินลุยหิมะ ค่าเช่าคู่ละ ประมาณ 80-100 รูปี หลังจากนั้นเปิดโอกาสให้เดินเล่นรอบทะเลสาบ ถ่ายรูปวิวสวยๆกันให้จุใจ
12.00 น. ก่อนพากลับกังต๊อก ทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารข้างทะเลสาบ จะเป็นอาหารแบบง่ายๆ เช่น ผัดหมี่ บะหมี่ต้ม ข้าวผัดโมโม่ ชานมหอมๆ
13.30 น. เดินทางกลับถึงเมืองกังต๊อก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
15.30น. ถึงกังต๊อกแล้วพาไปขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองกังต๊อก หลังจากนั้นถ้ามีเวลาพอจะเก็บตกแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในกังต๊อก
19.00 น. ทานมื้อเย็นพร้อมกัน (ร้าน Taste of Tibetian) ในย่าน MG.Marg. แล้วพากันกลับที่พัก หรือถ้าอยากจะเดินช๊อปปิ้งต่อ ก็เชิญตามอัธยาศัย





วันที่ 3 : กังต๊อก – ลาเชน : 117 km.(6 ชม.)
07.00 น. ทานมื้อเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรม เตรียมแยกกระเป๋าจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับใช้ในสิกขิมเหนือ 3 วัน (ของที่ไม่จำเป็นเราจะฝากไว้ที่โรงแรม Pomra ค่ะ)
08.00 น. ออกเดินทางด้วยรถซูโม่จี๊ปสู่เมือง Lachen ซึ่งอยู่ทางสิกขิมเหนือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม.วันนี้ต้องนั่งรถไกลและนานหน่อยนะคะ ระหว่างทางแวะถ่ายรูปน้ำตก 7 Sisters
12.00 น. ทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Mangan หลังจากนั้น พาท่านไปชมวัดโพดง (Phodong) ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน วัดนี้มีจุดชมวิวที่สวยงาม ในวันที่ท้องฟ้าสดใส สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้
17.00 น. ถึงเมืองลาเชนเข้าที่พักที่เมือง Lachen  โรงแรม Junifer Inn (ห้องละ 2 ท่าน) เก็บสัมภาระแล้วออกไปเดินเล่น ถ่ายรูปรอบๆหมู่บ้านลาเชนกัน
19.00 น. ทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อบังคับ) แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นสะใจ


วันที่ 4 : ลาเชน – หมู่บ้านถางคู (3962 เมตร) – ช๊อปต้า วอลเลย์ – ลาชุง (30 km.)
07.00 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อบังคับอีกแล้ว)
08.00 น. นั่งรถไปเที่ยวชมหมู่บ้าน Thangu (1 ชม.ครึ่ง) ระยะทางประมาณ 30 km. แวะถ่ายรูปแล้วนั่งรถต่อไปช๊อปปต้าวอลเล่ย์ (Chopta Valley) ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศของภูเขาหิมะแะลหุบเหว ลำธารซึ่งเกิดจากการละลายของหิมะบนยอดเขา บางที่ลำธารก็กลายเป็นหิมะไปแล้ว ท่านจะมีโอกาสได้พบฝูงจามรี หรือ แย็ค (Yak) ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เป็นจำนวนมากในหุบเขาแห่งนี้ถ่ายรูปกันให้เต็มอิ่ม แล้วพาท่านไปดื่มชานมหอมๆ ที่หมู่บ้านถางคู Thangu village พร้อมอุดหนุดขนมขบเคี้ยวต่างๆและสินค้าที่ระลึกที่ชาวบ้านนำมาวางขาย
11.00 น. นั่งรถกลับเมืองลาเชน ทานมื้อเที่ยงด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้ว
เช็คเอ้าท์ อำลาเมืองลาเชน
13.00 น. นั่งรถซูโม่จี๊ปคันเดิมเดินทางสู่เมืองลาชุง Lachung ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.เศษ
15.30.น. ถึงเมืองลาชุง เข้าที่พัก (ห้องละ 2 ท่าน) เก็บสัมภาระดื่มชาแก้หนาว แล้วออกเดินเล่นถ่ายรูปรอบๆหมู่บ้านตอนพระอาทิตย์ตกรับรองว่าสวยโรแมนติก เหมือนเมืองในจินตนิยาย จนยากจะบรรยายจนออกมาเป็นคำพูด19.00 น.ทานมื้อเย็นพร้อม (เป็นอาหารพื้นเมืองภาคบังคับอีกแล้ว) 3 วันที่เราอยู่สิกขิมเหนือ ทั้งลาเชนและลาชุงเราต้องทานอาหารที่ทางเอเยนซี่สิกขิมจัดให้ เพราะเราได้ซื้อทัวร์ท้องถิ่นซึ่งเหมารวมหมดทั้งค่ารถ คนขับ ค่าไกด์สิกขิม ค่าที่พัก ค่าอาหาร) ท่านที่ทานยากควรเตรียมอาหารแห้งง่ายๆ ที่ท่านชอบติดตัวไปเช่น หมูฝอย หมูหยอง หมูสวรรค์ น้ำพริกต่างๆ ทั้งนรก สวรรค์


วันที่ 5 : ลาชุง – หุบเขายุมถัง (3659 m.) – ยูเมซัมดอง (Zero Point-4800 m.)
07.30 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกไปหุบเขายุมถัง (Yumthang Valley) 24 km.จากเมืองลาชุง ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินกลางเทือกเขาหิมาลัย และยังได้รับสมญานามว่าเป็น   “สวิสเซอร์ แลนด์แห่งเอเชีย” ตั้งอยู่สูงถึง 3564 m จากระดับน้ำทะเล ให้เวลาท่านถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความงดงามของทะเลภูเขาที่สูงเสียดฟ้าสลับซับซ้อนสุดสายตา ระหว่างทางท่านจะพบดอกไม้ป่าสีสันสดใสรวมถึงดอกกุหลาบพันปีหลากสี’หลายสายพันธุ์ ที่บานให้เห็นเฉพาะเดือนเมษาน – พฤษภาคมเท่านั้น  จากนั้นนั่งรถต่อขึ้นไปยูเมซัมดอง หรือ Zero Point อีก 15 km.ให้ท่านได้เล่นหิมะ ถ่ายรูปกันให้เต็มอิ่ม (เตรียมอุปกรณ์กันหนาวกันให้ดีๆนะคะ (ทั้งแจ๊คเก๊ต หมวก ถุงเท้า ถุงมือ ผ้าพันคอ ขอบอกว่าหนาวจนปากสั่นฟันกระทบ (ถ้ากลัวเปียกก็ควรเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วยค่ะเพราะถ้าลมแรงก็จะมีหิมะตกด้วยค่ะ)
13.00 น. เดินทางลงจาก Zero Point กลับโรงแรมที่พัก ทานมื้อเที่ยงที่โรงแรม (มื้อนี้เราอาจจะทานมื้อเที่ยงสายหน่อยถ้าสมาชิกใช้เวลาไปกับการถ่ายรูปที่หุบเขายุมถังและยูเมซัมดองมากเกินไป เราจะเตรียมขนมต่างๆไว้ให้รองท้องก่อน) ทานอาหารเสร็จแล้วแล้วออกไปตระเวนถ่ายรูปรอบๆหมู่บ้านลาชุง ชมพระอาทิตย์ตกเหนือยอดเขาสูงหน้าโรงแรม
19.00 น. ทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อบังคับอีกแล้ว) แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อนท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ


วันที่ 6 : ลาชุง – กังต๊อก (121 km : 6 hours.)
07.00 น. ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือยอดเขาสูงถ่ายรูปกัน หลังจากนั้นก็ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. อำลาลาชุงนั่งเรถกลับกรุงกังต๊อก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เราจะแวะทานมื้อเที่ยงระหว่างทางที่หมู่บ้าน Mangan
14.00 น. โดยประมาณถึงกังต๊อก เช็คอินน์ที่ Hotel Pomra ที่เดิม จากนั้นจะปล่อยอิสระให้ท่านได้ช๊อปปิ้ง หรือเดินเที่ยวเก็บตกตามสถานที่ต่างๆที่เรายังไม่ได้ไป เช่นขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชมวิวกรุงกังต๊อก และพาไปชม Do-Drul Chorten Stupa เป็นวัดที่มีสถูปสีขาวเด่นเป็นสง่าล้อมรอบด้วยกงล้อมนตรา 113 อัน จากนั้นก็เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเป็น Namgyal Institute of TibetTibetology ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับศาสนาพุทธ นิกายทิเบตที่เก่าแก่และมีค่า เช่นภาพเขียนและพระ พุทธรูปปางต่างๆม้วนพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนา
19.00 น. ทานมื้อเย็นพร้อมกัน ที่ร้านอาหารแถว MG.Marg.


 

วันที่ 7 : Gangtok – Bagdogra – Kolkata
08.00 น. พาไปทานมื้อเช้ากันที่ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. อำลากังต๊อก เดินทางสู่สนามบิน Bagdogra ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.
12.00 น. ถึงสนามบิน Bagdogra เช็คอินน์ โหลดสัมภาระขึ้นเครื่องกับสายการบิน Go Air ไฟร้ท์ 8G 537
13.00 น. หลังจากนั้น ไปทานอาหารเที่ยงในสนามบิน (มื้อนี้เลือกทานกันเอง และจ่ายกันเองนะคะ)
14.40 น.  ได้เวลาบินสู่สนามบินกัลกัตต้า ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 10 นาที
15.50 น. เดินทางถึงสนามบินโกลกัตต้า รับสัมภาระ แล้วพาเดินไปรอต่อเครื่องที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
18.00 น. ทานมื้อเย็นกันในสนามบินโกลกัตต้า (มื้อนี้เลือกทานกันเอง และจ่ายกันเองนะคะ)
19.00 น. เช็คอิน กับสายการบิน Indigo ไฟร้ท 6E 77
20.50 น. ได้เวลาเหินฟ้า อำลาดินแดนภารตะ บินกลับประเทศไทย ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 45 นาที
วันที่ 8 : บินถึงกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) โดยสวัสดิภาพ
04.10 น. (วันรุ่งขึ้น) ตามเวลาประเทศไทย เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน ขอให้กลับไปทำงานอย่างมีความสุขนะคะ ขอบคุณค่ะ

อัตราค่าทริป 
สมาชิก 5-6 คน ค่าทริปท่านละ 43,500 บาท
สมาชิก 10-12 คน ค่าทริปท่านละ 42,500 บาท

หมายเหตุ
รับสมาชิกไม่เกิน 12 ท่าน และรับจัดทริปแบบกรุ๊ปส่วนตัวขั้นต่ำ 5 คนสามารถกำหนดวันเดินทางได้เอง

อัตรานี้รวม :

  1. ตั๋วเครื่องบินไปกลับ Bangkok-Kolkata-Pakyong-Kolkata-Bangkok ด้วยสายการบิน Spicejet  (ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ)
  2. วีซ่าเข้าประเทศอินเดียและเพอร์มิตเข้าสิกขิม
  3. ค่าประกันภัยและอุบัติเหตุที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ ระหว่างการเดินทาง (วงเงิน 1 ล้านบาท)
  4. ค่าที่พัก ห้องละ 2-3 คน โรงแรมสะอาด ทุกที่มีน้ำอุ่นให้อาบ วิวสวย
  5. ค่าอาหาร วันละ 3 มื้อ ยกเว้นบางมื้อที่สนามบิน สมาชิกต้องซื้อทานกันเอง
  6. ค่ารถ รับ-ส่งตามโปรแกรม
  7. ค่าขออนุญาตผ่านด่านต่างๆ (Checking point) ระหว่างการเดินทางไปเที่ยวสิกขิมเหนือ และทะเลสาบฉางกู่ ต้องผ่านบริษัททัวร์จากสิกขิมเท่านั้น นักท่องเที่ยวไม่สามารถจะเหมารถไปกันเองได้ ต้องมีไกด์จากเอเย่นท้องถิ่นนำไป ยกเว้นการเดินทางในกรุงกังต๊อกและเมืองเพลลิ่งเท่านั้น

ค่าธรรมเนียมเข้าชมวัดต่างในสิกขิมรวมถึงค่าธรรมเนียมขึ้นกระเช้าไฟฟ้า(Gangtok Ropeway)

อัตรานี้ไม่รวม :

  1. ค่าทิปพนักงานขนกระเป๋า ไกด์ คนขับรถ เป็นธรรมเนียมที่ต้องให้ ไม่ให้เค้าทวง (เราแชร์กันให้เค้าได้) เราใช้บริการไกด์และคนขับรถประจำ 4 วัน คือช่วงที่อยู่สิกขิมเหนือ 3 วันและเที่ยวในกรุงกังต๊อกอีก 1 วัน)
  2. น้ำดื่มในห้อง เนื่องจากสิกขิมจะไม่มีน้ำดื่มไว้บริการตามห้องนอนเหมือนโรงแรมบ้านเรา ท่านสามารถสั่งซื้อจากโรงแรมได้ในราคาขวดละ 20-25 รูปี
  3. ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ท่านสั่งพิเศษ เพิ่มไปจากรายการที่ทางบริษัทจัดให้
  4. ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเกินสำหรับการโหลดน้ำหนักเกิน
    (โหลดขึ้นเครื่องได้ไม่เกินคนละ 15 kg) ถือขึ้นเครื่องได้ 7 kg.

การทำวีซ่า

  1. สำเนาพาสปอร์ต 2 แผ่น
  2. รูปถ่ายสีขนาด 2×2 นิ้ว ฉากหลังเป็นสีขาวเท่านั้นจำนวน 1 ใบและ ขอ รูปถ่ายเพิ่มจำนวน 6 ใบสำหรับการทำเพอร์มิตไปเที่ยวสิกขิมเหนือและไปเที่ยวทะเลสาปฉางกู่

สิ่งที่ต้องเตรียมไป

  • หมวกกันแดด, หมวกกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้าควรเตรียมไปหลายๆคู่อากาศที่สิกขิมค่อนข้างหนาวโดยเฉพาะที่ทะเลสาบฉางกู่และที่สิกขิมเหนือ
  • ถุงนอนสำหรับคนขี้หนาว (ควรเตรียมถุงนอนที่รับอุณหภูมิได้ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส)
  •  ผ้าเช็ดหน้า เอาไว้ปิดจมูกกันฝุ่น
  • Memory card สำหรับกล้อง Digital (เผื่อไปให้พอ ไม่ควรไปหาซื้อที่สิกขิม)
  • ปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ของกล้องดิจิตอล, โทรศัพท์มือถือ
  • ทิชชูทั้งแห้งและเปียก แชมพู สบู่ ยาสีฟัน หมวกอาบน้ำ เตรียมไปด้วยนะคะ ที่พักส่วนใหญ่มีให้แต่สบู่หอม
  • ปลั๊กแปลงขาเสียบ (ที่สิกขิมจะใช้ปลั๊กกลม)
  •  ยาประจำตัว (เท่าที่จำเป็น) ส่วนยาไดอะม๊อกซ์แก้ AMS ทางบริษัทมีไว้บริการให้สมาชิกค่ะ
  • ขนมต่างๆ รวมทั้งมาม่า น้ำพริก หมูหยอง หมูฝอย หมูเค็ม หรืออาหารกระป๋อง เพราะรสชาดของ อาหารที่โน่น ค่อนข้างแตกต่างจากบ้านเรา บางท่านไม่คุ้นเคย อาจทานไม่ได้ ให้เตรียมอาหารสำเร็จรูปที่พกพาง่ายและทานง่ายไปกระเป๋าเดินทาง
  • ควรเป็นเป้จะสะดวกที่สุด แต่ถ้าเป็นกระเป๋าลากไม่ควรเอากระเป๋าแบบแข็งมากเพราะตอนขนขึ้น-ลงจากหลังคารถอาจเกิดการเสียหายได้หรือเป็นแบบผ้าหรือหนังเทียมจะสะดวกกว่า
  • ควรมีเป้ใบเล็กๆ พกติดตัว สำหรับใส่ของใช้ส่วนตัว เช่นพาสปอร์ต แบตเตอรี่ ถุงมือ หมวก ขนม ลูกอม น้ำ ยาต่างๆการจองทริป
    โอนเงินมัดจำค่าตั๋วเครื่องบิน 12000 บาท ในวันที่จองทริป พร้อมส่งสำเนาพาสปอร์ตมาทางไลน์หรืออีเมลส่วนที่เหลือ จ่ายหลังจาก E Tourist visa ได้รับอนุมัติจากสถานทูตอินเดียแล้ว
    (เราจะทำวีซ่าอินเดียแบบไม่ต้องไปโชว์ตัว)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณศิริพร(พร)
081-8183286  092-4341166

ไลน์ ID : sk_pond135 
  s_pond2010@hotmail.com 
ใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/06268

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments