Poon Hill (พูนฮิลล์) เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดติด 1 ใน 10 ของเอเชีย ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามอลังการของเทือกเขาหิมาลัยที่มียอดเขาสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ชมยอดเขาสีขาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี ละลานตากับวิวพาโนรามารอบตัว อากาศเย็นสบาย ระหว่างการเดินเทรคกิ้ง ชมการทำนาขั้นบันไดที่สวยงาม ซึ่งชาวบ้านปลูกข้าวเป็นชั้นๆเหมือนขั้นบันไดหลดหลั่นบนภูเขา นอกจากนี้ท่านจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นทั้งฮินดูและพุทธที่มีวิถีชีวิตอยู่รวมกันแบบผสมกลมกลืนอย่างลงตัว ชมเมืองมรดกโลกอันเก่าแก่ที่สุด ชมพระราชวังโบราณหลายยุคหลายสมัย ชมสถูปดวงตาเห็นธรรมที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเนปาล
โปรแกรมทัวร์ (5-13 November 2022)
วันแรก : กรุงเทพฯ – กาฐมาณฑุ – ชมเจดีย์โพธินาถ Bhoudanath Stupa – ชมวัดลิง Swayambhunath Temple |
08.30 น. |
พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ทางเข้าเคาน์เตอร์เช็คอิน H ไกด์พาไปเช็คอิน กับสายการบินไทย โหลดสัมภาระ ผ่านพิธีทางตม. |
10.30 น. |
เหินฟ้าสู่ เนปาล ด้วยไฟร้ท์ WE 319 ใช้เวลาบิน 3 ชม.ครึ่ง (Thai Smile) |
12.45 น. |
ตามเวลาท้องถิ่นเนปาล ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 1 ชม.15 นาที ถึงสนามบินตรีภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ นำท่านขึ้นรถตู้ พาไปชม เจดีย์โบดะนาถ (Bhoudanath Stupa) ชมเจดีย์ดวงตาเห็นธรรมที่ใหญ่ที่สุดให้สมาชิกใช้เวลาเดินชมรอบๆสถูป ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง |
15.30 น. |
พาไปชมวัดลิง (Swayambhunate temple) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบต เป็นวัดที่มีสถูปดวงตาเห็นธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ สูงระดับ 77 เมตรเหนือน้ำทะเล มองลงมาเห็นวิวของเมืองกาฐมาณฑุ ที่องค์เจดีย์มีคิ้วและดวงตาทั้งสี่ด้าน เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 2000 ปี ตัวสถูปครึ่งวงกลมสีขาว เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เหนือองค์สถูปมีปล้องไฉนสีเหลืองทองอร่าม 13 ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนระดับธรรม 13 ขั้น ก่อนบรรลุพระนิพพานของพระพุทธเจ้า |
18.30 น. |
พาไปทานมื้อเย็นที่ภัตตาคารในย่านทาเมล แล้วแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน |


วันที่ 2 : City Tour ชมพระราชวังโบราณ Bhaktapur – ชมเมืองมรดกโลก Patan Durbar Square – ชมพระราชวังกาฐมาณฑุ Kathmandu Durbar Square |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้าที่โรงแรม |
08.00 น. |
นั่งรถไปชมเมืองโบราณ Bhaktapur สร้างในศต.ที่ 12 ปัจจุบันเป็นที่อยู่ของชาวพื้นเมืองดั้งเดิมชาว เนวารี ที่นี่ประกอบด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น พระราชวัง Bhaktapur Durbar Square, พระราชวัง 55 พระแกล, หน้าต่างนกยูง, และเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาอันโด่งดังของเนปาล |
เที่ยงๆ |
ทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารในเมือง Bhaktapur |
บ่ายๆ |
ไปชม จตุรัสปาตัน (Patan Durbar Square) อยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ 5 กม. เป็นเมืองเก่ามรดกโลกและเป็นเมืองโบราณ สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช |
15.00 น. |
พากลับทาเมล ล้างหน้าล้างตา นั่งพักให้หายเหนื่อยกันก่อน |
17.00 น. |
พาเดินเท้าจากย่านทาเมล (ประมาณ 15 นาที) ไปชมพระราชวังกาฐมาณฑุ (Kathmandu Durbar Square) จตุรัสแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ในปีพศ.2522 ชมวัดกุมารี (Temple of Kumari) เป็นอาคารเก่าแก่สูง 3 ชั้น มีบานหน้าต่างโดยรอบ หน้าต่างแต่ละบานแกะสลักเรื่องราวในศาสนาฮินดูตามความเชื่อของชาวเนปาลเกี่ยวกับองค์กุมารีมาเป็น เวลายาวนานกว่า 2600 ปี |
19.00 น. |
พากลับทาเมล ไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารใกล้ๆที่พัก แล้วพากลับที่พัก |

วันที่ 3 : กาฐมาณฑุ – โพครา – ล่องเรือในทะเลสาบเฟว่า |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้าที่โรงแรม หลังจากนั้นนั่งรถตู้เดินทางไปเมืองโพครา ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง |
เที่ยงๆ |
แวะทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารระหว่างทาง |
15.00 น. |
โดยประมาณ ถึงเมืองโพครา เช็คอินที่โรงแรม หลังจากนั้นปล่อยตามอัธยาศัย ใครยังขาดอุปกรณ์เทรคกิ้งก็สามารถออกไปหาซื้อหรือเช่าได้ ใครต้องการออกไปเที่ยวชมเมืองโพคราก็สามารถให้ทางโรงแรมติดต่อ รถแท็กซี่ให้พาไปชมได้ |
17.00 น. |
ไปถ่ายรูปเล่นริมทะลสาบเฟว่า (Phewa Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองโพคราในวันที่ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอกจะมองเห็นยอดเขาหางปลาหรือมัจฉาปุชเรจะโผล่มาทักทายนักท่องเที่ยว ให้ได้ตื่นเต้นกับความอลังการของ ยอดเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์ ถ่ายรูปกันให้จุใจ พานั่งเรือไปชมวัดบาลาฮี (Barahi Temple) ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบเฟว่า |
19.00 น. |
ทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมทะลสาบ แล้วกลับไปพักผ่อน เตรียมตัวไปเทรคกิ้งพรุ่งนี้ |


วันที่ 4 : Pokhara – Hile (1430 m.) – Tikhedungha (1540 m.) – Ulleri (1960 m.) |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. |
นั่งรถจี๊ป ออกเดินทางไปหมู่บ้าน Hille ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถึงจุด Check Point รถจี๊ปจะจอดให้นักเดินเขาลงไปเช็ค ACAP Permit และ TIMS CARD ที่หมู่บ้าน Birethanti แล้วนั่งรถกันต่อ |
11.00 น. |
โดยประมาณ รถจี๊ปพาไปส่งที่หมู่บ้าน Hille ส่งสัมภาระให้ลูกหาบแบก แล้วเริ่มเทรคกิ้งกัน วันนี้ไปแวะทานมื้อเที่่ยงที่หมู่บ้าน Tikhedungha แล้วออกเดินทางกันต่อ วันนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง |
16.00 น. |
โดยประมาณ ถึงหมู่บ้าน Ulleri เช็คอินน์ เก็บสัมภาระ แล้วออกมานั่งพักให้หายเหนื่อย จิบชา ทานขนม หลังจากนั้นก็ปล่อยตามอัธยาศัย ใครจะอาบน้ำ ใครจะเดินเล่นถ่ายรูปวิวทิวทัศน์รอบๆหมู่บ้านก็ตามใจท่าน |
19.00 น. |
ออกมาทานมื้อเย็นพร้อมกันที่ห้องอาหารของที่พัก หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปพักผ่อน |

วันที่ 5 : Ulleri – Ghorepani (2874 เมตร) |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของที่พัก |
08.00 น. |
ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 4 – 5 ชม. เส้นทางช่วงแรกเราเดินขึ้นภูเขาไม่สูงนัก เดินเรื่อยๆผ่าน บ้านเรือนบนเขาและร้านค้าที่ทาสีสวยๆสะดุดตา เราจะมองเห็นยอดเขาหางปลา Machhapuchre และยอด Annapurna South จะโผล่มาทักทายให้หายเหนื่อย เส้นทางช่วงหลังจะต้องเดินผ่านลำธารและน้ำตกสายเล็กๆไปเกือบตลอดทาง เดินผ่านดงกุหลาบพันปีที่ขึ้นอยู่ บนเขาและจะออกดอกบานสะพรั่งเต็มภูเขาระหว่างต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน อากาศเย็นสบายเพราะเดินอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้เกือบตลอดเส้นทาง |
12.00 น. |
แวะทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้าน Nange Thanti แล้วเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ทำธุระส่วนตัว แล้วออกเดินทางกันต่อ |
14.00 น. |
โดยประมาณก็จะถึงหมู่บ้าน Ghorepani เช็คอินน์ เข้าที่พัก เก็บสัมภาระแล้วออกเดินเล่น ชมวิว รอถ่ายรูปชมพระอาทิตย์ตกที่ หน้าโรงแรม จากหมู่บ้านนี้ สามารถมองเห็นยอดเขา Dhaulagiri ชัดเจน ถ่ายภาพเก็บความประทับใจไว้ร่วมกัน หลังจากนั้นรีบสั่งอาหาร เย็นและนัดเวลาทาน แล้วก็เตรียมเข้าคิวอาบน้ำร้อนซึ่งที่นี่ให้อาบน้ำร้อนได้ฟรี มีตู้ไว้ให้หยอดบริจาคช่วยจ่ายค่าแก๊ส ก็ตามอัธยาศัย |
19.00 น. |
ลงมาทานมื้อเย็นพร้อมกัน ที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน |


วันที่ 6 : Ghorepani – Poon Hill (3210) – Tadapani (2630 m) |
ตีสี่กว่า |
ตื่นเช้ามาทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดสวยๆหล่อๆ เตรียมตัวออกเดินทางไปขึ้น Poon Hill |
ตีสี่ครึ่ง |
ออกจากโรงแรม เดินขึ้นไปยังจุดชมวิว Poon Hill ใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ควรไปให้ถึงพูนฮิลล์ เพื่อให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวก่อนหกโมงเช้า |
06.00 น. |
ไปถึง Poon Hill ให้ขึ้นบันไดไปบนหอชมวิว พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นแตะยอดหางปลาหรือ Machhapuchre ตามด้วยยอด Annapurna และ Dhaulagiri และยอดเขาสูงๆ สวยๆอีกมากมาย พากันถ่ายรูปให้จุใจ ที่นี่ท่านสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัยแบบพาโนรามาแบบตัวได้อย่างชัดเจน |
07.00 น. |
ได้เวลาเดินลงจาก Poon Hill ขากลับเนื่องจากเดินลงเขา ใช้เวลาประมาณ 50 นาที เส้นทางที่เราเดินลงต้องผ่านดงกุหลาบพันปี ระหว่างเดือนเดือนเมษายนจะมองเห็นหุบเขาเป็นสีแดงอมชมพู ซึ่งเต็มไปด้วยดอกกุหลาบพันปีสีแดงและสีชมพูที่กำลังบานสะพรั่งสดใสสวยงามไปทั้งหุบเขา ถ้าไปเดือนอื่นก็ไม่เห็นนะคะ |
08.00 น. |
ถึงที่พัก ทานมี้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วเช็คเอ้าท์ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราต้องเดินกันหนักหน่อย ต้องเดินขึ้น เขาและขึ้นจนถึงยอดเขาที่ค่อนข้างจะสูงชัน ผ่านดงกุหลาบพันปี และก็ต้องเดินลงเขา ลงไปเรื่อยๆจะถึงริมแม่น้ำ จนเข้าเขตหมู่บ้าน Deurali |
12.00 น. |
โดยประมาณ แวะทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Banthani จากนั้นก็ต้องเดินลงเขา ลงเป็นแนวดิ่งจนถึงตีนเขา เดินเรียบแม่น้ำ วันนี้จะเจอ อากาศจะร้อนสลับหนาว ช่วงแรกค่อนข้างร้อน เพราะมีบางช่วงต้องเดินตากแดกอยู่กลางภูเขา แต่บางจุดก็เดินอยู่ใต้ร่มเงาของต้นกุหลาบพันปี แต่ตอนเย็นพอพระอาทิตย์ตก อากาศค่อนข้าง หนาวเย็น |
15.00 น. |
โดยประมาณ เดินถึงหมู่บ้าน Tadapani เข้าที่พัก ซึ่งเป็นเกสเฮ้าสวยๆในหมู่บ้าน เป็นจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขา Annapurna South ยอด Hiunchuli และยอดเขาหางปลา Machhapuchhre ในระยะที่ใกล้ชิด จะรู้สึกว่าได้เข้าใกล้ยอดเขามากขึ้น แค่โผล่หน้าจากห้องนอนมาก็จะมองเห็นยอดเขาต่างๆรอทักทายท่านอยู่แล้ว ตื่นตะลึงกับสวยงามอลังการของยอดเขาหิมะ ที่อาบแสงอาทิตย์เป็นสีส้ม ตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก ต้องรีบคว้ากล้องถ่ายรูปมารอเก็บภาพประทับใจไว้ |
19.00 น. |
ลงมาทานมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน |





วันที่ 7 : Tadapani – Ghandruk |
07.00 น. |
ตื่นเช้ามาเตรียมตั้งกล้องไว้ถ่ายพระอาทิตย์ ที่กำลังโผล่ขึ้นมาทักทายเหนือยอดเขาหิมะสวยๆ แล้วเตรียมตัวลงไปทานมื้อเช้าด้วยกันที่ ห้องอาหารของโรงแรม |
08.00 น. |
ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเทรคกิ้ง จะเป็นวันที่เราจะเดินผ่านเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จะมียอดเขาหางปลา ตามมา ขนาบด้านซ้ายมือตลอดเส้นทาง ช่วงแรกที่ออกจากหมู่บ้านเราต้องเดินอยู่ในดงกุหลาบพันปีสักพักใหญ่ หลังจากนั้นจะเป็นเส้นทางดิ่งเดิน ลงเขาอยู่เกือบครึ่งทาง ผ่านนาข้าวขั้นบันไดของชาวบ้านถึงหมู่บ้าน Ghandruk ซึ่งเป็นหมู่บ้านบนเขาที่สวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะและนาข้าว ขั้นบันได บรรยากาศดีมากๆ |
13.00 น. |
ถึงหมู่บ้าน Grandruk พาเข้าที่พัก ทานมื้อเที่ยง แล้วปล่อยตามอัธยาศัย ออกไปถ่ายรูป ชมวิวรอบๆหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบด้วยนาขั้นบันได้ บรรยากาศดีมาก |
18.00 น. |
ออกไปดักรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกสวยๆที่หน้าหมู่บ้านกัน |


วันที่ 8 : Grandruk – Pokhara – Kathmandu |
07.00 น. |
ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่โรงแรม |
08.00 น. |
ออกเดินทางไปจุดขึ้นรถจี๊ป ประมาณ 1 ชั่วโมง แวะซื้อส้มเขียวหวานที่ชาวบ้านนำใส่กระจาดไปวางขายกินให้ชุ่มคอกัน |
09.00 น. |
นั่งรถจี๊ปกลับโพครา ใช้เวลานั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง |
12.00 น. |
โดยประมาณถึงเมืองโพครา ฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรม แล้วออกไปทานมื้อเที่ยง หลังจากนั้นให้เวลาไปหาซื้อของฝากของขวัญกัน |
14.00 น. |
นั่งรถไปสนามบินโพครา เช็คอิน โหลดสัมภาระ รอขึ้นเครื่องบินกลับกาฐมาณฑุ |
15.00 น. |
ได้เวลาบินกลับกาฐมาณฑุ ใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที |
15.30 น. |
ถึงกรุงกาฐมาณฑุ นั่งรถกลับโรงแรมในย่านทาเมล |
|
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ออกไปช๊อปปิ้งซื้อของฝากกันตามอัธยาศัย วันนี้เราจะพักที่เนปาลเป็นคืนสุดท้าย |
19.00 น. |
พาไปทานมื้อเย็นในย่านทาเมล แล้วพากันกลับที่พัก หรือใครอยากจะช๊อปปิ้งต่อก็เชิญนะคะ |
วันที่ 9 : กาฐมาณฑุ -กรุงเทพมหานคร |
07.30 น. |
ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม |
10.30 น. |
นั่งรถจากโรงแรม ไปสนามบินตรีภูวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที |
11.00 น. |
ถึงสนามบินตรีภูวัน เช็คอินกับสายการบินไทย โหลดสัมภาระ แล้วผ่านพิธีทางศุลกากร แล้วไปรอขึ้นเครื่อง |
13.55 น. |
ได้เวลาเหินฟ้าโบกมืออำลาเนปาล ด้วย Thai Smile (WE 320) บินสู่ประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 3 ชั้วโมงครึ่ง มีอาหารให้ทานบนเครื่อง |
18.30 น. |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน |
อัตราค่าทริป |
บินไทยสมายด์
สมาชิก 6 คน ค่าทริปคนละ 1109 usd
สมาชิก 7 คน ค่าทริปคนละ 929 usd
สมาชิก 8 คน ค่าทริปคนละ 865 usd |
อัตรานี้รวม |
ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โพครา-กาฐมาณฑุ |
ค่ารถรับส่ง (Hiace Van) จากกาฐมาณฑุ-โพครา |
ค่ารถ Hiace Van รับ-ส่งและนำเที่ยวตามโปรแกรมทั้งสองวัน |
ค่ารถจี๊ปไปส่งที่จุดเริ่มต้นเทรคกิ้ง และไปรับกลับโพครา เมื่อจบจากการเทรคกิ้งแล้ว |
ค่าเรือ (เหมาลำ) ไปชมวัดกลางเกาะในทะเลสาบเฟว่า (1 ชม.) |
ค่าห้องพักในทาเมล รวมอาหารเช้า (3 คืน) ห้องละ 2 คน |
ค่าห้องพักในโพครา รวมอาหารเช้า (1 คืน) ห้องละ 2 คน |
ค่าห้องพักระหว่างเทรคกิ้งบนเขา (มีห้องน้ำในตัว) 4 คืน ห้องละ 2 คน |
ACAP & TIMS permit (ใบอนุญาตสำหรับเดินเขา) |
ค่าจ้างไกด์เดินเขาชาวเนปาล จากกาฐมาณฑุ 1 คน |
ค่าจ่างไกด์จากเมืองไทย 1 คน (รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวไกด์แล้ว) |
ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น เจดีย์ วัด เมืองโบราณ พระราชวังโบราณ |
ค่าจ้างลูกหาบแบกสัมภาระระหว่างเดินเขา (ลูกหาบ 1 คน ต่อลูกทัวร์ 2 คน |
ค่าเบี้ยประกันภัยการเดินทาง วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท |
ค่าทำวีซ่าท่องเที่ยวเนปาล |
อัตรานี้ไม่รวม |
ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ กรุงเทพ-กาฐมาณฑุ (Thai Airways) |
ค่าอาหารและน้ำดื่ม ระหว่างการเทรคกิ้งบนเขา 5 วัน |
ค่าอาหารมื้อเที่ยงและเย็นที่กาฐมาณฑุและระหว่างชมเมืองโบราณ รวมถึงในเมืองโพครา |
ค่าอาบน้ำร้อนตามโรงแรมบนเขา บางที่อาจจะคิดเงิน |
ค่าชาร์ตแบตเตอรี่มือถือและกล้องถ่ายรูปตามโรงแรมบนเขา |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่ม 2000 บาท
|
Related