เที่ยวเมืองมรดกโลกฮอยอัน สุดมันกับการนั่งเรือกระด้ง ถ่ายรูปกับสะพานมือยักษ์ แลนด์มาร์กที่โด่งดังของบาน่าฮิลล์ สนุกสนานกับเครื่องเล่นหลากหลายที่แฟนตาซีปาร์ค พักโรงแรมสไตล์ฝรั่งเศสที่บาน่าฮิลล์ สัมผัสอากาศหนาวเย็นบนยอดเขาบาน่า 

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก  : กรุงเทพ – ดานัง – ฮอยอัน (บินแอร์ เอเชีย)
07.30 น. พบสมาชิกที่หน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน ของแอร์เอเชีย พาสมาชิกเช็คอินกับสายการบินแอร์เอเชีย ใครที่ไม่ต้องการโหลดสัมภาระ เราจะเช็คอินออนไลน์ให้ท่านไปก่อน
09.45 น. บินสู่สนามบินดานัง ด้วยไฟร้ท ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 45 นาที
11.30 น. ถึงสนามบินดานัง เข้าแถวสแตมป์พาสปอร์ต แล้วรับสัมภาระ ออกเดินทางด้วยรถโค้ชส่วนตัว พาเดินทางสู่ตัวเมืองดานัง แวะทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารระหว่างทาง
บ่ายๆ พาไปชมชายหายหมีเค (My Khe Beach) เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในดานังและเป็นหาดที่สวยที่สุด 1 ใน 6 ของโลก ฝั่งตรงข้ามของหาด จะเห็นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สีขาวยืนโดดเด่นอยู่ที่วัดหลินอึ้ง
หลังจากนั้นพาไปชมวัดหลินี้ง (Linh Ung temple)ที่แหลมเซินจา (Son tra peninsula) ห่างจาก My Kwe beach 9 กม. เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของเมืองดานัง ตั้งอยู่บนเกาะเซินตรา จุดเด่นของวัดนี้คือเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวองค์ใหญ่ มีความสูงถึง 67 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่หน้าภูเขาแล้วหันพระพักตร์ไปยังทะเลเบื้องหน้า นับเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในประเทศเวียดนาม และใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ได้รับการยอมรับว่าป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรเรื่องการทำมาค้าขาย สุขภาพ ให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย ภายในวิหารใหญ่ของวัดเป็นสถานที่บูชาเจ้าแม่กวนอิมและเทพองค์ต่างๆตามความเชื่อของชาวบ้าน 
เย็น นั่งรถต่อเดินทางสู่เมืองฮอยอัน พาไปเช็คอินน์ที่โรงแรมในเมืองฮอยอัน หลังจากนั้นพาไปเดินถนนคนเดิน (Hoi An Night Market) เดินไปได้ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม
ค่ำๆ ทานมื้อเย็นในเมืองฮอยอัน แล้วปล่อยตามอัธยาศัย

วันที่ 2 : พาไปนั่งเรือกระด้ง – พาชมเมืองโบราณออยอัน – เดินทางไปพักเมืองดานัง
 เช้า หลังอาหารเช้า พาไปเดินชมเมืองโบราณฮอยอัน มีเสาโทริอิไม้ สไตล์ญี่ปุ่นตั้งโดดเด่นอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้า มีเรือสำเภาจำลองของประเทศญี่ปุ่นบริเวณหน้าทางเข้า แสดงถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เคยเป็นหนึ่งในพหุวัฒนธรรมของเมืองฮอยอันแห่งนี้ มีตึกเก่าสีเหลืองมัสตาร์ดสไตล์โคโรเนียลที่เราอาจจะเคยเห็นในอาคารเก่าของจังหวัดนครพนมหรืออุบลราชธานี ซึ่งตึกเก่าเหล่านี้เปิดเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของฝากตลอดทางเดินกว่า 2 กิโลเมตร มีร้านสตรีทฟู้ดเวียตนามให้เราได้ลองชิมกัน มีอาหารพื้นถิ่นตลอดทางเดินกันเลย
* สะพานญี่ปุ่น หรือที่ชาวเวียดนามเรียกว่า Lai Vien Kieu ที่แปลว่าเมืองฮอยอันยินดีต้อนรับผู้คนจากทุกที่บนโลกที่มาเยี่ยมเยียน ซึ่งสะพานแห่งนี้สร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่น และได้รับความร่วมมือจากชุมชนจีนที่อยู่ใกล้ๆ ในการสร้างอีกด้วย อายุของสะพานแห่งนี้ประมาณ 400 กว่าปี สร้างในปี 1593 หรือปีลิง สร้างเสร็จปีจอทำให้บนสะพานมีรูปปั้นของลิงกับหมาเปรียบเหมือนเป็นผู้ดูแลสะพานแห่งนี้ เป็นไฮไลท์ชองเมืองโบราณฮอยอัน
* จากนั้นไปสักการะศาลเจ้ากวนอู ที่รวมใจของชาวจีนกวางตุ้งในเมืองฮอยอัน
* ไปชมบ้านโบราณหรือบ้านเก่าฮอยอันเลขที่ 101 (Old House No.101) อายุกว่า 220 ปี สร้างตั้งแต่แต่ปี 1802 เป็นบ้านไม้เก่าแก่ของชาวจีนที่ถูกตกทอดมากกว่า 5 รุ่น ภายในบ้านยังคงสภาพดี มีความคลาสสิค มีข้าวของเครื่องใช้โบราณจำนวนมาก เป็นบ้านสไตล์ชาวจีน มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้ในอดีตเคยเป็นที่ประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์
พาไปนั่งเรือกระด้งที่หมู่บ้านกั๊มทาน เมืองฮอยอันเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ภายในสวนมะพร้าว ซึ่งรถจะไปจอดตรงบริเวณทางเข้าหมู่บ้านแล้วเราต้องเดินเข้าไปในทางเดินที่แวดล้อมด้วยสวนมะพร้าว ซึ่งในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นที่พักอาศัยของทหาร ส่วนปัจจุบันอาชีพหลักชองชาวบ้านคือการทำประมง ชาวบ้านมักใช้เรือกระด้งสัญจรไปมาและนำไปหาปลา โดยเรือกระด้งทำจากไม้ไผ่เคลือบด้วยน้ำมันสน มีสีสันสดใส เรือบางลำทำเป็นลายธงชาติไทยและธงชาติเวียดนามด้วยค่ะ ใครที่อยากลองมานั่งเรือกระด้งหมุนแบบเร่งสปีดก็ต้องแจ้งคนพายเรือได้ แต่ถ้าใครไม่อยากหมุนอยากนั่งชิลๆ ก็บอกคนพายเรือได้ หนึ่งลำจะนั่งได้ 3 คนรวมคนพายเรือค่ะ ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
เที่ยง แล้วพาไปทานมื้อเที่ยง ในเมืองฮอยอัน ก่อนกลับโรงแรม พาไปชิม น้ำสมุนไพรผสมดอกบัว แล้วกลับไปรับสัมภาระที่โรงแรม แล้วเช็คเอ้าท์
บ่ายๆ พาไปนั่งรถไปเมืองดานัง ประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงเมืองดานัง พาไปเช็คอินที่โรงแรม เก็บสัมภาระแล้วเตรียมตัวออกไปเที่ยวกัน
เย็นๆ พาไปถ่ายรูปที่ สะพานมังกร (Dragon Bridge) นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นแลนด์มาร์คอันดับ 1 ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนามในขณะนี้ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำฮาน (Han River) เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จไปเมื่อปี 2013 นี่เองและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ดานังในเวลาอันรวดเร็ว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนที่สะพานแห่งนี้หลายล้านคน จนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งในตัวเมืองดานัง ช่วงเวลาที่แนะนำมาเยี่ยมชมสะพานแห่งนี้เป็นตอนเย็นค่ะ ลักษณะของตัวสะพานรูปมังกรสีทองที่โดดเด่น พาดตัวข้ามแม่น้ำฮาน ซึ่งสวยงามและสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากมุมต่างๆ ของเมืองดานัง ไปถ่ายรูป Dragon Carp Statue ซึ่งรูปปั้นหัวเป็นมังกรตัวเป็นปลาคาร์ฟ ที่สร้างจากหินอ่อนน้ำหนัก 200 ตัน ความสูง 7.5 เมตร เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ นักท่องเที่ยวนิยมไปเช็กอิน ถ่ายรูปกัน รูปปั้นนี้สร้างเลียนแบบเมอร์ไลอ้อนของสิงคโปร์ มีความหมายให้ชาวเวียตนามหมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อกลายเป็นมังกรมาช่วยเหลือประเทศชาติต่อไป จากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะสามารถบันทึกภาพของมังกรสีขาวพ่นน้ำโดยมีสะพานดรากอนบริดจ์ สีทองที่พาดข้ามแม่น้ำฮานเป็นฉากหลัง มีความงดงามโดดเด่นมาก โดยเฉพาะเวลาที่เปิดไฟตอนกลางคืน
ด้เวลาพอสมควร พาไปทานมื้อเย็น หลังจากนั้นพาไปช๊อปปิ้งที่ตลาดฮาน เป็นตลาดที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในเมืองดานัง มีอาหารเวียดนามวางขายมากมาย ที่นี่จะเต็มไปด้วยชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมาเดินช๊อปปิ้งกัน เราสามารถหาซื้อของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า ชุดอ๋าวหย่าย งานหัตถกรรมพื้นบ้านต่างๆไปเป็นของฝากได้ (ลักษณะคล้ายๆตลาดนัดจตุจักรบ้านเรา) ราคาสามารถต่อรองกันได้ พ่อค่าแม่ค้าที่นี่บางคนพูดภาษาไทยได้  มาเยือนเมืองดานังแล้วต้องไม่พลาดที่จะมาเดินช๊อปปิ้งในตลาดฮานนะคะ

* Golden Bridge เป็นสะพานมือหรือ มีความยาวประมาณ 150 เมตรค่ะ โดยตัวสะพานเป็นสีทอง พร้อมกับมีมือยักษ์สองมือที่โอบอุ้มสะพานแห่งนี้ไว้ เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนบาน่าฮิลล์ ที่ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันบนสะพานมือแห่งนี้ เราไปชมจุดอื่นกันก่อนแล้วพอพระอาทิตย์ให้ตก เราจะกลับมาถ่ายรูปที่สะพานมือกันอีกครั้ง ให้นักท่องเที่ยวที่มาชมแบบ One day Tour กลับไปก่อน แล้วเราจะไปรูปที่สะพานมือตอนที่ตอนพระอาทิตย์กำลังตก จะได้ภาพที่สวยงาม
* หมู่บ้านฝรั่งเศส (French Village) ซึ่งอยู่รอบๆที่พักของเรานี่แหละ ข้อดีของการพักบนนี้ก็คือ เราจะสามารถถ่ายรูปเล่นชิลล์ๆรอบหมู่บ้านได้โดยไม่ติดคนอื่น ไฮไลท์สำคัญของ French Village คือโบสถ์กลางเมืองที่ชื่อว่า โบสถ์ St. Danis ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Gothic ซึ่งจําลองแบบมาจากโบสถ์ Notre-Dame ที่ปารีส
* สวนสนุก Fantasy park เป็นสวนสนุกในร่ม มีเครื่องเล่นหลากหลาย ทั้งGiant drop, ขี่ม้าแบบ5D, 4 D เกมส์ล่องเครื่องบิน, รถจั้ม ภาพยนต์มิติต่างๆ โรงหนัง โรงละคร ตู้เกมส์ โดยเครื่องเล่นทุกชนิด เล่นได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ที่นี่ มีโรเลอร์สโคสเตอร์ (Roller Scotter) ให้เล่นด้วย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความรวดเร็วและผาดโผนท้าทาย เป็นรถบังคับด้วยเกียร์หากต้องการเบรคและชลอความเร็ว รถจะแล่นตามรางเหล็ก ใช้เวลาประมาณ10 นาที แต่อาจจะต่อคิวเล่นยาวหน่อยนะคะ หากพักด้านบน แนะนำให้รีบมาเล่นแต่เช้า ก่อนที่นักท่องเที่ยวด้านล่างจะขึ้นมาถึง
* โรงบ่มไวน์ Debay Wine Cellar
* สวนดอกไม้ Le Jardin d’ Amour Garden สวนดอกไม้สวยๆสไตล์ยุโรปกับบรรยากาศแสนโรแมนติก การเดินทางมาที่สวนนี้ ต้องนั่งกระเช้าที่ Gare Morin อีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ ยังสามารถเดินต่อไปชมโรงบ่มไวน์ได้อีกด้วย
* พระพุทธรูปขาว (Shakyaminu Buddha)
* Lin Chua Linh Tu temple เป็นวัดที่อยู่บนจุดสูงสุดของ Bana Hill ถ้าต้องการชมวิว Bana Hills จากมุมสูง  เราแนะนำให้มาเที่ยว “วัดจีน” ที่อยู่ด้านหลัง แต่ต้องออกกำลังขากันหน่อยนะคะ เพราะต้องค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไต่ระดับไปพอประมาณ ก็จะเจอกับเจดีย์และวัดจีนที่ตั้งอยู่บนมุมสูง
ค่ำๆ พาไปทานมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารบนบาน่าฮิลล์ มีอาหารให้เลือกทานหลายร้าน หลังอาหาร ใครยังมีแรงอยู่ อยากจะออกไปถ่ายรูปเก็บตกตามหมู่บ่านฝรั่งเศสก็เชิญตามอัธยาศัยนะคะ
วันที่ 3 : ดานัง – บาน่าฮิลล์  – ชมสะพานมือ Golden Bridge) – เที่ยวสวนสนุก – ชมหมู่บ้านฝรั่งเศส
เช้า หลังอาหารเช้า พาไปชมโบสถ์ไก่ (Danang Catedral) เป็นโบสถ์สีชมพู สร้างขึ้นในปีคศ. 1923ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Gothic คนดานังนิยมเรียกโบสถ์แห่งนี้ว่าโบสถ์ไก่ เพราะมกังหันลมรูปไก่ติดอยู่ด้านบนสุด ให้สมาชิกถ่ายรูปจากด้านหน้านะคะ ไม่ได้พาเข้าไปในโบสถ
ไปชมภูเขาหินอ่อน (Marble Mountain) เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่เลียบชายฝั่เมืองดานัง ประกอบไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่ 5 ลูก ตั้งชื่อตามธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ถวีเซิน (น้ำ), หม็อกเซิน (ไม้),  ฮวาเซิน (ไฟ), กิมเซิน (โลหะ) พาขึ้นลิฟท์แก้วซึ่งเป็นลิฟต์ความเร็วสูง สำหรับไปชมวิวสวยๆของเมือง ดานัง ที่นี่มีทั้งวัดจีน มีถ้ำ มีพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวอยู่จำนวนมาก
เที่ยง พาไปทานมื้อเที่ยงกัน แล้วออกเดินทางไปบาน่าฮิลล์ นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ถึงบาน่าฮิลล์ พาขึ้นกระเช้าไปที่โรงแรม Mercure Bana Hill French Village
Bana Hills เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเวียดนามกลาง อยู่ห่างจากเมืองดานัง ประมาณ 40 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนภูเขาที่ชื่อว่า Truong Son Mountain ซึ่งความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร ที่นีจึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมือง ดานัง มักจะต้องแวะมาเที่ยวที่บานาฮิลล์ด้วยเสมอ บานาฮิลล์เป็นเมืองตากอากาศแห่งสำคัญของเวียดนามตอนกลางมากว่าร้อยปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เวียดนามยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส เมื่อปีค.. 1894 ข้าหลวงฝรั่งเศส มีแนวคิดริเริ่มที่จะสร้างสถานที่พักผ่อนบนเขาให้กับชาวฝรั่งเศสรวมทั้งทหารที่ประจำการอยู่ที่นั่น จนปี ค..1901 จึงค้นพบและเลือกภูเขาบานาแห่งนี้ เพื่อสร้างเป็นที่พักตากอากาศสำหรับชาวฝรั่งเศส เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศดี เพราะมีอากาศเย็นสบายตลอดปี จึงเริ่มมีการพัฒนาตัดถนนขึ้นสู่ยอดเขา จนเสร็จสมบูรณ์ในปีค..1919 แต่หลังจากที่ชาวฝรั่งเศสออกไปแล้ว ที่นี่ก็ได้ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่งสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง รัฐบาลเวียดนามก็ได้มีการพัฒนาที่นี่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นอีกครั้ง และปัจจุบัน Bana Hillsได้รับการพัฒนาโดย Sun Group และใช้ชื่อว่า Sun World Bana Hills ซึ่งจากด้านล่างเราจะต้องนั่งเคเบิลคาร์ไต่ระดับความสูงไปยังด้านบน กระเช้าไฟฟ้าจะไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ทัศนียภาพเบื้องล่างงดงามมาก นอกจากยอดไม้ที่เห็นอยู่ลิบๆอยู่เบื้องล่างแล้ว ยังเห็นน้ำตกและลําธารที่สวยงาม บางช่วงกระเช้าก็จะพาเรามุดเข้าไปในสายหมอก ยิ่งขึ้นสูงอากาศยิ่งหนาวเย็นลงเรื่อยๆ เมื่อใกล้จุดหมายปลายทางจะมองเห็นยอดปราสาทอยู่ลิบๆ เหมือนเมืองในเทพนิยาย ใช้เวลาประมาณ 15 นาที พอลงจากกระเช้าไฟฟ้าก็จะพบกับสวนสนุก Fantasy Park จากสวนสนุกยังต้องขึ้นกระเช้าไฟฟ้าอีกช่วง เพื่อต่อไปยังที่เที่ยวอื่นๆ เช่นสวนดอกไม้ Le Jardin d’ Amour, โรงบ่มไวน์ Debay Wine Cellar และ The Linh Ung Pagoda เป็นพระพุทธรูปสีขาวสูงถึง 27 เมตร ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล รวมทั้งเป็นที่ตั้งของโรงแรมบนยอดเขาซึ่งเป็นพักค้างคืนของนักท่องเที่ยว

14.00 น. เช็คอินที่ Mercure Bana Hill French Village เก็บสัมภาระ ล้างหน้าหน้าตาแล้วออกไปชม บาน่าฮิลล์กัน  Mercure Bana Hill French Village เป็นที่พักสไตล์หมู่บ้านยุโรป แบ่งเป็น 7 ตึกด้วยกัน มีชื่อเรียกตามชื่อเมืองสำคัญของฝรั่งเศส  เช่น Hotel de Lyon, Hotel de Paris, Hotel de Nice มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของจำนวนมากให้เลือกซื้อ 

วันที่ 4 : บาน่าฮิลล์ – ดานัง – กรุงเทพ
เช้าตรู่ ตื่นเช้ามา รีบพากันออกไปถ่ายรูปที่สะพานมือก่อน เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบาน่าฮิลล์แบบ One day tour ยังไม่ขึ้นมา เราต้องรีบทำเวลา ใครที่อยากจะไปเล่นเครื่องเล่นที่ Fantasy Park ต้องทำเวลาหน่อย หลังจากนั้นให้กลับไปทานมื้อเช้าที่โรงแรม หลังอาหารเช้าใครอยากจะไปถ่ายรูปเก็บตกส่วนอื่นๆ ก็ตามอัธยาศัย เราต้องกลับมาเช็คเอาท์ก่อนสิบโมงเช้า แล้วฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรม แล้วกลับไปเที่ยวต่อ
เที่ยง อำลา French Village พาลงกระเช้าไปข้างล่าง นั่งรถไปยังเมืองดานัง แวะทานมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารระหว่างทาง หลังจากนั้นรถพาไปส่งที่สนามบินดานัง
16.00 น. ถึงสนามบินดานัง เช็คอินกับสายการบินแอร์ เอเชีย โหลดสัมภาระ พาไปขึ้นเครื่อง
18.30 น. ได้เวลาอำลาเวียดนาม บินกลับเมืองไทยกับ ใช้เวลาบิน 1  ชั่วโมง 25 นาที
20.20 น. ถึงสนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ แยกย้ายกันกลับบ้าน 

อัตราค่าทริป
กรุ๊ปส่วนตัว 17-20 คน ค่าทริปคนละ 10900 บาท
อัตรานี้รวม
ค่าที่พักห้องละ 2 คน (ฮอยอัน 1 คืน, ดานัง 1 คืน, พักโรงแรมที่บาน่าฮิลล์ 1 คืน)
ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตลอดเส้นทาง ตามโปรแกรม (ใช้รถโค้ช)
ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่าง
ค่าอาหาร (เช้า 3 มื้อ กลางวัน 4 มื้อ และอาหารเย็น 3 มื้อ พร้อมเครื่องดื่ม) ตามที่ระบุในโปรแกรม
ค่าน้ำดื่มบรรจุขวด วันละ 1 ขวด
ค่าขึ้นลิฟท์แก้วที่วัดหินอ่อน (Marble Mountain)
ค่าขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Bana Hills
ค่าประกันภัยการเดินทาง (วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท)
ค่าจ้างไกด์เวียดนามพูดไทยได้ 1 คน
ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย 1 คน
อัตรานี้ไม่รวม
ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ (แอร์เอเชีย) ดอนเมือง-ดานัง
ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งมาทานกันเอง เช่น ชา กาแฟน้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ค่าซักรีดในโรงแรม
ค่าทิปสำหรับคนขับรถและไกด์เวียดนาม ทางเอเจ้นเวียตนามขอจากสมาชิกวันละ 100 บาทต่อคน
(4 วันรวม 400 บาท)

หมายเหตุ : ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Air Asia ยังเช็คไม่ได้ค่ะ ต้องรู้วันเดินทางก่อน
แต่จะติดต่อซื้อตั๋วกรุ๊ปค่ะ

สนใจจองทริป กรุณาติดต่อ : ศิริพร : 092-4341166, 098-2725406 ไลน์ไอดี : sk_pond135

การจองทริป : โอนเงินค่ามัดจำทริปท่านละ 8000 บาท
การยกเลิกทริป : ถ้าจ้องตั๋วแล้ว ยกเลิกไม่ได้ เพราะตั๋วที่จองเป็นโลว์คอส
อาจมีจะคืนค่าธรรมเนียมจากแอร์ไลน์

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments