Mardi Himal trek Nepal 8 วัน 7 คืน

Mardi Himal Treks เป็นเส้นทางเทรคที่เริ่มได้รับความนิยมมากอีกเส้นทางหนึ่งในเขต Annapurna โดยจุดสูงสุดของเทรคนี้มีความสูงถึง 4,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล เส้นทางนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งทุ่งหญ้า นาข้าวแบบขั้นบันได ป่าเขา น้ำตก น้ำพุร้อน และยังมีชาวเขาใจดีที่ยิ้มแย้มทักทายนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเส้นทางอีกด้วย นักเดินเขาบางคนสามารถเดินไปถึงจุดสูงสุดที่ Mardi Himal Base Camp (4500 m) ได้ แต่ทริปของเราจะเทรคไปแค่ View Point หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจอีกที ใครเดินไหวและอยากไปต่อที่ Base Camp ก็เดินอีกประมาณ 2 ชั่วโมง ใครไม่ไหวก็ไม่ฝืน ให้เดินกลับลงมารอที่พัก ที่ High Camp ก็ได้ สำหรับจุดชมวิวที่ Mardi Himal View Point นั้นมีความสวยงามอลังการไม่
แพ้ที่
Mardi Himal Base Camp เลย
ยอดเขา Mardi Himal ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอันนาปุรณะเบสแคมป์ อยู่ในแนวสันเขาเดียวกับยอดมัจฉาปูชเร (Machhapuchhre 6,993เมตร) หรือที่รู้จักกันในนามยอดเขา หางปลา (Fish Tail) และตั้งอยูในอ้อมกอดของเทือกเขาอันนาปุรนะฝั่งทิศใต้ (Annapurana South 7,219เมตร) สามารถมองเห็นยอดเขาหิมะมัจฉาปูชเรตลอดเส้นทางได้อย่างเต็มอิ่ม จุดเส้นทางนี้มีระยะทางยาวประมาณ 64 กิโลเมตร มีความสดใหม่ นักท่องเที่ยวยังรู้จักไม่มากนัก ถ้าเปรียบเทียบกับเส้น Poon Hill, ABC และEBCจุดสตาร์ทของเส้นทางนี้ มีหลายจุด แต่เราเลือกที่สต๊าร์ทที่หมู่บ้าน Pittam Deurali โดยการนั่งรถจี๊ปไปจากเมืองโพครา 2 ชั่วโมง ไปเริ่มเดินที่หมู่บ้าน Pittam Deurali เราต้องเดินตัดผ่านป่าโบราณที่เขียวชอุ่มมีมอสเกาะตามลำต้นและกิ่งไม่เต็มไปหมด ผ่านดงกุหลาบพันปี ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งไปทั้งเทือกในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี (เดือนเมษายนพฤษาคม) ดอกกุหลาบมีหลากสีสันและหลายสายพันธุ์แข่งกันบานประชันความงดงามสดสวย เมื่อหลุดจากแนวป่า แล้วเดินไต่ขึ้นสันเขา เราจะได้สัมผัสกับความงดงามของทัศนียภาพของเทือกเขาหิมาลัยในบรรยากาศที่แตกต่างกันไปจากเดิม เส้นทางบางช่วงมีชันพอประมาณ ท้าทายกำลังขาของมือใหม่หัดเทรคได้ไม่น้อยทีเดียว จึงเป็นประสบการณ์เทรคกิ้งระยะสั้น ที่เต็มไปด้วยความสวยงาม เพลิดเพลิน เหน็ดเหนื่อย หนาวเหน็บ และท้าทาย ชวนไปสัมผัสเทือกเขาหิมาลัยเส้นทางใหม่กับเราสิคะ



กำหนดการออกทัวร์ 

*** 09 ตค. – 17 ตค.67
*** 22 ตค. – 30 ตค.67
*** 25 ตค. – 02 พย.67
โปรแกรมทัวร์

วันแรก : กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – กาฐมาณฑุ 

08.00 . พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ หน้าเคาน์เตอร์ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ทางเข้าเคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทย พาไปเช็คอิน โหลดสัมภาระ ผ่านพิธีทางตม.
10.15 น.ได้เวลาบินไปเมืองกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล ด้วยไฟร้ท TG 319 ใช้เวลาบิน
3 ชั่วโมง 25 นาที (ทานมื้อเที่ยงบนเครื่อง)
12.25 .ถึงสนามบินตรีภูวัน ผ่านตม.รับสัมภาระ แล้วพาเดินเท้าประมาณ 10 นาทีไปยัง สนามบินภายในประเทศ

14.00 น.เช็คอินกับสายการบินภายในประเทศ
15.00 น.นั่งเครื่องจากกาฐมาณฑุไปสนามบินโพคราประมาณครึ่งชั่วโมง
15.30 น.ถึงสนามบินโพครา พานั่งรถยนต์ส่วนบุคคล เดินทางไปยังที่พักใกล้ๆทะเลสาบเฟว่า แล้วเช็คอิน เก็บสัมภาระ
16.30 น.พาไปเดินเล่นริมทะเลสาบเฟว่า ให้สมาชิกถ่ายรูปสวยๆกับทะเลสาบเฟว่า ถ้าท้องฟ้าโปร่งใส ยอดเขามัจฉาปูชเร (Machapuchre Mt.) จะโผล่มาทักทายนักท่องเที่ยว
รอถ่ายรูปสวยๆตอนพระอาทิตย์ตก
18.30 น.พาไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในย่านทาเมล หลังจากนั้นปล่อยให้ช้อปปิ้ง เลือกซื้ออุปกรณ์เทรคกิ้งกันตามอัธยาศัย แล้วพากลับที่พัก

Day-2 : โพครา – Kande – Pittam Deurali (2160 m)

หลังอาหารเช้า นั่งรถจี๊ปไปที่หมู่บ้าน Kande ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเริ่มเทรคกัน จุดหมายปลายทางวันนี้ เราจะไปพักที่ Pitam Deurali ไปแวะทานมื้อเที่ยงที่ Australian Camp
วันนี้ใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 4ชั่วโมง ระยะทาง 5 กม.
เส้นทางช่วงแรกเป็นการเดินขึ้นบันไดหิน หลังจากผ่าน Australian Camp เส้นทางก็จะเริ่มเอียงลาดไปทีละน้อยและเป็นทางราบ

 

 

 

 

 

 

วันที่ 3 : Pittam Deurali  – Forest Camp (2500 m) – Low Camp (2970 m.)

หลังอาหารเช้า : เริ่มเทรค เริ่มใช้พลังขากันแล้ว ระหว่างทางจะมองเห็นยอดเขา Annapurna South และ Hiunchuli ในระยะที่ใกล้มาก แต่ยังไม่เห็นยอดมัจฉาปูชเร วันนี้เราจะเดินอยู่ในป่าเป็นส่วนใหญ่ เส้นทางไม่ชันมาก ผ่านดงกุหลาบพันปี ซึ่งจะออกดอกบานในช่วงปลายเดือนมีนาคน-เมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม จะมองเห็นดอกบานสะพรั่งเต็มภูเขา แวะทานมื้อเที่ยงที่ Forest Camp

ช่วงแรกใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึง Forest Camp (2600 m) เราจะหยุดทานมื้อเที่ยงกันที่นี่บ่ายๆ ๆออกเดินทางกันต่อ เรายังเดินผ่านป่ากุหลาบพันปีกันเป็นระยะๆ เดินกันอีกประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
ก็ถึง
ที่พักสำหรับคืนนี้ที่ Low Camp (2900 m) เก็บสัมภาระเข้าห้องพัก แล้วออกมาถ่ายรูปชมวิวกัน หรือใครต้องการจะนั่งทานขนมจิบชาชมวิว ก็ตามอัธยาศัย บ่ายแก่ๆ ก็รีบอาบน้ำกันให้เสร็จก่อนที่พระอาทิตย์จะตก แล้วสั่งอาหารเย็นกันไว้ก่อน
เย็นๆ : ออกมาทานมื้อเย็นพร้อมกันที่ห้องอาหารของเกสเฮ้า แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน

 

 

 

วันที่ 4 : Low Camp (2900 m) – Badal Danda (3300 m) – High Camp (3550 m.)

หลังอาหารเช้า ออกเดินกันต่อ เดินเลาะป่าไปเรื่อยๆจนถึง Middle Camp จากนั้นวิวก็จะเปลี่ยนเป็นสันเขา ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเดินไป High Camp เดินเลียบสันเขายาวไปเลย วันนี้เราเดินแค่ 4 ชั่วโมง จะไม่มีการหยุดทานมื้อเที่ยงระหว่างทาง
เที่ยงๆ : ก็ถึง High Camp ซึ่งเป็นที่พักสำหรับคืนนี้  เราจะไปทานมื้อเที่ยงกันที่ High Camp เลย หลังจากนั้นก็ปล่อยให้พักผ่อน ถ่ายรูป ชมวิวกันตามอัธยาศัย
เย็นๆ :  ออกมาชมวิวสวยๆตอนพระอาทิตย์ตกกัน เราจะเห็นยอดเขา Annapurna South และยอด Hiunchuli มาปรากฎให้เห็นอย่างใกล้ชิดอยู่ตรงหน้า ช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ด้านขวามือจะเห็นยอด Machhapuchre หรือยอดหางปลาปรากฎเป็นสีทองอมส้มสะท้อนแสงอาทิตย์ งดงามเกินจะบรรยายวันนี้คงไม่มีใครกล้าอาบน้ำกัน เพราะความหนาวเย็นของอากาศ ก็ใช้ทิชชูเปียกทำความสะอาดร่างกายเอา


วันที่ 5 : High Camp – Mardi Himal View Point (4200 m) – Low Camp (2900 m)

วันนี้เราต้องออกจากที่พักประมาณตี 4 เดินไต่เขาฝ่าความมืดและความหนาวเหน็บและเหนื่อยล้า ไปยังจุดชมวิว Mardi HimalView Point (4200 m) ช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง เส้นทางค่อนข้างชัน ต้องเดินเลียบหน้าผาไปเกือบตลอดทาง แต่วิวระหว่างทางโคตรสวยงาม อลังการงานสร้าง เราจะใช้เวลาถ่ายรูปอยู่ที่จุดชมวิวกันประมาณครึ่งชั่วโมง (หมายเหตุ ใครจะแพ็คอาหารหรือขนมปังไปทานรองระหว่างทางขึ้นไปจุดชมวิวหรือจะก็ตามอัธยาศัย) หลังจากนั้นเราต้องเดินกลับลงไปที่ High Camp อีก3 ชั่วโมง กลับไปทานมื้อเที่ยงกันที่ High Camp
หมายเหตุ ใครต้องการขึ้นไปชมวิวที่ Mardi Himal Base Camp (4500 m) ต้องเดินขึ้นไปจาก View Point อีกประมาณ2 ชม. กรุณาแจ้งล่วงหน้า เราจะนัดไกด์เนปาลไว้ก่อน
บ่ายๆ : เช็คเอ้า อำลา High Camp เดินลงเขาไปประมาณ 3 ชั่วโมง ไปพักค้างคืนที่ Low
Camp คาดว่าประมาณห้าโมงกว่าๆก็น่าจะถึง Low Camp

วันที่ 6 : Badal Danda – Sidhing (1700 m) Pokhara

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางเขาแล้ว เป็นเส้นทางเดินเลาะป่า และเดินดิ่งลงเขาอย่างเดียว ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ไปทานมื้อเที่ยงที่ Sidhing แล้วนั่งรถกลับโพคราอีก 2 ชั่วโมง
บ่ายแก่ๆ ถึงโพครา เข้าที่พัก เก็บสัมภาระ
เย็นๆ : พาออกไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมทะเลสาบเฟว่ากัน หลังจากนั้นก็ปล่อยให้สมาชิกช้อปปิ้งกัน

 

 

วันที่ 7 : Pokhara – Kathmandu – Thamel

หลังอาหารเช้า :  นั่งรถตู้กลับกรุงกาฐมาณฑุ ใช้เวลาประมาณ 7ชั่วโมงเศษ
(ใครต้องการจะนั่งเครื่องกลับแทนการนั่งรถตู้ กรุณาแจ้งล่วงหน้า ต้องจ่ายค่าเครื่องบินเพิ่มคนละประมาณ 100 usd)
เที่ยงๆ : แวะทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารระหว่างทาง
(สำหรับคนที่นั่งเครื่องกลับก็กลับไปทานที่ทาเมล)
บ่ายแก่ๆ :  ถึงกาฐมาณฑุ พาเข้าที่พักในย่านทาเมล ปล่อยให้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เย็นๆ :  พาไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในย่านทาเมล
เย็นๆ แล้วแยกย้ายกันไปช้อปปิ้งละลายเงินรูปี

วันที่ 8 : ทาเมล – ชมพระราชวังโบราณ ชมวัด – สนามบินตรีภูวัน

07.30 น.ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.30 . นั่งรถจากย่านทาเมล (ประมาณ 15 นาที) พาไปชมพระราชวังกาฐมาณฑุ (Kathmandu Durbar Square) จตุรัสแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ในปี พศ.2522
ชมวังกุมารี (Temple of Kumari) เป็นอาคารเก่าแก่สูง 3 ชั้น มีบานหน้าต่างโดยรอบ หน้าต่างแต่ละบานแกะสลักเรื่องราวในศาสนาฮินดูตามความเชื่อของชาวเนปาลเกี่ยวกับองค์กุมารีมาเป็นเวลายาวนานกว่า 2600 ปี
12.00 น.ทานมื้อเที่ยงพร้อมกันที่ภัตตาคารในย่านทาเมล หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
14.00 .พาไปชม เจดีย์โบดะนาถ (Bhoudanath Stupa) ชมเจดีย์ดวงตาเห็นธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์สถูปทรงกลมสีขาวมีดวงตาเห็นธรรมสีแดง เหลือง และน้ำเงิน แถวรอบๆเจดีย์เป็นที่ตั้งของชมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล เป็นศูนย์กลางทางศาสนาแบบทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีบ้านเรือนสีสันสดใสตั้งอยู่รายรอบองค์เจดีย์
มีร้านค้าขายสินค้าและของที่ระลึกต่างๆอยู่รอบๆเจดีย์ ให้สมาชิกใช้เวลาเดินชมรอบๆสถูป ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ประมาณ 2 ชั่วโมง
16.30 .นั่งรถต่อ ไปชมวัดลิง (Swayambhunath temple) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบต เป็นวัดที่มีสถูปดวงตาเห็นธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ สูงระดับ 77 เมตรเหนือน้ำทะเล เราต้องเดินขึ้นบันไดไปยังตัววัดที่สูงพอประมาณมองลงมาเห็นวิวของเมืองกาฐมาณฑุ ที่องค์เจดีย์มีคิ้วและดวงตาทั้งสี่ด้าน เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 2000 ปี ตัวสถูปครึ่งวงกลมสีขาว เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เหนือองค์สถูปมีปล้องไฉนสีทองเหลืองอร่าม มี 13ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนระดับธรรม 13 ขั้นก่อนบรรลุพระนิพพานของพระพุทธเจ้า
19.00
.พาไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารในย่านทาเมล
21.00 น.นั่งรถไปสนามบินตรีภูวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
21.30 น.ถึงสนามบินตรีภูวัน เช็คอินกับการบินไทย โหลดสัมภาระ เข้าแถวผ่านพิธีทางศุลกากร แล้วไปรอขึ้นเครื่องที่เกท

Day-9 : กาฐมาณฑุ กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ)

00.25 .ได้เวลาเหินฟ้าโบกมืออำลาเนปาล ด้วยไฟร้ท TG 310 บินสู่ประเทศไทย ใช้เวลา 3 ชม. 10 นาที 05.10 .ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

**********************************************************************************

อัตราค่าทริป :
ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในกรุ๊ป รับสมาชิกขั้นต่ำ 6 คน รับสมาชิกไม่เกิน 12 คน
สมาชิก 6 คน ค่าทริปคนละ 1140 usd
สมาชิก 7 คน ค่าทริปคนละ 1080 usd
สมาชิก 8 คน ค่าทริปคนละ 1025 usd
สมาชิก 9 คน ค่าทริปคนละ 990 usd
สมาชิก 10 คน ค่าทริปคนละ 962 usd
สมาชิก 11 คน ค่าทริปคนละ 934 usd
สมาชิก 12 คน ค่าทริปคนละ 913 usd
หมายเหตุ ถ้ามีกรุ๊ปส่วนตัว 6 คนขึ้นไป สามารถกำหนดวันเดินทางเองได้
อัตรานี้รวม
**ค่าทำวีซ่าท่องเที่ยวเนปาล (ทำจากเมืองไทย
)
**
ค่าตั๋วเครื่องบิน ขาเดียว (กาฐมาณฑุโพครา)
**ค่ารถตู้ ขาเดียว (โพครา กาฐมาณฑุ) และ ทาเมล สนามบินตรีภูวัน
**ค่ารถจี๊ป (Pokhara – Pittam Deurali และ Sidhing – Pokhara)
**ค่าที่พักในย่านทาเมล 1 คืน รวมอาหารเช้า
**ค่าที่พักที่โพครา 2 คืน รวมอาหารเช้า
**ค่าที่พักบนเขา 4 คืน รวมอาหารเช้า
**ค่าอาหารมื้อเที่ยง และเย็นที่โพครา และที่ทาเมล
**ค่าทำเพอร์มิตเดินเขา
**ค่าจ้างไกด์เดินเขาชาวเนปาล
**ค่าจ้างลูกหาบ (ลูกหาบ 1 คนต่อลูกทัวร์ 2 คน น้ำหนักสัมภาระไม่เกินคนละ 15 kg. )
**ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย 1 คน
อัตรานี้ไม่รวม
**ค่าประกันภัยการเดินทาง
(เนื่องจากค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกัน
เราจึงไม่คิดรวมในค่าทริป
) แต่เรายินดีทำประกันภัยให้ เมื่อการจองทัวร์เข้ามา
เบี้ยประกันอยู่ระหว่าง
12.16–34.80 usd (World Trips Travel Insurance)
**ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ไปกลับ กรุงเทพกาฐมาณฑุ การบินไทย
ค่าตั๋วประมาณ 16500-17500 บาท

**
ค่าอาหารเที่ยงและเย็นและน้ำดื่มตามเกสเฮ้าส์ระหว่างเทรคกิ้งบนเขา จากหมู่บ้าน

Pitam Deurali
ถึงหมู่บ้าน Sidhing
**ค่าอาบน้ำอุ่นตามโรงแรมบนเขา (บางรร.อาจจะมีชาร์จเงิน)
**
ค่าชาร์ตแบตเตอรี่มือถือ กล้องถ่ายรูปตามโรงแรมบนเขา (บางรร.อาจจะมีชาร์จเงิน)
**
ค่าตั๋วเข้าชมเจดีย์โพดานาถและวัดลิงและพระราชวังกาฐมาณฑุ (สมาชิกบางคนอาจ
จะเคยไปเที่ยวเนปาลมาก่อนแล้ว และไม่ต้องการเข้าชมอีก เลยไม่คิดค่าตั๋วรวมในค่า
ทริป) ค่าบัตรเข้าชมรวมประมาณ 1000 รูปี ประมาณ 300 บาท
**
ค่าเช่าถุงนอน และไม้เท้าเดินเขา
**
ค่าทิปคนขับรถ ไกด์เดินเขาชาวเนปาล และลูกหาบ
สิ่งที่ต้องเตรียม
**
เสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว เสื้อฮีตเทค ชุดลองจอนสำหรับสวมนอนบนเขา
**
หมวกไหมพรมกันหนาว หมวกปีกกว้างกันแดด
**
รองเท้าเดินเขา รองเท้าแตะ
**
ถุงมือ ถุงเท้า
**
ถุงนอน (ถ้าไม่มีสามารถไปหาเช่าที่โพคราได้)
**
ไม้เท้า (ถ้าไม่มีสามารถไปหาเช่าที่โพคราได้)
**
เป้ขนาดกลางสำหรับใส่สัมภาระส่วนตัวให้ลูกหาบแบกระหว่างเดินเขา 4 วัน
**
เป้ขนาดเล็กสำหรับสะพายเอง ใส่ของใช้ส่วนตัว กระเป๋าตังค์ พาสปอร์ต มือถือ และ
ขวดน้ำดื่ม
**ยาสามัญประจำตัว
**
อาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว ลูกอม ตามชอบ
**
ไฟฉายคาดหัว สำหรับขึ้นไปจุดชมวิว Mardi Himal View Point ตอนเช้ามืด
**
พาสปอร์ต มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน
**การแลกเงิน : สามารถนำเงินบาทไทยไปแลกเงินรูปีเนปาลได้ที่เมืองโพคราและทาเมล
สนใจจองทัวร์หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ ศิริพร : 0982725406, 0924341166 Line ID : ssp061962
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/11792
**********************************************************************
อัตราค่าทริป
:
ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในกรุ๊ป รับสมาชิกขั้นต่ำ 6 คน และรับแต่ละกรุ๊ปไม่เกิน 12 คน
สมาชิก 6 คน ค่าทริปคนละ 1140 usd
สมาชิก 7 คน ค่าทริปคนละ 1080 usd
สมาชิก 8 คน ค่าทริปคนละ  1025 usd
สมาชิก 9 คน ค่าทริปคนละ   990 usd
สมาชิก 10 คน ค่าทริปคนละ  962 usd
สมาชิก 11
คน ค่าทริปคนละ 934 usd
สมาชิก 12 คน ค่าทริปคนละ 913 usd
อัตรานี้รวม
**ค่าทำวีซ่าท่องเที่ยวเนปาล (ทำจากเมืองไทย)
**ค่าตั๋วเครื่องบิน ขาเดียว (กาฐมาณฑุโพครา)
**ค่ารถตู้ ขาเดียว (โพครา – กาฐมาณฑุ) และ ทาเมล – สนามบินตรีภูวัน
**ค่ารถจี๊ป (Pokhara – Pittam Deurali และ Sidhing – Pokhara)
**ค่าที่พักในย่านทาเมล 2 คืน รวมอาหารเช้า
**ค่าที่พักที่โพครา 1 คืน รวมอาหารเช้า
**ค่าที่พักบนเขา 4 คืน รวมอาหารเช้า
**ค่าอาหารมื้อเที่ยง และเย็นที่โพครา และที่ทาเมล
**ค่าทำเพอร์มิตเดินเขา
**ค่าจ้างไกด์เดินเขาชาวเนปาล 1 คน
**ค่าจ้างลูกหาบ (ลูกหาบ 1 คนต่อลูกทัวร์ 2 คน น้ำหนักสัมภาระไม่เกินคนละ 13 kg. )
**ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย 1 คน
อัตรานี้ไม่รวม
**ค่าประกันภัยการเดินทาง (เนื่องจากค่าเบี้ยประกันภัยการเดินทางขึ้นอยู่กับอายุของผู้เอาประกัน
    เราจึงไม่คิดรวมอยู้ในค่าทริป
) แต่เรายินดีทำประกันภัยให้ เมื่อการจองทัวร์เข้ามา
    เบี้ยประกันอยู่ระหว่าง
12.16–34.80 usd (World Trips Travel Insurance)
**ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ไปกลับ กรุงเทพกาฐมาณฑุ ไทยไลอ้อนแอร์ (บินแค่วันอังคาร
กับวันพุธเท่านั่น)  (ค่าตั๋ว+น้ำหนักโหลดคนละ 15 กิโลกรัม ประมาณ
21000-22500 บาท
**ค่าอาหารเที่ยงและเย็นและน้ำดื่มตามเกสเฮ้าส์ระหว่างเทรคกิ้งบนเขา จาก Pittam Deurali – Sidhing
**ค่าอาบน้ำอุ่นตามโรงแรมบนเขา (บางรร.อาจจะมีชาร์จเงิน)
**ค่าชาร์ตแบตเตอรี่มือถือ กล้องถ่ายรูปตามโรงแรมบนเขา (บางรร.อาจจะมีชาร์จเงิน)
**ค่าตั๋วเข้าชมเจดีย์โพดานาถและวัดลิงและพระราชวังกาฐมาณฑุ (สมาชิกบางคนอาจจะเคยไปเที่ยว            เนปาลมาก่อนแล้ว และไม่ต้องการเข้าชมอีก เลยไม่คิดค่าตั๋วรวมในค่าทริป) ค่าบัตรประมาณ 500 บาท
**ค่าเช่าถุงนอน และไม้เท้าเดินเขา
**ค่าทิปคนขับรถ ไกด์เนปาล ลูกหาบ
สิ่งที่ต้องเตรียม
**เสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว เสื้อฮีตเทค ชุดลองจอนสำหรับสวมนอนบนเขา
**หมวกไหมพรมกันหนาว หมวกปีกกว้างกันแดด
**รองเท้าเดินเขา รองเท้าแตะ
**ถุงมือและถุงเท้าหนาๆให้ความอบอุ่นพอ
**ถุงนอน (ถ้าไม่มีสามารถไปหาเช่าที่โพคราได้)
**ไม้เท้า (ถ้าไม่มีสามารถไปหาเช่าที่โพคราได้)
**เป้ขนาดกลางสำหรับใส่เสื้อผ้าและสัมภาระส่วนตัวให้ลูกหาบแบกระหว่างเดินเขา 4 วัน
**เป้ขนาดเล็กสำหรับสะพายเอง ใส่ของใช้ส่วนตัว กระเป๋าตังค์ พาสปอร์ต มือถือ และขวดน้ำดื่ม
**ยาสามัญประจำตัว
**อาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว ลูกอม ตามชอบ
**ไฟฉายคาดหัว สำหรับขึ้นไปจุดชมวิว Mardi Himal View Point ตอนเช้ามืด
**พาสปอร์ต มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน
***การแลกเงิน : สามารถนำเงินบาทไทย ไปแลกเงินรูปีเนปาลได้ที่เมืองโพคราและทาเมล
สนใจจองทัวร์หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดต่อ ศิริพร : 0982725406, 0924341166  Line ID : ssp061962
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/11792 :  อีซี่ออนทัวร์  : EASY ON TOUR

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments