ทริปนี้เรานำหลายๆบรรยากาศมารวมกันให้สมาชิกได้สัมผัสกัน พานั่งรถอีแต๊ก เที่ยวชมบรรยากาศไร่นา ป่าเขา ร่มเย็นด้วยพรรณไม้นานาชนิด รีสอร์ตสวนดอกไม้สวยๆ โอบหลังด้วยภูเขาหินปูนที่สวยงามแปลกตา พาไปไหว้พระในถ้ำ ชมฝูงค้างคาวนับแสนบินออกจากถ้ำและบรรยากาศความชุ่มฉำขณะล่องแก่งในน้ำเข็กผสมกับสนุกสนามตื่นเต้นเร้าใจในขณะที่เรือกำลังลงจากแก่งที่มีน้ำไหลแรง กรี๊ดกันสนั่นป่า ปาร์ตี้ปิ้งย่างอย่างเอร็ดอร่อย และกับทานมื้อเที่ยงริมน้ำเข็กท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มเย็นเขียวขจีของป่าเขา นั่งแช่เท้าชิลๆ ชมวิวสวยๆของลำน้ำเข็กกัน

กำหนดการจัดทริป :
25-27 สิงหาคม 2566
15-17 กันยายน 2566

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก :  กรุงเทพ – บ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
สี่ทุมกว่าๆ นัดขึ้นรถตู้ที่ลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เดินทางโดยรถตู้ 10 ที่นั่ง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง แวะให้เข้าห้องน้ำตามปั๊มน้ำมัน
วันที่ 2 : นั่งรถอีแต๊กเที่ยวชมบรรยากาศภายในเนินมะปรางทั้งวัน – พักบ้านฮักเขาโฮมสเตย์
06.00 น. โดยประมาณ เดินทางถึงบ้านฮักเขาโฮมสเตย์ที่ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ถ้าบ้านพักยังไม่ว่าง ก็ให้สมาชิกอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันกันก่อน 
07.30 น. พาไปทานมื้อเช้าพร้อมกัน 
08.00 น. นั่งรถอีแต๊กเที่ยวในหมู่บ้านตามโปรแกรม

ภูเขาหินพระปรางค์สามยอด เป็นจุดเช็คอินที่ต้องไม่พลาด เป็นภูเขาหินปูนที่ถูกธรรมชาติกัดกร่อนตามกาลเวลา จะมีลักษณะคล้ายกับพระปรางค์สามยอดที่จังหวัดลพบุรี
บ้านไร่ภูตะวัน เป็นจุดเช็คอินที่พลาดไม่ได้ อยู่ห่างจากภูเขาหินพระปรางค์สามยอดประมาณ 5 นาที จุดเด่นของที่นี่คือไร่ดอกทองอุไรที่ออกดอกสีเหลืองทองอร่ามงามตามีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูนสุดอลังการ
สวนดอกไม้@เขาน้อย 360 องศา เป็นสวนดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นสวยงาม เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูป เซลฟี่ ที่นี่มีดอกไมสีสันงดงามหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งคอสมอส คัทเตอร์ ดาวกระจาย ทางสวนจะเปลี่ยนดอกไม้ใปเรื่อยๆตามฤดูกาล
น้ำตกขุนห้วยเทิน เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา กำเนิดจากสายน้ำในฤดูฝนที่ไหลลงมาจากภูเขาหินปูน ลงสู่ลำห้วยที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ขุนห้วยเทิน ก่อนจะไหลผ่านเชิงเขาหินปูน และกัดเซาะจนเป็นชั้นน้ำตกเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ โอบล้อมไปด้วยพรรณไม้สีเขียวขจี รวมถึง เห็ดแชมเปญ เห็ดรูปทรงคล้ายแก้วแชมเปญสีชมพูขึ้นอยู่ตามพื้นและขอนไม้ สร้างสีสันให้น้ำตกดูมี
ชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยวน้ำตกขุนห้วยเทินคือช่วงหน้าฝนค่ะ เพราะถ้าไปในช่วงหน้าแล้งจะไม่มีน้ำให้เล่น
วัดบ้านมุง เป็นวัดเก่าแก่ประจำตำบล ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ เขาหินปูน ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นและเงียบสงบ หากเดินไปทางด้านหลังของวัดจะมีซุ้มประตูเก่าแก่ ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของวัด ภายในวัดมีถ้ำอยู่ 2 ถ้ำคือ ถ้ำหลวงพ่อบุญมีและถ้ำนางสิบสอง
จุดชมวิวค้างคาวบินออกจากถ้ำ  นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเนินมะปราง สำหรับการชมฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำที่จุดชมวิวค้างคาว เราควรจะไปตั้งกล้องรอตั้งช่วงห้าโมงเย็นค่ะ เพราะเหล่าค้างคาวจะออกมาในช่วงเวลาเย็นๆ ประมาณห้าโมงครึ่งถึงหกโมงเย็นค่ะ

จบโปรแกรมวันแรก พากลับไปบ้านฮักเขาโฮมสเตย์ ที่พักเป็นบ้านหลังใหญ่ มีสองชั้นสำหรับกลุ่มพวกเราโดยเฉพาะ
ฮักเขาโฮมสเตย์ เป็นที่พักสไตล์แค้มปิ้งอยู่กลางเทือกเขาหินปูนที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง บรรยากาศรายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม มีคาเฟ่ มีโซนอาหาร และห้องน้ำส่วนกลางและส่วนบ้านพักหลังใหญ่ในมีสองชั้น สามารถรองรับสมาชิกได้ถึง 12 ท่าน มีเป็นห้องแอร์มีห้องน้ำในตัว มีวิวภูเขาหินปูนเป็นฉากหลังอันงดงามอลังการ

วันที่ 3 : เนินมะปราง – ไหว้พระพุทธชินราช – อำเภอวังทอง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก – กรุงเทพ
07.00 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่บ้านพัก เป็นข้าวต้ม กาแฟ โอวัลติน ขนมปัง
08.00 น. อำลาเนินมะปราง นั่งรถเข้าต้วเมืองพิษณุโลก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พาไปไหว้พระพุทธชินราชที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดใหญ่ วัดนี้ตั้งอยู่ริมน้ำน่าน ด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก

 

พระพุทธชินราชได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย เช่น องค์พระพุทธชินราช พระเหลือ วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน พระอัฏฐารส บานประตูประดับมุก หลังจากนั้นนั่งรถต่อไปอำเภอวังทองกัน ประมาณชั่วโมงครึ่ง พาไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเข็ก มื้อนี้ทานกันให้เต็มที่นะคะ เพราะเราต้องใช้พลังงานมหาศาลในการพายเรือกัน เสร็จจากมื้อเที่ยงก็ให้สมาชิกได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวไปล่องแก่งกัน เรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถตู้ออกไปที่ท่าจอดแพยางกันเลย
ลำน้ำเข็ก เป็นเป็นลำน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ในเขตอำเภอเขาค้อไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกศรีดิษฐ์ น้ำตกแก่งโสภาอันเลื่องชื่อของพิษณุโลก น้ำตกปอย น้ำตกแก่งซองและน้ำตกวังนกแอ่น แล้วไหลผ่านอำเภอวังทองก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นน้ำตกวังทอง ไหลไปรวมกับแม่น้ำ น่านที่อำเภอบางกระทุ่ม ลำน้ำเข็กไหลทอดยาวขนานไปกับเส้นทางหลวงหมายเลข 12 (สายพิษณุโลก -หล่มสัก) ลำน้ำเข็กนั้นเหมาะสำหรับนักผจญภัยมือใหม่ (มือเก่าก็ล่องได้จ้า) ก็เพราะไม่ต้องเดินเท้าเข้าป่าไม่ต้องแบกหามเรือยาง ไม่ต้องเตรียมเสบียงแต่อย่างใด จุดเริ่มต้นจะอยู่บริเวณท่าข้ามซึ่งขับรถไปถึงได้ง่ายๆ จึงทำให้เดินทางไปล่องแก่ง สามารถไปได้แบบไม่เหนื่อยมาก
ลักษณะของลำน้ำเข็ก : เป็นลำน้ำขนาดกลาง ในหน้าแล้งน้ำจะมีน้อยและมีสีเขียว ในช่วงฤดูฝน น้ำ จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ลำน้ำเข็กไหลคดเคี้ยวไปตามซอกเขาใหญ่น้อย ตั้งแต่เทือกเขาเพชรบูรณ์ จนผ่านเข้าสู่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จะมีเกาะแก่งมากมาย เช่น แก่งวังน้ำเย็น ความรุนแรงของกระแสน้ำขึ้นอยู่กับฤดูกาล ในฤดูฝน สามารถน้ำเรือยางไปล่องแก่งได้อย่างสนุกสนานเร้าใจตลอดเส้นทาง ตั้งแต่บ้านปากยาง ตำบลทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอวังทอง ลงไปจนถึงน้ำตกแก่งซอง รวมระยะทาง 8 กม.ใช้เวลาในการล่องแก่งประมาณ 2 ชม. หรือไม่เกิน 3 ชม. ขึ้นอยู่กับระดับน้ำจะมากหรือน้อย ซึ่งเป็นระยะทางที่ไม่นานเกินไป จากจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง จะพบแก่งต่างๆที่มีความรุนแรงในระดับ 1-2 แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้น ถึงระดับ 4-5 ในช่วงท้ายๆ ทำให้มีเวลาซักซ้อมฝึกฝีพายกันก่อน บางแก่งจะมีความยาวต่อเนื่องหลายร้อยเมตร การเดินทางไปล่องแก่งมีความสะดวกมากเพราะว่าลำน้ำอยู่ใกล้ถนน พอลงจากรถก็เดินลงแพยางได้เลย พอล่องแพจบ ก็เดินขึ้นจากแพยาง แล้วเดินขึ้นรถได้เลย

12.30 น. พบกับสต๊าฟ นัดเจอที่วนธารารีสอร์ต พาขึ้นรถไปส่งที่จุดล่องแก่งพร้อมฟังการสาธิตวิธีภายเรือ รับเสื้อชูชีพและหมวกกันน๊อค พาไปลงเรือกันที่ ต.ทรัพย์ไพรวัลย์ อำเภอวังทองเลย เริ่มลงเรือกันเลย ใช้เวลาล่องแก่งกันประมาณ 2 ชั่วโมง แก่งแรก คือแก่งปากยาง มีระดับความยากอยู่ที่ระดับ 2-3 ความยาวของแก่งจะประมาณ 100 เมตร และเริ่มมีสีสันเพิ่มความยากใน การล่องมากขึ้นเมื่อเริ่มผ่าน แก่งหินลาดจนไปถึง แก่งรัชมังคลา แก่งซางเป็นแก่งที่ยากที่สุด สนุกตื่นเต้นหวาดเสียวที่สุดต้องคอยประคองเรือและคอยลุ้นตลอดเวลา ไม่ให้หล่นน้ำหรือไม่ทำให้เรือคว่ำ ต้องผ่านกิ่งไม้ โขดหิน ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชียวกรากสุดๆ การผ่านแก่งซางไปได้ จะทำให้ต้องจดจำรสชาติการล่องแก่งที่สนุกสนานเร้าใจสุดๆเลยทีเดียว เมื่อผ่านไปแล้วจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เหลือไว้แต่ความสนุก เสียงเล่าขานที่สุดมัน และโล่งอกกันโดยถ้วนหน้าเมื่อผ่านแก่งที่น้ำเชี่ยวกรากมาได้ ส่วนช่วงปลายของแก่งซาง เป็นช่วงที่น้ำไหลเบาๆ ทำให้มีโอกาสได้มองทัศนียภาพที่ร่มรื่มทั้งสองข้างลำน้ำมากขึ้น และสามารถลงเล่นน้ำ และลอยตามน้ำได้ในช่วงนี้
ประมาณบ่าย 3 ล่องไปถึงปลายทางที่แก่งซอง ที่บริเวณท่าขึ้นเรือ วนธารารีสอร์ต ขึ้นจากแพ ทานผลไม้หวานๆเย็นๆเช่นแตงโม สัปปะรดที่ทางเอเจ้นจัดมาให้ทาน แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ขึ้นรถตู้ เดินทางกลับกรุงเทพกัน แวะทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในจังหวัดนครสวรรค์
ประมาณห้าทุ่ม รถตู้ส่งถึงปลายทางสุดท้ายที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต จตุจักร แยกย้ายกันกับบ้านด้วยความปลอดภัย
อัตราค่าทริป  สมาชิก 9 คน ค่าทริป คนละ 3400 บาท
อัตรานี้รวม    รถตู้โดยสาร 10 ที่นั่ง พร้อมคนขับรวมค่าน้ำมัน แก๊ส
ค่าบ้านพัก 1 คืน รวมอาหารเช้า 1 มื้อ เป็นบ้านพักหลังใหญ่เฉพาะกลุ่ม มีสองชั้น รวม 12 เตียง มีแอร์ พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น มีเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว ตู้เย็น ทีวี ห้องน้ำชั้นละ 1 ห้อง
แพคเกจทัวร์ล่องแก่ง พร้อมสต๊าฟที่ชำนาญงาน พร้อมอุปกรณ์ หมวกกันน็อค เสื้อชูชีพ พร้อมบริการผลไม้หวานๆเย็นตอนที่ล่องแก่งจบ
ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆตามโปรแกรม
ค่ารถอีแต๊กพาเที่ยวในเนินมะปรางทั้งวัน
น้ำดื่มบรรจุขวดทั้งสองวัน
ไกด์นำเที่ยวเพื่อคอยอำนวยความสะดวก 1 คน
ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงินคุ้มครองท่านละ 3 แสนบาท 
อัตรานี้ไม่รวม ค่าอาหาร-เครี่องดื่ม เราขอตัดส่วนนี้ออกไป ให้โอกาสสมาชิกสั่งทานกันเอง จ่ายเงินกันเอง เพราะสไตล์การทานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยกเว้นมื้อเช้าวันอาทิตย์ซึ่งคิดรวมกับค่าที่พักแล้ว
ค่าทิป คนขับรถและเด็กเสิร์ฟอาหาร
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments