ขี่ม้าชมธารน้ำแข็งที่โซนามาร์ค ขึ้นกระเช้าคอนโดล่าไปชมภูเขาหิมะที่กุลมาร์ค เล่นหิมะกัน พักบ้านเรือในทะเสลาบดาล 3 คืน พักที่กุลมาร์ค
1 คืน พักที่เมืองอัครา ใกล้ๆทัชมาฮาล 1 คืน
โปรแกรมทัวร์ปี 2566 :
04 – 10เมษายน 66 : (วันจักรี) : กำลังเปิดรับ : ชวนไปเล่นหิมะที่กุลมาร์ค โซนามาร์ค
11 – 17 เมษายน 66 : (เทศกาลสงกรานต์) เต็มค่ะ : เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้น ช่วงสงกรานต์หิมะอาจจะไม่เยอะเหมือนเมื่อ5-6 ปีก่อน แต่ถ้าก่อนหน้านี้มีฝนตก หิมะก็จะตกด้วย ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ดอกมัสตาร์ดและทิวลิปกำลังบานสวยงาม และวิวทิวทัศน์ของภูเขาหิมะที่โอบล้อมทะเลสาบดาลก็ยังสวยงามอลังการไม่สร่างซา
หมายเหตุ : สนใจทริป กรุณายืนยันล่วงหน้า 4-5 เดือน เพราะตั๋วเครื่องบินมักจะปรับขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์
ติดต่อ ศิริพร : 098-2725406, 092-4341166
ไลน์ ไอดี : ssp061962
อัตราค่าทัวร์ : เป็นทัวร์แบบจอยกรุ๊ป อัตราค่าทริปขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในแต่ละกรุ๊ป ถ้ามีกรุ๊ปส่วนตัว มีสมาชิกตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป โทรมาคุยกันก่อนจะทำราคาให้ใหม่
สมาชิก 7-8 คน ค่าทริปคนละ 26000-25500 บาท
สมาชิก 09-10 คน ค่าทริปคนละ 25000-24500 บาท
สมาชิก 11-12 คน ค่าทริปคนละ 23500-23000 บาท
สมาชิก 13-14 คน ค่าทริปคนละ 22500-22000 บาท
โปรแกรมทัวร์
| วันที่ 0 : ออกเดินทาง | กรุงเทพ–เดลี |
21.00 น. เจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินกับสายการบินไทย โหลดสัมภาระ รอขึ้นเครือง
23.15 น. บินจากสุวรรณภูมิ ด้วยไฟร้ท TG 331 ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมงครึ่ง ทานอาหารบนเครื่อง
| วันที่ 1 : | เดลี – ศรีนาคา – กุลมาร์ค – นั่งกระเช้าคอนโดล่าไปชมภูเขาหิมะ |
02.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นอินเดีย บินถึงสนามบินอินทิราคานที เดลี Terminal 3 พาไปเข้าคิวแสตมป์วีซ่าและผ่านตม.
หลังจากนั้นพาไปรับสัมภาระ แล้วพานั่งรถชัตเตอร์บัสไปต่อเครื่องไปศรีนาคาที่ Terminal 1D
03.30 น. ถึง Terminal 1D พาไปรอเช็คอิน
05.30 น.พาไปเช็คอิน กับสายการบินภายในประเทศ Indigo airline แล้วพาไปทานมื้อเช้าภายในสนามบินกันค่ะ
07.30 น. ได้เวลาบินไปศรีนาคา ด้วยไฟร้ท 6E 5201 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 30 นาที
09.20 น. ถึงสนามบินศรีนาคา รับสัมภาระ แล้วพาออกมาขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางไปกุลมาร์ค ใช้เวลาประมาณ
2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร
12.00 น.ถึงกุลมาร์ค พาไปเช็คอิน ที่โรงแรมที่กุลมาร์ค ทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหารของโรงแรม
13.30 น.แล้วพาไปต่อแถว เตรียมขึ้นกระเช้าคอนโดล่าไปชมภูเขาหิมะบนยอดเขา (ค่าตั๋วขึ้นกระเช้าคอนโดล่าจ่ายกันเองนะคะ ประมาณ 400-500 บาท) ใช้เวลาถ่ายรูปข้างบนประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้ามีหิมะก็อาจจะใช้เวลานานกว่านี้หน่อย หรือใครต้องการจะนั่งกระเช้าขึ้นไปเฟส 2 ก็ซื้อตั๋วเพิ่มได้นะคะ ขอเช็คสภาพอากาศก่อนค่ะ
15.30 น.พานั่งกระเช้าลงมาด้านล่าง แล้วพาไปเดินเล่นถ่ายรูปชมวิวทุ่งดอกไม้ที่ล้อมรอบด้วยทิวสนและภูเขาหิมะ
18.00 น.พาเข้าที่พัก ทานมื้อเย็นที่ห้องอาหาร แล้วปล่อยตามอัธยาศัย
| วันที่ 2 : | กุลมาร์ค–ศรีนาคา–ชมสวนทิวลิป–ชมสวนโมกุล-พักบ้านเรือกลางทะเลสาบดาล |
07.00 น.ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรมที่กุลมาร์ค
08.30 น.นั่งรถกลับศรีนาคา แวะให้ช้อปปิ้งระหว่างทาง มีร้านค้าให้เลือกช้อปมากมาย ใครใคร่ซื้อก็ซื้อนะคะ แล้วจะ
แวะให้ถ่ายรูปทุ่งมัสตาร์ดสวยๆระหว่างทาง
11.00 น.ถึงศรีนาคา พาไปชมสวนทิวลิปที่อยู่ริมทะเลสาบดาล
12.00 น.พาไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารริมทะเลสาบดาล
13.30น.พาไปชมสวนดอกไม้โมกุล (Nishat garden & Shalimar garden)
16.00 น.พาไปลงเรือ เดินทางเข้าที่พักที่บ้านเรือกลางทะเลสาบดาล
19.00 น.ทานมื้อเย็นพร้อมกันที่ห้องอาหารของบ้านเรือ
| วันที่ 3 : | ศรีนาคา–พาฮัลแกม-พักบ้านเรือกลางทะเลสาบ |
เช้า : ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของบ้านเรือ
07.30 น. พานั่งรถไปเมืองพาฮาลแกม ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมงเศษ แวะถ่ายรูปกับทุ่งมัสตาร์ดสวยๆระหว่างทาง
10.30 น. เดินทางถึงเมืองพาฮาลแกม ใครต้องการจะขี่ม้าไปจุดชมวิว Baisaran จะติดต่อม้าให้ แล้วไปจ่ายค่าม้า
กันเองนะคะ แนะนำว่าควรจะไปสักครั้งในชีวิต เพราะมันสวยงาม ทั้งวิวระหว่างทางและที่จุดชมวิวเป็นสนามหญ้า
กลางทิวสน ที่มองเห็นภูเขาหิมะล้อมรอบ มีเด็กๆอุ้มลูกแพะ แกะ กระต่ายมารับจ้างถ่ายรูป คิดราคาตัวละ 20-30 รูปี
ส่วนค่าขี่ม้าเห็นมีคนมารีวิว ปีนี้ประมาณ 1000 รูปี หรือ 400 กว่าบาท ใช้เวลาทั้งขี่ม้าและชมวิว ประมาณ 2 ชั่วโมง
ใครไม่ต้องการจะขี่ม้า ก็รอยู่ด้านล่าง เดินถ่ายรูปที่ริมแม่น้ำริดเดอร์ก็ได้ มีวิวแม่น้ำและภูเขาหิมะที่สวยงาม
หรือใคร
อยากจะเดินช้อปปิ้ง มีสินค้าให้เลือกหลายหลาย ทั้งเสื้อผ้าแคชเมียร์ เสื้อผ้ากันหนาวสวยๆ ผ้าคลุมเตียงลายของ
แคชเมียร์ ผลไม้อบแห้งที่นี่ขายถูกมากมาก
เที่ยงเศษๆ : กลับมาทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารหน้าตลาดที่พาฮาลแกม พาไปเดินถ่ายรูปเก็บตกวิวทิวทัศน์สวยๆ
รอบๆพาฮาลแกม
บ่ายแก่ๆ : พานั่งรถกลับศรีนาคา เข้าบ้านเรือ
เย็นๆ : 6 โมงเย็น พานั่งเรือชิคาร่าชมวิวรอบๆทะเลสาบ ใครจะแวะช้อปปิ้งที่ร้านค้ากลางทะเลสาบ
บอกคนพายเรือให้หยุด มีสินค้าพื้นเมืองหลากหลายให้ช้อปกันค่ะ
ค่ำ : พากลับบ้านเรือ ทานมื้อเย็นกัน
| วันที่ 4 : | ศรีนาคา-โซนามาร์ค-พักบ้านเรือกลางทะเลสาบดาล |
เช้าๆ : ทานมื้อเช้าที่บ้านเรือ
08.00 น. พาเดินทางไปเที่ยวโซนามาร์ค นั่งรถจากท่าเรือประมาณสองชั่วโมงเศษ แวะถ่ายรูปวิวภูเขาหิมะสวยๆ
ระหว่างทาง
11.00 น. น่าจะถึงโซนามาร์ค พาขี่ม้าไปชมธารน้ำแข็งโบราณ ที่นี่มีหิมะให้เห็นกันเยอะ ใครจะปีนขึ้นไปเล่นหิมะ
ที่ตีนเขาก็ได้เดินขึ้นไปนิดหน่อย ถ้าไม่ต้องการขี่ม้าก็เช่ารถจี๊บพร้อมคนขับให้ขับพาไปชมธารน้ำเข็งได้ค่ะ แค่วิวภูเขา
หิมะมีต้นสนเป็นฉากหลังก็สวยคุ้มค่าแล้วค่ะ ถ้ามีหิมะมากพอจะมีชาวบ้านนำเลื่อนมารับจ้างให้เล่นสไลด์บนหิมะ
จ่ายกันเองนะคะ ทั้งค่าม้าและค่าเล่นเลื่อน เดี๋ยวเช็คราคาให้ก่อน ถ้าใครไม่ต้องการขี่ม้าก็สามารถเช่ารถ จี๊ปพร้อม
คนขับให้พาไปชมธารน้ำแข็งได้ค่ะ
เที่ยงเศษๆ : พาลงมาด้านล่าง ไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหาร ที่โซนามาร์ค
(หมายเหตุ โปรแกรมนี้เราสามารถเปลี่ยนเป็นทานมื้อเที่ยงกันก่อนไปขี่ม้าก็ได้ กลัวถ่ายรูปเพลินกันจนหิว หรือจะสั่งอาหารไว้ก่อน แล้วค่อยลงมาทาน)
ก่อนกลับศรีนาคา ใครจะแวะช้อปปิ้งที่โซนามาร์ค ก็มีร้านให้เลือกช้อปมากมาย
บ่ายแก่ๆ : ได้เวลาเดินทางกลับศรีนาคากันแล้วค่ะ แวะให้ถ่ายรูปกับวิวสวยๆระหว่างทาง แจ้งคนขับได้เลย
เย็นๆ : พาเข้าบ้านเรือ รอทานมื้อเย็น
| วันที่ 5 : | ศรีนาคา – เดลี – นั่งรถไปเมืองอัครา |
เช้าๆ : ทานมื้อเช้าที่บ้านเรือ
08.00 น. เช็คเอ้า อำลาบ้านเรือ นั่งเรือชิคาร่าไปท่าเรือ แล้วนั่งรถไปสนามบินศรีนาคา ประมาณครึ่งชั่วโมง
09.00 น.ถึงสนามบินศรีนาคา เช็คอิน กับสายการบินอินดิโก้ โหลดสัมภาระ แล้วไปรอขึ้นเครื่องกัน
10.40 น. ได้เวลาบินไปเดลี ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 40 นาที
12.20 น. ถึงสนามบินภายในประเทศ กรุงนิวเดลี Terminal 1C รับสัมภาระแล้วออกมาขึ้นรถ พาไปทานมื้อเที่ยง
ในเมืองนิวเดลี
14.30 น. ได้เวลาเดินทางไปเมืองอัครา ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
18.30 น.โดยประมาณ ถึงเมืองอัครา พาเข้าที่พัก ที่โรงแรมใกล้ๆกับทัชมาฮาล เช็คอิน เก็บสัมภาระ แล้วพาออกไป
ทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในเมืองอัครา
20.00 น.พาเข้าที่พัก เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย
| วันที่ 6 : | ชมทัชมาฮาล – ป้อมอัครา – นั่งรถกลับสนามบินนิวเดลี – บินกลับกรุงเทพ |
เช้าๆ : ทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 น. ไปชมทัชมาฮาล ให้เวลาเดินชมประมาณ 1 ชม.ครึ่ง แล้วออกไปเจอกันหน้าทางออกทัชมาฮาล
10.30 น. พาไปชมป้อมอัครา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
12.30 น. ทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารในเมืองอัครา
15.00 น. เดินทางกลับกรุงนิวเดลี แวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารระหว่างทาง
20.00 น. ถึงสนามบินอินทิราคานที (Terminal 3) เตรียมตั๋วเครื่องบินและพาสปอร์ต ให้เจ้าหน้าที่เช็คเพื่อผ่านเข้าเกท
21.00 น. ได้เวลาเช็คอินกับการบินไทย โหลดสัมภาระ แล้วไปเข้าแถว ผ่านตม. ไปรอขึ้นเครื่อง
23.30 น. บินกลับเมืองไทย ด้วยไฟร้ท์ TG 316 ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงครึ่ง
(18 เมย.66) : เช้าตรู่ 05.25 น. ถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ แยกย้ายกันกลับบ้าน
อัตราค่าทัวร์ : เป็นทัวร์จอยกรุ๊ป อัตราค่าทริปขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในแต่ละกรุ๊ป
สมาชิก 7-8 คน ค่าทริปคนละ 26000-25500 บาท
สมาชิก 09-10 คน ค่าทริปคนละ 25000-24500 บาท
สมาชิก 11-12 คน ค่าทริปคนละ 23500-23000 บาท
สมาชิก 13-14 คน ค่าทริปคนละ 22500-22000 บาท
อัตรานี้รวม
*ค่าวีซ่าอินเดีย แบบ E Tourist Visa*ค่าประกันภัยการเดินทาง
*ที่พักที่บ้านเรือในทะเลสาบดาลรวมอาหารเช้า – เย็น
*ที่พักที่กุลมาร์ค รวมอาหารเช้า-เย็น
*ที่พักที่เมืองอัครา ใกล้ๆทัชมาฮาล รวมอาหารเช้า
*ค่าอาหารกลางวันและน้ำดื่มทุกมื้อ
*ค่ารถรับส่งตลอดรายการ
*ค่าเรือชิดาร่าในทะเลสาบดาล รับ–ส่งตลอดทริป
*ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ (สวนทิวลิป สวนโมกุล ทัชมาฮาล ป้อมอัครา)
*ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์ไทย ดูแลตลอดทริป
อัตรานี้ไม่รวม
*ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ การบินไทย ไป–กลับ กรุงเทพ–เดลี (เช็คราคาตอนนี้ 13500 บาท)
*ค่าตั๋วภายในประเทศอินดิโก้แอร์ไลน์ ไป–กลับ เดลี–ศรีนาคา
*ค่าตั๋วขึ้นกระเช้าคอนโดล่าที่กุลมาร์ค
*ค่าขี้ม้า ลากเลื่อน ขี่สกู๊ตเตอร์ ที่ Gulmarg, Pahalgam, Sonamarg
*ค่าเครื่องดื่ม ขนมขมเคี้ยวที่สั่งทานเอง นอกเหนือที่ระบุตามรายการ
*ค่าทิปคนขับรถ พ่อครัว เด็กเสิร์ฟ เด็กยกกระเป๋า แชร์กันให้ก็ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความพอใจ
*ค่าโทรทางไกล (ถ้ามี)
*ค่าบริการซักเสื้อผ้า (ถ้ามี)
หมายเหตุ :
อัตรานี้คิดที่อัตราแลกเปลี่ยนเงิน ณ ปัจจุบัน 1 รูปีอินเดีย = 0.45 บาทไทย ปีหน้าถ้าค่าเงินอินเดียสูงขึ้น ค่อยมาว่ากันอีกที
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่—> ศิริพร : 098-2725406, 092-4341166
ไลน์ไอดี : ssp061962
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจเลขที่ 11/06268 (Hit & Hot Tour Limited Partnership)