ซาปา เป็นเมืองแห่งขุนเขาสายน้ำและนาข้าวขั้นบันไดที่สวยงามและมีชื่อเสียงของเวียดนาม ตั้งอยู่ในเมืองลาวไกทางเหนือสุดของเวียดนามใกล้ชายแดนจีน ห่างจากเมืองฮานอย 350 กิโลเมตร ตัวเมืองซาปานั้นตั้งอยู่บนไหล่เขาสูง 1650 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นสถานที่พักตากอากาศของชาวฝรั่งเศส ในยุคที่เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของผรั่งเศส ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ชมนาขั้นบันได สัมผัสวิถีชนเผ่า ขึ้นยอดเขาฟานสิปันสัมผัสอากาศหนาวเย็นและขึ้นไปชมวิวสวยๆของเมืองซาปาจากยอดเขาสูงที่ปกคลุมด้วยไอหมอกสวยๆ
ยอดเขาฟานซีปัน เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามและในคาบสมุทรอินโดจีน สูงระดับ 3143 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในเทือกเขา Hoang Lien Son อยู่ห่างจากเมืองซาปาประมาณ 9 กิโลเมตรไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาปาในจังหวัดลาวไก ในอดีตการขึ้นยอดเขาฟานซิปันต้องเทรคกิ้งไปยัง Fansipan Peak โดยอาจจะใช้เวลา 2-3 วันในการขึ้นสู่ยอด แต่ในปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้าของ Sunworld Fansipan Legend ใช้เวลาแค่ 15-20 นาที แล้วต่อด้วยรถไฟโมโนเรลไปยังยอดเขาฟานซีปันได้อย่างง่ายดาย กระเช้าไฟฟ้านี้มีความยาว 6.2 กม.ได้ชื่อว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก สัมผัสทะเลหมอกสวยๆและอากาศที่หนาวเย็นสะใจ

ทริปที่จัด ปี 2565
03-06 ธค.2565 : วันพ่อแห่งชาติ อากาศหนาวเย็น เสร็จจากฤดูเก็บเกี่ยว มีน้ำขังตามนาขั้นบันได ในยามที่น้ำในนาสะท้อนแสงแดด ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยงามยิ่งนัก มีไอหมอกกันไหลอ้อยอิ่งเหนือผืนนา
30 ธค.- 2 มค 2566 : เทศกาลปีใหม่ อากาศหนาวมาก เหมาะสำหรับสมาชิกที่ชื่นชอบอากาศหนาวมากๆ 

โปรแกรมทัวร์

วันแรก : กทม. – ฮานอย พักฮานอย

16.00 น.พบกันที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 สนามบินดอนเมือง เช็คอินน์ โหลดสัมภาระขึ้นเครื่อง ใครหิวก็หามื้อเย็นในฟูดคอร์ตที่สนามบินทานไปก่อนนะคะ
18.30 น. เดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ไฟร้ท FD 644 ใช้เวลาบิน 1 ชม.50 นาที
20.20 น. เดินทางถึงสนามบิน Noi Bai เมืองฮานอย เข้าแถวสแตมป์พาสปอร์ต รับสัมภาระ แล้วขึ้น Shuttle bus เดินทางไปเมืองเก่าในย่าน Old Quater ในเมืองฮานอย นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมง
21.30 น. ถึงฮานอย พาเข้าที่พักในย่าน Old Quarter เก็บสัมภาระแล้วพาไปทานเฝอร้อนๆอร่อย ในย่านเมืองเก่าฮานอย แล้วกลับไปนอนโรงแรมในเมืองฮานอย

วันที่ 2 : ชมเมืองฮานอย – ขึ้นรถทัวร์รอบค่ำไปเมืองซาปา (รถนอน)

เช้า  :  ทานมื้อเช้าที่โรงแรม หลังจากนั้นพาไปชม Ho Chi Minh Mausoleum (สุสานลุงโฮ) สร้างขึ้นในปีคศ.1973 เป็นสุสานที่สร้างด้วยหินอ่อน หินแกรนิตและไม้มีค่าจากทั่วประเทศ ภายในสุสานมีโลงแก้วซึ่งบรรจุร่างของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ท่านเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวไปสู่การประกาศอิสระภาพของเวียดนามจากฝรั่งเศสและเป็นรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของเวียตนาม เป็นผู้รวบรวมประเทศเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ให้เป็นประเทศเดียวกัน ชมบ้านพักของลุงโฮ ซึ่งเคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการในสงครามเวียดนาม พาไปชม เจดีย์เสาเดียว One Pillar Pagoda ตั้งอยู่บ้านหลังสุสานโฮจิมินห์ วัดนี้ถูกสร้างมานานกว่าพันปี (สร้างในปีคศ. 1049) เป็นศาลาขนาดเล็กสร้างอยู่บนเสาต้นเดียวอยู่กลางสระน้ำ สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชาเจ้าแม่กวนอิม โดยมีตำนานเล่าว่าในสมัยของกษัตริย์ผู้ครองฮานอย พระเจ้าหลีไทโต ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี คศ.1028 -1054  อยากได้โอรส และรอคอยมาเป็นเวลานานมากแต่ก็ยังไม่มีสักที จนคืนหนึ่งทรงสุบินว่าเจ้าแม่กวนอิมได้มาปรากฎที่สระบัวและพระราชทานโอรสให้กับพระองค์ และหลังจากนั้นพระองค์ก็มีพระราชโอรสจริงๆ จึงให้สร้างเจดีย์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนเสาต้นเดียวกลางสระน้ำเพื่อเป็นการถวายสักการะแค่เจ้าแม่กวนอิมเที่ยง : พาไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารในย่าน Old Quarter จากนั้นพาไปชมโบสเซนต์ โจเซฟ (Joseph’s Cathedral) ตั้งอยู่ด้านเหนือของทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม สร้างขึ้นในศต.19 ในช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสเข้ายึดครองประเทศเวียดนามช่วงแรกๆ ตัวโบสถ์มีต้นแบบมาจากวิหารนอทเทอร์ดามในกรุงปารีส และเป็นศูนย์รวมของชาวคริสต์นิกายโรมันแคทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย และเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่โดดเด่นมากของเวียดนาม
เย็นๆ : ไปชมทะเลสาบคืนดาบ หรือ ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Hoan Kiem Lake) ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่กลางเมืองเก่าฮานอย ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า อดีตจักรพรรดิเล เหล่ย ได้รับดาบวิเศษจากเต่าในทะเลสาบแห่งนี้ และได้ใช้ดาบนั้นไปขับไล่ผู้รุกรานชาวจีนจนได้รับชัยชนะ หลังจากนั้นองค์จักรพรรดิ์ได้ลงเรือไปในทะเลสาบเพื่อนำดาบศักดิ์สิทธิ์ไปคืนให้เต่า แล้วมีเต่ายักษ์ได้ขึ้นมาฉกดาบจากพระหัตถ์ของพระองค์แล้วดำน้ำหายไป จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ พาไปถ่ายรูปที่ สะพานเทฮุก (The Huc) หรือสะพานแสงอาทิตย์ มีสีแดงสดเชื่อมระหว่างริมฝั่งกับเกาะเนินหยก เป็นสะพานที่นักท่องเที่ยวนิยมไปยืนถ่ายรูปกัน สะพานนี้มีความหมายอันไพเราะว่า “สะพานแสงอาทิตย์ยามเช้า” ถ้าไปเที่ยวฮานอยแล้วไม่ได้ไปถ่ายรูปกับสะพานนี้ ถือว่าไปไม่ถึงฮานอย มีซุ้มขายตั๋วเพื่อเข้าไปชมวัดหง็อกเซินซึ่งอยู่บนเกาะเนินหยกกลางทะเลสาบ เนื่องจากมีเวลาจำกัด เราเพียงเดินเล่นหรือถ่ายรูปบนสะพาน ไม่พาเข้าวัดนะคะ  มองไปที่กลางทะเลสาบเราก็จะเห็นเจดีย์โบราณโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เจดีย์โบราณแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 มีชื่อ ทาพรัว (Thap Rua) หมายถึง หอคอยเต่า (Turtle Tower) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 เชื่อว่าเคยมีเต่าเพศเมียขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ชื่อว่า Cu Rua เคยอาศัยอยู่ในทะเลสาบนี้ และเป็นร่างอวตารของเต่าในตำนานในปี 1428 ซึ่งเป็นเต่าที่ชาวเวียดนามรักและเอ็นดู แต่เต่าตัวนี้เสียชีวิตลงเมื่อต้นปี 2559 สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคนทั้งประเทศ และต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำซากเต่าตัวนี้มาดองไว้และใส่ไว้ในตู้กระจกพร้อมกรอบไม้ที่แกะสลักอย่างสวยงาม และจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติของเวียดนาม
18.00 น. พาไปทานมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารในย่าน Old Quarter แล้วปล่อยให้เดินช๊อปปิ้งกัน ได้เวลาพอสมควรก็พากลับโรงแรม อาบน้ำกันให้สดชื่นก่อน เตรียมตัวเดินทางไปเมืองซาปากัน
20.00 . ขึ้นรถทัวร์ เดินทางไปเมืองซาปา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เชิญนอนหลับพักผ่อนตามอัธยาศัยนะคะ
                                         

วันที่ 3 : ซาปา ชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านตาฟ่าน (Ta Van) – หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต (Cat Cat) 

06.00 น. ถึงเมืองซาปา พาเข้าที่พักที่โรงแรม เก็บสัมภาระ ถ้าห้องไหนว่างก็เช็คอินได้เลย บางห้องอาจจะยังเช็คอินไม่ได้ ก็ฝากสัมภาระไว้ที่ห้องเก็บสัมภาระ แล้วอาบน้ำแต่งตัว
07.30 น. พาไปทานมื้อเช้าที่ร้านอาหารใกล้ที่พัก หลังจากนั้นพาไปถ่ายรูป โบสถ์ Sapa Stone Church หรือ Holy Rosary Church ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งใครมาก็ต้องมาถ่ายมุมนี้ ไปเดินเล่นที่ Quang Troung Square หรือจตุรัสกลางเมืองซาปา เป็นแหล่งการพบปะและพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองซาปาและชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ และยังเป็นจุดตั้งต้นของการเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อยู่ใกล้ๆกันกับโบสถ์ Holy Rosary Church นั่นเอง
09.00 น.ไปชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้านตาฟาน (Ta Van village) เป็นหมู่บ้านในหุบเขาเมืองหัว เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่า Zay ชาวเขาเผ่า Zay ในหมู่บ้านตาฟ่านไม่ได้อาศัยอยู่บนภูเขา แต่พวกเขาจะอยู่ด้านล่างหุบเขาในที่ราบลุ่มใกล้ลำธาร ในขณะที่เผ่าม้งจะอาศัยอยู่บนภูเขาที่สูงกว่าเพื่อทำไร่ข้าวโพด หมู่บ้านตาฟ่านเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่เหมาะในการสำรวจวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่น เส้นทางสู่หมู่บ้านมีขนาดเล็กและแคบ สองข้างทางมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเต็มไปด้วยนาข้าวและไร่ข้าวโพด ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านนี้เหมาะกับการเดินชมวิวนาขั้นบันไดและชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง


เที่ยง : ออกเดินทางสู่หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต (Cat Cat Village) ไปทานมื้อเที่ยงที่หมู้บ้านกั๊ต กั๊ตกันก่อน
บ่าย  : พาออกไปเดินชมนาขั้นบันไดที่หมู่บ้าน Cat Cat ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซาปาเพียง 2.5 กม. ชมวิถีชีวิตของชาวม้งและไทดำ  หมู่บ้านกั๊ตกั๊ตเป็นเส้นทางเดินเขาในซาปา ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ของนักท่องเที่ยว ที่นี่จะมีทัศนียภาพที่งดงามและมีจุดชมวิวหลายแห่ง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกหลายแห่งด้วย เช่น น้ำตก Tian Sa หรือน้ำตกกั๊ตกั๊ต ซึ่งเป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต, เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีสายน้ำไหลชุ่มฉ่ำตลอดทั้งปี มีสะพานไม้ไผ่ให้ข้ามลำธารไปยังน้ำตก บริเวณรอบน้ำตกถูกสร้างให้เป็นศูนย์วัฒนธรรม มีการแสดงพื้นเมืองโดยกลุ่มชาวเขาให้นักท่องเที่ยวชมฟรีทุกวัน นอกจากนี้ยังมีบ้านแบบดั้งเดิมของชนพื้นเมือง, มีกังหันและสวนดอกไม้สวยๆให้นักท่องเที่ยวได้เช็คอินถ่ายรูปกัน    ใช้เวลาเดินรอบหมู่บ้านประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง 3 ชั่วโมง


เย็นๆ : พาไปถ่ายรูปสวยๆที่ทะเลสาบซาปา ทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมทะเลสาบ ประเภทหม้อไฟปลาแซลม่อนและบาร์บีคิวปิ้งย่างมีเนื้อสัตว์ให้เลือกทานหลายอย่าง หลังจากนั้นก็ให้สมาชิกได้มีเวลาเดินช๊อปปิ้งซื้อของฝากของขวัญกันตามอัธยาศรัย แล้วกลับโรงแรม

วันที่ 4 : ชมวิว Ham Rong Mountain – ชมน้ำตก Silver – ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปยอดเขาฟานสิปันเพื่อชมวิวเมืองซาปา-เดินทางกลับฮานอย

06.30 น.ทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น.พาไปขึ้น ภูเขาฮัมรอง (Ham Rong Mountain) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยอด นิยมของซาปา เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเดินเขาที่ง่ายที่สุดเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเทรคกิ้ง  ภูเขาฮัมรองมีขนาดเล็ก สูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีรูปร่างเหมือนมังกรชูหัวขึ้นสู่ท้องฟ้า ภูเขาแบ่งพื้นที่หลักออกเป็น 3 แห่ง คือ สวนดอกไม้ฮัมรอง, สวนหิน Thach Lam และยอดเขาฮัมรองซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่สวยงามของเมืองซาปา  ใช้เวลาในการเดินขึ้น-ลงประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ

08.30 น.นั่งรถไปชมน้ำตกซิลเซิลเวอร์ (Silver Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของเวียดนาม ตัวน้ำตกซิลเวอร์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล ตัวน้ำตกมีความสูงประมาณ 100 เมตร เราจะจอดให้สมาชิกถ่ายรูปน้ำตกที่จุดชมน้ำตกริมถนนนะคะ เพราะเวลาไม่พอ เนื่องจากการเดินลงไปชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด ต้องใช้เวลาพอสมควร
09.00 น. พาไปขึ้นกระเช้าไปยังยอดเขาฟานซีปัน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามและในคาบ สมุทรอินโดจีน ตั้งอยู่ในเทือกเขา Hoang Lien Son อยู่ห่างจากเมืองซาปาประมาณ 9 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาปา จังหวัดลาวไก ในอดีตการขึ้นยอดเขาฟานซิปันต้องเทรคกิ้ง เพื่อไปยังยอดเขาฟานซีปัน (Fansipan Peak) โดยอาจใช้เวลา 2-3 วันในการขึ้นสู่ยอด แต่ในปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้าของ Sunworld Fansipan Legend ที่สถานีกระเช้า Hoang Lien station หรือสถานีกระเช้าซาปา ใช้เวลาในการนั่งกระเช้า แค่ 15-20 นาที กระเช้าไฟฟ้านี้มีความยาว 6.2 กม.ได้ชื่อว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก เพิ่งเปิดใช้เมื่อต้นปี 2559 ท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองซาปาแบบ 360 องศา จากกระเช้ามองลงไปทางด้านซ้ายมือจะเห็นหมู่บ้านกั๊ตกั๊ตและนาข้าวขั้นบันไดสวยๆ โดยมีทิวเขาสูงและสายหมอกเป็นฉากหลัง กระเช้าค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ มองเห็นน้ำตก แม่น้ำ ลำธาร ทุ่งนา หมู่บ้าน บางช่วงกระเช้าก็พาเรามุดเข้าไปในม่านหมอกสีขาว ถึงสถานีฟานสิปัน พอออกอาคารที่จอดกระเช้าท่านจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นบนยอดเขา สถานีแรกอยู่ที่ สถานีกระเช้าไฟฟ้าฟานซิปัน (Fansipan Cable Car Station) พอออกจากกระเช้า จะมีศูนย์อาหาร มีกาแฟ ของว่าง ร้านขายเครื่องดื่ม ขายของฝากของที่ระลึก เดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อย ไปสู่ลานกว้าง ผ่านประตูวัดจีนสวยๆ เดินต่ออีกหน่อยเพื่อไปนั่งรถไฟโมโนเรลสายฟานซิปัน จากสถานี Do Quyen Station ที่อยู่ใกล้กับเจดีย์ Ha ซึ่งมีระยะทาง 230 เมตรที่ระดับความสูง 100 เมตร ไปยังยอดเขาฟานซิปันอีกประมาณ 2 นาที  พอออกจากรถไฟเราจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นยะเยือก เดินขึ้นบันไดไปสู่ยอดสูงสุดอีกนิดหน่อย ก็จะพบกับสัญลักษณ์ของการพิชิตยอดเขาฟานซิปัน คือแท่งสามเหลี่ยมรูปปิระมิดสีเงิน มีอักษรคำว่า Fansipan 3.143m.ไปถ่ายรูปวิวสวยๆกับหมอกหนาๆท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นสุดๆ จากจุดนี้ะเห็นสถานที่ศักดิ์หลายแห่ง หลังจากนั้นก็พาเดินลงบันไปยังสถานีกระเช้า (ใครเดินไม่ไหวก็ซื้อตั๋วรถไฟเองนะคะ) ระหว่างทางจะมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่และเจ้าแม่กวนอิมพันมือ หอระฆัง ถ่ายรูปกันรัวๆเลยค่ะ พอถึงนั่งกระเช้าลงมาถึงสถานีด้านล่าง ก็พานั่งแท็กซี่ไปส่งในเมืองซาปา ทานมื้อเที่ยงกัน แลัวพาไปรับสัมภาระที่โรงแรมซึ่งเราฝากกระเป๋าไว้

12.30 น. ขึ้นรถทัวร์ลีมูซีน เดินทางกลับเมืองฮานอย  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
18.30 น. รถส่งที่สนามบิน Noi Bai เช็คอิน โหลดสัมภาระ แล้วไปขึ้นเครื่องกันค่ะ
20.50 น.อำลาเวียดนาม บินตรงสู่กรุงเทพฯ ด้วยไฟร้ท FD 645
22.40 น.ถึงสนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ อำลาและแยกย้ายกันกลับบ้าน

อัตราค่าทริป
ท่านละ 14500 บาท (สำหรับสมาชิก 7-8 คน)
ท่านละ 13700 บาท (สำหรับสมาชิก 9-10 คน)
ท่านละ 13300 บาท (สำหรับสมาชิก 11-12 คน)
หมายเหตุ :
*** รับสมาชิกได้ ไม่เกิน 12 คน
*** สมาชิกไม่ถึง 7 คน ขออนุญาตยกเลิกทริปและจะคืนค่ามัดจำให้ทั้งหมด
อัตรานี้รวม
– ค่ารถรับ-ส่งตลอดทริป
– ค่าที่พักในเมืองฮานอย 1 คืน (ห้องละ 2 คน)
– ค่าที่พักในซาปา 1 คืน รวมอาหารตามที่ระบุในโปรแกรม
– ค่าน้ำดื่ม เรามีบริการวันละ 1 ขวด
– ค่ารถบัสนอน (Express Bus) ไป-กลับ Hanoi – Sapa – Hanoi
– One Day Tour เที่ยวชมสถานที่ต่างๆในฮานอย
– ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ
– ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท
– ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย 1 คน
– ค่าขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมวิวบนยอดเขาฟานสิปัน
อัตรานี้ไม่รวม                                                                                                                     
– ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศไป-กลับ (แอร์เอเชีย) ดอนเมือง-ฮานอย
– ค่ารถรับ-ส่ง ไปสถานที่ไม่ได้ระบุไว้ในทริป
– รถไฟโมโนเรลสายฟานซิปัน ขาลงจากยอดเขาฟานซิปันไปยังสถานีกระเช้า (เราจะซื้อตั๋วรถรางขาขึ้นให้) ขาลงเราต้องการให้สมาชิกเดินลงเขาทางบันได เพื่อจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามระหว่างทาง ถ้าสมาชิกไม่ต้องการเดินลง สามารถซื้อตั๋วรถไฟโมโนเรลได้เองในราคาประมาณ 110 บาทต่อเที่ยว
– ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งมาทานกันเอง เช่น ชา กาแฟน้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
– ค่าโทรศัพท์ทางไกล
– ค่าซักรีดในโรงแรม
– ค่าทิปสำหรับคนขับรถและไกด์ (ควรจะแชร์กันให้เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ)
หมายเหตุ : เช็คค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Air Asia ณ วันที่ 16 กค.65 รวมน้ำหนักโหลดกระเป๋า 20 กิโลกรัม ค่าตั๋วราคา 5360 บาท (ถ้าไม่โหลดกระเป๋า ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 กก. ค่าตั๋ว ราคา 4060 บาท) ถ้ามาด้วยกันสามารถแชร์น้ำหนักโหลดกระเป๋ากันได้ค่ะ
การจองทริป
โอนเงิน 5000 บาท พร้อมส่งสำเนาพาสปอร์ต สำหรับจองตั๋วเครื่องบิน กรุณาถ่ายสลิปโอนเงินมาให้เป็นหลักฐานด้วย
การเตรียมตัว
*** เนื่องจากเป็นต้องอยู่บนรถนาน เป็นรถนอน  อาจจะไม่สะดวกสบายนัก ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบาย แต่เรื่องห้องน้ำไม่มีปัญหานะคะ รถทัวร์ระหว่างฮานอย-ซาปาจะจอดให้เข้าห้องน้ำ และซื้ออาหารทานสองรอบ
*** อาจจะมีฝนตกบ้าง ควรเตรียมร่ม หรือเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วย
*** บนยอดเขาฟานซิปัน อากาศหนาวเย็นมาก อุณหภูมิเลขตัวเดียว ควรเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อมเช่นแจ็คเก็ตที่อุ่นพอ หมวกไหมพรม หรือหมวกปิดหู ผ้าพันคอ ถุงเท้า ถุงมือ ถ้ายังไม่มี สามารถไปหาซื้อที่ซาปาได้ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบและราคา
*** ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่มีปัญหาเรื่องเข่าเสื่อม เพราะต้องเดินขึ้นลงบันได ไปจุดชมวิว ชมนาขั้นบันได ชมวิวบนยอดเขาฟานซิปัน
*** ควรเตรียมรองเท้าที่เดินสบาย เช่นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้ารัดส้นที่มีพื้นหนาๆดอกยางไม่เสื่อม
*** ยาสามัญประจำตัว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณศิริพร เบอร์โทร : 092-4341166, 098-2725406
ไลน์ ID : sk_pond135   อีเมล : s_pond2010@hotmail.com  ใบอนุญาตนำเที่ยวเลขที่ 11/06268

 

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments