ทริป Poon Hill & Annapurna Base Camp Trek เนปาล รวม 12 วัน
Poon Hill (พูนฮิลล์) เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดติด 1 ใน 10 ของเอเชีย ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามอลังการของเทือกเขาหิมาลัยที่มียอดเขาสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ชมยอดเขาสีขาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี ละลานตากับวิวพาโนรามารอบตัว อากาศเย็นสบาย ระหว่างการเดินเทรคกิ้ง ชมการทำนาขั้นบันไดที่สวยงาม ซึ่งชาวบ้านปลูกข้าวเป็นชั้นๆเหมือนขั้นบันไดหลดหลั่นบนภูเขา ท่านจะได้เข้าใกล้ยอดเขาสูงๆที่มีชื่อเสียงหลายยอดเช่น Annapurna I, Annapurna III Annapurna South, Dhaulagiri, Ganuapurna, Machhapuchre หรือที่นิยมเรียกกันว่ายอดเขาหางปลา เป็นต้น ทริปนี้เราเอาใจคนที่ใจคนที่มีเวลาพอสมควร ต้องการให้จัดควบเส้นทาง Poon Hill และ ABC หรือ Annapurna Base Camp นะคะ
ทริปที่จัด ปี 66
06 – 17 เมย.66 : วันจักรี-สงกรานต์ กุหลาบพันปีกำลังเบ่งบนเต็มหุบเขา อาจจะเจอหิมะที่ ABC
13 – 24 ตค.66 : วันคล้ายวันสวรรคต ร.9 – วันปิยมหาราช อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าใสกิ๊ก
*** หมายเหตุ ถ้ามีกรุ๊ปส่วนตัว สามารถกำหนดวันเดินทางเองได้
ติดต่อ —> ศิริพร : 098-2725406, 092-4341166 Line ID : ssp061962
อีเมล์ : s_pond2010@hotmail.com
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก : กรุงเทพ-กาฐมาณฑุ-โพครา
08.00 น.เช็คอินน์ ที่เคาน์เตอร์ของการบินไทย (เคาน์เตอร์ H) ไฟร้ท์ TG319
10.15 น.ได้เวลาบินสู่กรุงกาฐมาณฑุ เนปาล ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.ครึ่ง
12.45 น.ถึงกาฐมาณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระออกจากสนามบิน เดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภายในประเทศ
14.30 น.บินไปเมืองโพคราโดย Yeti Airlines ใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที
15.00 น.ถึงเเมืองโพครา รับสัมภาระแล้วนั่งรถไปที่พักในเมืองโพครา ประมาณ 15 นาที
15.30 น.เข้าที่พัก โรงแรมในเมืองโพครา เก็บสัมภาระ ปล่อยตามอัธยาศัย
17.00 น.ประมาณ ห้าโมงเย็นพากันไปถ่ายรูปเล่นริมทะลสาบเฟว่า (Phewa Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจีดขนาดใหญ่อยู่กลาง
เมืองโพครา ในวันที่ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอก ยอดเขาหางปลาหรือมัจฉาปุชเรจะโผล่มาทักทายให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นเต้นกันถ่ายรูปกัน แล้วพานั่งเรือไปชมวัด Barahi ซึ่งเป็นฮินดูที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบเฟว่า
วันที่ 2 : โพครา – Hille – Ulleri Ulleri (1960 m)
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางด้วยรถจิ๊ปจากเมืองโพครา ไปยังหมู่บ้าน Hille ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ โดยรถจี๊ปจะแวะให้ให้เราไป
เช็คเพอร์มิตที่หมู่บ้าน Birethanti ก่อน หลังจากนั้นก็จะพาไปส่งที่หมู่บ้าน Hille
11.00 น. ถึงหมู่บ้าน Hille ส่งสัมภาระให้ลูกหาบ ถือไว้เฉพาะเป้ใบเล็กๆสำหรับใส่ของใช้ส่วนตัว เริ่มออกเดินทาง วันนี้เราจะเดินไปพักค้างคืนที่หมู่บ้าน Ulleri ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง ผ่านภูเขาหลายลูก ผ่านนาขั้นบันไดที่สวยงามอยู่ระหว่างทาง
12.00 น. แวะทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Tirkhedungga
13.00 น. ออกเดินทางกันต่อ จากนี้ต้องเดินขึ้นบันไดหินสองพันกว่าขึ้น มุ่งหน้าสู่หมู่บ้าน Ulleri ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษ
15.30 น. ถึงหมู่บ้าน Ulleri เข้าที่พัก ที่เกสเฮ้าส์ เก็บสัมภาระ แล้วสั่งอาหารเย็นไว้ก่อน
18.30 น. ออกมาทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของเกสเฮ้าส์ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
วันที่ 3 : Ulleri —> Banthanti —> Nange Thanti —> Ghorepani (2874m)
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
08.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 4 – 5 ชม. เส้นทางช่วงแรกเราเดินขึ้นภูเขาไม่สูงมาก ผ่านหมู่บ้านตามหุบเขาต่างๆ ยอดเขาหางปลาและยอด Annapurna South จะโผล่มาทักทายท่าน เส้นทางช่วงหลังจะต้องเดินผ่านลำธารและน้ำตกเล็กๆไปเกือบตลอดทาง ส่วนมากเราต้องเดินอยู่ในดงกุหลาบพันปี อากาศเย็นสบายเพราะเดินอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้เกือบตลอดเส้นทาง
12.00 น. โดยประมาณแวะทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้าน Nange Thanti
13.00 น. เดินทางกันต่อ ประมาณบ่าย 1 โมงครึ่ง ก็จะถึงหมู่บ้าน Ghorepani
15.00 น. เข้าสู่ที่พักที่ เก็บสัมภาระ แล้วออกเดินเล่น ชมวิว รอถ่ายรูปชมพระอาทิตย์ตกที่หน้าโรงแรมซึ่งสามารถมองเห็นยอดเขา Dhaulagiri ชัดเจน ถ่ายภาพเก็บความประทับใจไว้ร่วมกัน หลังจากนั้นรีบสั่งอาหารเย็น แล้วขึ้นไปอาบน้ำ (ที่พักมีน้้าอุ่นให้อาบ)
19.00 น. ลงมาทานมื้อเย็นพร้อมกัน ที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน
วันที่ 4 : Ghorepani —> Poon Hill (3210) —>Tadapani (2590 m)
04.00 น. ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟันทำธุระส่วนตัว เปลี่ยนชุดสวยๆหล่อๆ เช้านี่เราต้องออกเดินทางกันตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เพื่อเดินขึ้นจุดชมวิวที่่ Poon Hill ใช้เวลาเดินทางกันประมาณชั่วโมงกว่าๆ
06.00 น.ถึงจุดชมวิว Poon Hill ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นแตะยอดเขาหางปลา Machhapuchre ตามด้วยยอด Annapurna และ Dhaulagiri และยอดเขาสูงๆสวยๆ อีกมากมาย พากันถ่ายรูปให้จุใจ ท่านสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัยแบบ Panorama ได้อย่างชัดเจนจากหมู่บ้านนี้
07.00 น.ได้เวลาเดินลงจาก Poon Hill ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เส้นทางที่เราเดินลงต้องผ่านดงกุหลาบพัน ซึ่งจะบนสวยงามระหว่างทาง ใครต้องการจะอาบน้ำก็ต้องรีบเดินให้ถึงที่พักเร็วๆ
08.00 น.ทานมี้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วเช็คเอ้าท์ ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราต้องเดินกันเหนื่อยหน่อย ต้องเดินขึ้นเขาและขึ้นจนถึงยอดเขา และเดินทางราบในดงกุหลาบพันปี จนเข้าเขตหมู่บ้าน Deurali จากนั้น จากนั้นก็ต้องเดินลงเขา ลงและลงเป็นแนวดิ่งจนถึงแม่น้ำ วันนี้อากาศจะร้อนสลับหนาว ช่วงแรกค่อนข้างร้อน แต่ช่วงหลังค่อนข้างหนาวเย็น
15.30 น.โดยประมาณถึงหมู่ทาดาปานี่ เข้าที่ เก็บสัมภาระ หมู่บ้านนี้เราสามารถมองเห็นยอดเขา Annapurna South, Hiunchuli และ Machhapuchhre ท่านจะรู้สึกว่าได้เข้าไกล้ยอดเขามาก แค่โผล่หน้าจากห้องนอนมา ก็จะจ๊ะเอ๋กับยอดเขาต่างๆรอทักทายท่านอยู่แล้ว สวยจนต้องตะลึง คว้ากล้องถ่ายรูปแทบไม่ทัน
19.00 น.ลงมาทานมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน
วันที่ 5 : Tadapani —> Chhomrong —> Sinuwa —> (2380m)
07.00 น.ทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วพากันถ่ายรูปไปชื่นชมกับความงามของเทือกเขาหิมาลัยที่โผล่มาทักทายท่านแต่เช้าตรู่พร้อมตะวันขึ้นสวยๆ
08.00 น.ออกเดินทางกันต่อ เส้นทางวันนี้จะเป็นอีกวันที่เราจะเดินผ่านเส้นทางที่สวยงาม จะมียอดเขาหางปลาตามมาขนาบด้านซ้ายมือตลอด เส้นทางช่วงแรกที่ออกจากหมู่บ้านเราต้องเดินอยู่ในดงกุหลาบพันปีสักพักใหญ่ จากนั้นพอออกจากดงกุหลาบพันปีเราจะมองเห็นแม่น้ำ Modi เป็นเหวลึกอยู่ข้าง ล่าง ผ่านโรงแรมและเกสเฮาท์สวยๆ ต่างระหว่างทางมากมาย ผ่านบ้านเรือนของชาวบ้านที่ทำการกสิกรรม ปลูกข้าวสาลี เลี้ยงสัตว์ เราจะแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ หมู้บ้าน Chhomrong แล้วเดินทางกันต่อ ประมาณสี่โมงครึ่งถึงห้าโมงเย็น เราน่าจะถึง Lower Sinuwa เก็บสัมภาระ สั่งอาหารมื้อเย็นไว้ก่อนแล้วแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว
19.00 น. ทานมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารของเกสเฮาท์ แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน หรือใครอยากจะนั่งสนทนาหรือทำกิจกรรมร่วมกันก็ปล่อยท่านตามอัธยาศัย
วันที่ 6 : Sinuwa —> Bamboo —>Dovan —> Deurali (3230m)
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของเกสเฮาส์
08.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราต้องเดินทางกันประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง ผ่าหมู่บ้าน Bamboo, Dovan, Himalaya เราจะทานมื้อเที่ยงกันที่ Dovan กัน แล้วออกเดินทางกันต่อ ไปพักที่หมู่บ้าน Deurali (Panorama Guest House) เนื่องจากหมู่บ้าน Deurali เป็นหมู่บ้าน เล็กๆ มีเกสเฮ้าสอยู่ไม่มาก ต้องจองที่พักไว้ล่วงหน้า
16.00 น. น่าจะถึง Deurali เก็บสัมภาระ แล้วสั่งอาหารมื้อเย็นไว้ก่อน ที่นี่ส่วนมากไม่มีใครยอมอาบน้ำกัน (ส่วนมากจะมุดถุงนอนมากกว่า เพราะอากาศหนาวมาก) เพราะเราได้เดินขึ้นถึงระดับความสูงมากกว่า 3000 เมตรอีกครั้งแล้ว)
19.30 น. ทานมื้อเย็นด้วยกัน นั่งคุยกัน แล้วแยกกันไปพักผ่อน หนาวสะใจอีกแล้วค่ะ
วันที่ 7 : Deurali —> MBC —> ABC (4130m)
07.30 น. ทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของเกสเฮาส์
08.30 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราเดินกันไม่มาก ประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง เดินไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมงเราจะเดินถึงหมู่บ้าน MBC หรือ Machhapuchre Base Camp เราอาจจะนั่งอาบแดด ชมวิว ดื่มชา ทานขนมเค้กแก้หนาว ที่หมู่บ้านนี้สักพักก็ได้ แล้วเดินขึ้น ABC กันต่อ อีกชั่วโมงครึ่งก็ถึง Annapurna Base Camp ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปนี้กันแล้ว
13.30 น. โดยประมาณถึง ABC เข้าที่พัก (เราจะให้ลูกหาบล่วงหน้าไปจองที่พักและสั่งอาหารมื้อเที่ยงเตรียมไว้ให้เราก่อน) พอไปถึงก็เก็บสัมภาระ และทานมื้อเที่ยงกันเลย หลังจากนั้นออกไปถ่ายรูปบริเวณเบสแคมป์กัน (อากาศหนาวสุดๆ ขนาดกลางวันแสกๆ แดดเปรี้ยงๆแต่อากาศหนาวถึงขั้นติดลบได้) หลังจากนั้นก็ปล่อยอิสระ ใครจะมุดถุงนอน หรือนั่งคุยกัน หรือออกไปเดินถ่ายรูปรอบๆเบสแคมป์ ให้ฉ่ำใจก็ตามอัธยาศัย แต่ต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม
19.30 น. ทานมื้อเย็นกัน แล้วปล่อยให้มุดถุงนอนหลบความหนาวเหน็บกัน
วันที่ 8 : ABC —>MBC—>Deurali—>Himalaya—>Bamboo
06.00 น. ตื่นเช้าเพื่อถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเทือกเขาหิมาลัยกัน ถ่ายรูปเก็บความประทับใจไว้ด้วยกัน
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะออกกันสายหน่อย เพราะต้องการใช้เวลาที่ ABC ให้มากที่สุด วันนี้เราต้องเดินทางประมาณ6 ชั่วโมงผ่านหมู่บ้าน MBC (Machhapuchre), Deurali, เราจะแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ Dovan แล้วเดินทางกันต่อ เป้าหมายของเรา คือหมู่บ้าน Bamboo
16.00 น. เราน่าจะเดินถึงหมู่บ้าน Bamboo เก็บสัมภาระ แล้วอาบสระผมกัน มีน้ำอุ่นให้อาบ (มีห้องอาบน้ำอุ่นที่ใช้แก็สให้อาบต้องจ่ายค่าอาบร้อนด้วยประมาณ คนละ 200-300 รูปี)
19.00 น. มื้อเย็นพร้อมกัน แล้วนั่งคุยกันต่อหรือใครอยากมีกิจกรรมในร่มก็เชิญตามสบายนะคะ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
วันที่ 9 : Bamboo —>Sinuwa —> Chhomrong —> Jhinu Danda
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะเดินกันประมาณ 4 ชั่วโมงผ่านหมู่บ้าน Sinuwan, Chhomrong เราจะทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้านChhomrong
13.00 น. ทานมื้อเที่ยงกันเสร็จแล้วเดินทางต่ออีก 1 ชั่วโมงครึ่งก็จะถึงหมู่บ้าน Jhinu ซึ่งเป็นที่พักบนภูเขาคืนสุดท้ายสำหรับการเทรคกิ้งของเราแล้ว
14.30 น. น่าจะเดินถึง Jhinu เช็คอินน์ที่ Hotel Evergreen เก็บสัมภาระ สั่งอาหารมื้อเย็นไว้ก่อนแล้วไปแช่น้ำพุร้อนกันที่ Jhinu มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ริมแม่น้ำ ต้องเดินลงไปจากที่พักประมาณ 15 นาที (ให้ท่านน้ำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วย ที่นี่ใครที่ต้องการจะสระผมก็ตามสบายหลังจากไม่ได้สระมาเป็นสัปดาห์ อาบน้ำเสร็จก็เดินขึ้นบันไดกลับอีกประมาณ 20 นาที มาถึงที่พัก ท่านจะรู้สึกหิวจนตาลายเพราะแช่น้ำพุร้อนนานไปหน่อย จนเสียพลังงานไปเยอะ
19.30 น. ทานมื้อเย็นด้วยกัน แล้วแยกกันไปพักผ่อน วันนี้ท่านอาจไม่จำเป็นต้องใช้ถุงนอน เพราะอากาศไม่หนาวมาก เราอยู่ที่ระดับประมาณ
1600 เมตรจากระดับน้ำทะเล แค่ผ้าห่มอุ่นๆ ของทางโรงแรมก็เอาอยู่แล้ว ยกเว้นท่านที่เดินทางในฤดูหนาว
วันที่ 10 : Jhinu Danda —> New Bridge —> Siwai —> Pokhara
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะเดินกันประมาณ 5 ชั่วโมงผ่านหมู่บ้าน New Bridge แวะทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้านนี้ หลังจากนั้น ออกเดินทางกันต่อ เราจะเดินผ่านนาข้าวที่ชาวบ้านปลูกไว้บนไหล่เขาสูงลดหลั่นเป็นขั้นบันได สวยงามจับใจ อาจจะต้องหยุดถ่ายรูปไปเป็นระยะๆ
11.30 น. ถึงหมู่บ้าน Siwai เราจะขึ้นรถจิ๊ปจากหมู้บ้านนี้กลับโพคราเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ โดยเราต้องแวะที่ด่าน Check Point เพื่อแจ้งออกที่หมู่บ้าน Birethanti ก่อน ว่าเราได้กลับจากการเทรคกิ้งแล้ว
17.00 น. ถึงโพคราเก็บสัมภาระ แล้วใครหมดแรงอยากพักผ่อนก็ตามสบาย วันนี้จะปล่อยอิสระให้ออกไปเดินเที่ยว ช๊อปปิ้ง และหามื้อเย็นทานกันเอง
วันที่ 11 : Pokhara —> Kathmandu
07.00 น.ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรมหลังจากนั้นก็ปล่อยให้ช๊อปปิ้งกันสักพัก
10.00 น.กลับมาเก็บสัมภาระ เช็คเอ้า นั่งรถไปสนามบินโพคราประมาณ 15 นาที แล้วไปเช็คอินกับสายการบิน Yeti
11.00 น.นั่งเครื่องบินไปเมืองกาฐมาณฑุ ด้วย Yeti Airline ใช้เวลาบินประมาณครึ่งชั่วโมง
(หมายเหตุ : สมาชิกสามารถเลือกเดินทางกลับกาฐมาณฑุโดยเครื่องบิน หรือรถทัวร์ หรือรถตู้ก็ได้ ค่าทริปจะแตกต่างกันค่ะ)
11.30 น.ถึงกรุงกาฐมาณทุ เข้าที่พักในย่านทาเมล เก็บสัมภาระ พาไปทานมื้อเที่ยงกัน
13.00 น.พาไปชม เจดีย์โบดะนาถ (Bhoudanath Stupa) ชมเจดีย์ดวงตาเห็นธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์สถูปทรงกลมสีขาวมีดวงตาเห็นธรรมสีแดง เหลือง และน้ำเงิน แถวรอบๆเจดีย์เป็นที่ตั้งของชมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล เป็นศูนย์กลางทางศาสนาแบบทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีบ้านเรือนสีสันสดใสตั้งอยู่รายรอบตัวตัวเจดีย์ มีร้านค้าขายสินค้าต่างๆ และของที่ระลึกอยู่รอบๆเจดีย์ ให้สมาชิกใช้เวลาเดินชมรอบๆสถูป ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
15.00 น.ไปชม วัดลิง (Swayambhunath temple) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบต เป็นวัดที่มีสถูปดวงตาเห็นธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ สูงระดับ 77 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มองลงมาเห็นวิวของเมืองกาฐมาณฑุ ที่องค์เจดีย์มีคิ้วและดวงตาทั้งสี่ด้าน เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 2000 ปี ตัวสถูปครึ่งวงกลมสีขาว เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เหนือองค์สถูปมีปล้องไฉนสีเหลืองทองอร่าม 13 ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนระดับธรรม 13 ขั้น ก่อนบรรลุพระนิพพานของพระพุทธเจ้า
17.00 น.ได้เวลาพอสมควร พากลับทาเมล แล้วไปทานมื้อเย็นกัน หลังจากนั้นก็เชิญช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย
วันที่ 12 : Kathmandu —> BKK (วันสุดท้าย)
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
08.00 น.นั่งแท็กซี่ไปชม Kathmandu Durbar Square กัน ชมวังกุมารี เป็นวัดก่ออิฐถือปูนจากกลางศตวรรษที่ 18 หน้าต่างวัดเป็นไม้แกะสลักฝีมือละเอียด มีรูปสิงห์ขนาบสองข้างประตู ชมวัดนารายัณ ชมวังประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka Durbar) ด้านข้างประตูเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพหนุมาน สร้างขึ้นในปี 1672 ตัวเทพได้รับการเจิมชาดเสียจนเป็นสีแดงเข้มใต้ร่มฉัตร ประตูเข้าตัววังได้รับการทาสีสดใสทางซ้ายของบริเวณทางเข้าคือเทวรูปนรสิงห์ อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุเป็นเทพกึ่งสิงห์กึ่งมนุษย์เพื่อฆ่ายักษ์หิรัญกศิลป์
11.30 น. เดินทางสู่สนามบินตรีภูวันด้วยรถตู้ของทางโรงแรม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ไปถึงเช็คอินน์โหลดสัมภาระ แล้วไปผ่านตม.กัน
13.50 น. ได้เวลาเครื่องบินเหินฟ้าโบกมืออำลาเนปาล ด้วยไฟร้ท WE320 กลับประเทศไทย
18.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
ขอขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ