Poon Hill (พูนฮิลล์) เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดติด 1 ใน 10 ของเอเชีย ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามอลังการของเทือกเขาหิมาลัยที่มียอดเขาสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก  ชมยอดเขาสีขาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี ละลานตากับวิวพาโนรามารอบตัว อากาศเย็นสบาย ระหว่างการเดินเทรคกิ้ง ชมการทำนาขั้นบันไดที่สวยงาม ซึ่งชาวบ้านปลูกข้าวเป็นชั้นๆเหมือนขั้นบันไดหลดหลั่นบนภูเขา นอกจากนี้ท่านจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นทั้งฮินดูและพุทธที่มีวิถีชีวิตอยู่รวมกันแบบผสมกลมกลืนอย่างลงตัว ชมเมืองมรดกโลกอันเก่าแก่ที่สุด ชมพระราชวังโบราณหลายยุคหลายสมัย ชมสถูปดวงตาเห็นธรรมที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเนปาล

โปรแกรมทัวร์  

วันแรก : กรุงเทพ – กาฐมาณฑุ – ชมเจดีย์โพธินาถ  Bhoudanath Stupa – ชมวัดลิง Swayambhunath Temple
08.30 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ทางเข้าเคาน์เตอร์เช็คอิน H-J ไปเช็คอิน กับการบินไทยหรือไทยสมายด์ แล้วแต่จะจอง โหลดสัมภาระ ผ่านพิธีทางตม.
10.30 น. บินสู่เนปาลด้วยไฟร้ท  TG 319 ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ทานมื้อเที่ยงบนเครื่อง
12.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นเนปาล ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 1 ชม.15 นาที ถึงสนามบินตรีภูวัน
ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง  รับสัมภาระ นำท่านขึ้นรถตู้ พาไปชม เจดีย์โบดะนาถ (Bhoudanath Stupa) ชมเจดีย์ดวงตาเห็นธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์สถูปทรงกลมสีขาวมีดวงตาเห็นธรรมสีแดง เหลือง และน้ำเงิน แถวรอบๆเจดีย์เป็นที่ตั้งของชมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล เป็นศูนย์กลางทางศาสนาแบบทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีบ้านเรือนสีสันสดใสตั้งอยู่รายรอบตัวตัวเจดีย์ มีร้านค้าขายสินค้าต่างๆ และของที่ระลึกอยู่รอบๆเจดีย์ ให้สมาชิกใช้เวลาเดินชมรอบๆสถูป ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
15.30 น. พาขึ้นรถต่อ ไปชม วัดลิง (Swayambhunath temple) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบต เป็นวัดที่มีสถูปดวงตาเห็นธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ สูงระดับ 77 เมตรเหนือน้ำทะเล มองลงมาเห็นวิวของเมืองกาฐมาณฑุ ที่องค์เจดีย์มีคิ้วและดวงตาทั้งสี่ด้าน เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 2000 ปี ตัวสถูปครึ่งวงกลมสีขาว เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เหนือองค์สถูปมีปล้องไฉนสีเหลืองทองอร่าม 13 ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนระดับธรรม 13 ขั้น ก่อนบรรลุพระนิพพานของพระพุทธเจ้า
เย็นๆ พาเข้าที่พักในย่านทาเมล กรุงกาฐมาณฑุ เช็คอิน เก็บสัมภาระ ให้สมาชิกได้ล้างหน้าล้างตากันก่อน แล้วพาไปทานมื้อเย็นที่ภัตตาคารในย่านทาเมล แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน

วันที่ 2 :  กาฐมาณฑุ – โพครา – ล่องเรือในทะเลสาบเฟว่า
07.00 น. ทานมื้อเช้าที่โรงแรม หลังจากนั้นนั่งรถตู้เดินทางไปเมืองโพครา ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชม.
เที่ยงๆ แวะทานมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารระหว่างทาง
15.00 น. โดยประมาณ ถึงเมืองโพครา เช็คอินที่โรงแรม หลังจากนั้นปล่อยตามอัธยาศัย สมาชิกที่ยังขาดอุปกรณ์เทรคกิ้งก็สามารถออกไปหาซื้อหรือเช่าได้ในราคาย่อมเยา
เย็นๆ ไปถ่ายรูปเล่นริมทะลสาบเฟว่า (Phewa Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองโพครา ในวันที่ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอกจะมองเห็นยอดเขาหางปลาหรือมัจฉาปุชเรจะโผล่มาทักทายนักท่องเที่ยว ให้ได้ตื่นเต้นกับความอลังการของ ยอดเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์กัน ถ่ายรูปกันให้จุใจ พานั่งเรือไปชมวัดบาลาฮี (Barahi Temple) ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบเฟว่า
19.00 น. ทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมทะลสาบ แล้วกลับไปพักผ่อน เตรียมตัวไปเทรคกิ้งพรุ่งนี้

วันที่ 3 : Pokhara – Hile (1430 m.) Ulleri (1960 m.) วันนี้เดินประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ
07.00 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นั่งรถจี๊ป ออกเดินทางไปหมู่บ้าน Hille ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ รถจี๊ปจะจอดให้สมาชิกลงไปเช็ค ACAP Permit และ TIMS CARD ที่หมู่บ้าน Birethanti แล้วนั่งรถกันต่อ
11.00 น. โดยประมาณ รถจี๊ปพาไปส่งที่หมู่บ้าน Hille ส่งสัมภาระให้ลูกหาบแบก แล้วเริ่มเทรคกิ้งกัน เส้นทางแรกๆยังเดินสบายๆ ไม่ชันมาก เดินได้เรื่อยๆ ชิลๆ
เที่ยงๆ ไปแวะทานมื้อเที่่ยงที่หมู่บ้าน Tikhedungha (สูง 1540 เมตร) หลังจากนั้นก็ออกเดินกันต่อ พอผ่านหมู่บ้าน Tikhedungha ไปแล้ว ทางเริ่มชัน และชันขึ้นเรื่อยๆเมื่อเดินขึ้นหมู่บ้าน Ulleri ต้องเดินขึ้นบันไดหินสองพันกว่าขั้น วัดกำลังขากันหน่อย
บ่ายแก่ๆ ถึงหมู่บ้าน Ulleri เช็คอินน์ เก็บสัมภาระ แล้วออกมานั่งพักให้หายเหนื่อย จิบชา ทานขนม หลังจากนั้นก็ปล่อยตามอัธยาศัย ใครจะอาบน้ำ ใครจะเดินเล่นถ่ายรูปวิวทิวทัศน์รอบๆหมู่บ้านก็ตามอัธยาศัย
เย็นๆ ออกมาทานมื้อเย็นพร้อมกันที่ห้องอาหารของที่พัก หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปพักผ่อน หมายเหตุ : สมาชิกควรจะสั่งอาหารไว้ก่อนตั้งแต่ไปถึงที่พัก แล้วแจ้งเวลาที่จะลงไปทาน เนื่องจากที่พัก มีนักเดินเขาไปพักกันหลายกลุ่ม ถ้าไปสั่งแล้วนั่งรออาหารอาจจะใช้เวลานานมาก

วันที่ 4 :  Ulleri – Ghorepani (2874 เมตร) เดินประมาณ 4-5 ชั่วโมง
07.00 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของที่พัก
08.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 4 – 5 ชม. เส้นทางช่วงแรกเราเดินขึ้นภูเขาไม่สูงนัก เดินเรื่อยๆ ผ่านบ้านเรือนบนเขาและร้านค้าที่ทาสีสวยๆสะดุดตา เราจะมองเห็นยอดเขาหางปลา Machhapuchre และยอด Annapurna South จะโผล่มาทักทายให้หายเหนื่อย เส้นทางช่วงหลังจะต้องเดินผ่านลำธารและน้ำตกสายเล็กๆไปเกือบตลอดทาง เดินผ่านดงกุหลาบพันปีที่ขึ้นอยู่ บนเขาและจะออกดอกบานสะพรั่งเต็มภูเขาระหว่างต้นเดือนถึงกลางเดือนเมษายน อากาศเย็นสบายเพราะเดินอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้เกือบตลอดเส้นทาง
เที่ยง แวะทานมื้อเที่ยงกันที่หมู่บ้าน Nange Thanti แล้วเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ทำธุระส่วนตัว แล้วออกเดินทางกันต่อ
บ่ายๆ โดยประมาณก็จะถึงหมู่บ้าน Ghorepani เช็คอินน์ เข้าที่พัก เก็บสัมภาระแล้วออกเดินเล่น ชมวิว รอถ่ายรูปชมพระอาทิตย์ตกที่ หน้าโรงแรม จากหมู่บ้านนี้ สามารถมองเห็นยอดเขา Dhaulagiri ชัดเจน ถ่ายภาพเก็บความประทับใจไว้ร่วมกัน หลังจากนั้นรีบสั่งอาหาร เย็นและนัดเวลาทาน แล้วก็เตรียมเข้าคิวอาบน้ำร้อนซึ่งที่นี่บางโรงแรมก็ให้อาบน้ำร้อนฟรี บางโรงแรมก็ต้องจ่ายค่าแก๊สนะคะ
เย็นๆ ลงมาทานมื้อเย็นพร้อมกัน ที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน

วันที่ 5 : Ghorepani – Poon Hill (3210) – Tadapani (2630 m) เดินประมาณ 5-6 ชั่วโมง
ตีสี่ ตื่นเช้ามาทำธุระส่วนตัว ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดสวยๆหล่อๆ เตรียมตัวออกเดินทางไปขึ้น Poon Hill
ตีสี่ครึ่ง ออกจากโรงแรม เดินขึ้นไปยังจุดชมวิว Poon Hill ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชม.ครึ่ง ควรไปให้ถึงพูนฮิลล์ เพื่อให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวก่อนหกโมงเช้า
06.00 น. ไปถึง Poon Hill ให้ขึ้นบันไดไปบนหอชมวิว พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นแตะยอดหางปลาหรือ Machhapuchre ตามด้วยยอด Annapurna และ Dhaulagiri และยอดเขาสูงๆ สวยๆอีกมากมาย พากันถ่ายรูปให้จุใจ ที่นี่ท่านสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาหิมาลัยแบบพาโนรามาตัวได้อย่างชัดเจน
07.00 น. ได้เวลาเดินลงจาก Poon Hill ขากลับเนื่องจากเดินลงเขา ใช้เวลาประมาณ 50 นาที เส้นทางที่เราเดินลงต้องผ่านดงกุหลาบพันปี ระหว่างเดือนเมษายนจะมองเห็นหุบเขาเป็นสีแดงอมชมพู ซึ่งเต็มไปด้วยดอกกุหลาบพันปีสีแดงและสีชมพูที่กำลังบานสะพรั่งสดใสสวยงามไปทั้งหุบเขา ถ้าไปเดือนอื่นก็ไม่เห็นนะคะ
08.00 น. ถึงที่พัก ทานมี้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม ประมาณ 9.30 น.เช็คเอ้าท์ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราต้องเดินกันหนักหน่อย ต้องเดินขึ้น เขาและขึ้นจนถึงยอดเขาที่ค่อนข้างจะสูงชัน ผ่านดงกุหลาบพันปี อากาศจะร้อนสลับหนาว ช่วงแรกค่อนข้างร้อน เพราะมีบางช่วงต้องเดินตากแดกอยู่กลางภูเขา บางช่วงก็เดินอยู่ในป่าโปร่งสลับทึบ
เที่ยง โดยประมาณ ถึงหมู่บ้าน Banthani (สูง 2660 เมตร) แวะทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้านนี้ จากนั้นก็ต้องเดินลงเขา ลงเป็นแนวดิ่งจนถึงริมแม่น้ำ แล้วก็ต้องเดินขึ้นเขาสูงชันอีก แต่ตอนเย็นพอพระอาทิตย์ตก อากาศค่อนข้าง หนาวเย็น
16.30 น. ประมาณ สี่โมงครึ่ง เดินถึงหมู่บ้าน Tadapani เข้าที่พัก ซึ่งเป็นเกสเฮ้าสวยๆในหมู่บ้าน เป็นจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขา Annapurna South ยอด Hiunchuli และยอดเขาหางปลา Machhapuchhre ในระยะที่ใกล้ชิด จะรู้สึกว่าได้เข้าใกล้ยอดเขามากขึ้น แค่โผล่หน้าจากห้องนอนมาก็จะมองเห็นยอดเขาต่างๆรอทักทายท่านอยู่แล้ว ตื่นตะลึงกับสวยงามอลังการของยอดเขาหิมะ ที่อาบแสงอาทิตย์เป็นสีส้ม ตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก ต้องรีบคว้ากล้องถ่ายรูปมารอเก็บภาพประทับใจไว้
ค่ำๆ ลงมาทานมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม แล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน

วันที่ 6 : Tadapani – Ghandruk (สูง 1940 เมตร) – นั่งรถจี๊ปกลับโพครา  (เดิน 4-5 ชั่วโมง)
06.00 น. ตื่นเช้ามาเตรียมตั้งกล้องไว้ถ่ายพระอาทิตย์ ที่กำลังโผล่ขึ้นมาทักทายเหนือยอดเขาหิมะสวยๆ แล้วเตรียมตัวลงไปทานมื้อเช้าด้วยกันที่ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเทรคกิ้ง จะเป็นวันที่เราจะเดินผ่านเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม จะมียอดเขาหางปลา ตามมา ขนาบด้านซ้ายมือตลอดเส้นทาง ช่วงแรกที่ออกจากหมู่บ้านเราต้องเดินอยู่ในดงกุหลาบพันปีสักพักใหญ่ หลังจากนั้นจะเป็นเส้นทางดิ่งเดิน ลงเขาอยู่เกือบครึ่งทาง ผ่านนาข้าวขั้นบันไดของชาวบ้านถึงหมู่บ้าน Ghandruk ซึ่งเป็นหมู่บ้านบนเขาที่สวยงาม โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะและนาข้าว ขั้นบันได บรรยากาศดีมากๆ
เที่ยง ถึงหมู่บ้าน Grandruk ทานมื้อเที่ยง แล้วเดินต่ออีกนิด ไปยังจุดที่รถจี๊ปมารอรับ เดินทางกลับเมืองโพครา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ
บ่ายๆ ถึงเมืองโพครา เช็คอินที่โรงแรม เก็บสัมภาระ อาบน้ำกันให้สดชื่น
เย็นๆ ไปทานมื้อเย็นที่ภัตตาคารริมทะลสาบเฟว่า หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เดินช๊อปปิ้งหาเลือกซื้อของฝากกัน

วันที่ 7 : Pokhara – Kathmandu
07.00 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่โรงแรม
08.00 น. นั่งรถไปสนามบินโพครา เช็คอิน โหลดสัมภาระ รอขึ้นเครื่องบินกลับกาฐมาณฑุ
09.00 น. ได้เวลาบินกลับกาฐมาณฑุ ใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที
09.30 น. ถึงกรุงกาฐมาณฑุ นั่งรถกลับโรงแรมในทาเมล
เที่ยง ทานมื้อเที่ยงกันในย่านทาเมล หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ออกไปช๊อปปิ้งซื้อของฝากกันตามอัธยาศัย วันนี้เราจะพักที่เนปาลเป็นคืนสุดท้าย ถ้าใครต้องการออกไปชมเมืองโบราณ เช่น Bhaktapur, Patan กรุณาแจ้งล่วงหน้า จะติดต่อรถเช่าไว้ให้
เย็น พาไปทานมื้อเย็นในย่านทาเมล แล้วพากันกลับที่พัก หรือเดินช๊อปปิ้งกันต่อ

วันที่ 8 : กาฐมาณฑุ -กรุงเทพมหานคร
07.30 น. ทานมื้อเช้าพร้อมกันที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นปล่อยอิสระ ใครยังได้ของฝาก ของที่ระลึกยังไม่ครบก็สามารถออกไปเลือกซื้อได้
08.00 น. เดินเท้าจากย่านทาเมล (ประมาณ 15 นาที) ไปชมพระราชวังกาฐมาณฑุ  (Kathmandu Durbar Square) จตุรัสแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ในปีพศ.2522 ชมวัดกุมารี (Temple of Kumari) เป็นอาคารเก่าแก่สูง 3 ชั้น มีบานหน้าต่างโดยรอบ หน้าต่างแต่ละบานแกะสลักเรื่องราวในศาสนาฮินดูตามความเชื่อของชาวเนปาลเกี่ยวกับองค์กุมารีมาเป็น เวลายาวนานกว่า 2600 ปี
10.00 น. พากลับที่พัก เก็บสัมภาระ เช็คเอ้าท์
10.30 น. นั่งรถจากโรงแรม ไปสนามบินตรีภูวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
11.00 น. ถึงสนามบินตรีภูวัน เช็คอินกับสายการบินไทย โหลดสัมภาระ เข้าแถวยาวๆ ผ่านพิธีทางศุลกากร แล้วไปรอขึ้นเครื่อง
13.40 น. ได้เวลาเหินฟ้าโบกมืออำลาเนปาล ด้วยไฟร้ท TG 320 บินสู่ประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 3 ชั้วโมงเศษ มีอาหารให้ทานบนเครื่อง
18.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
รับสมาชิก : 4-10 คน (เป็นลักษณะจอยกรุ๊ป)  
อัตราค่าทริป (เนื่องจากค่าเงินบาทยังอ่อนค่า และทางเอเจ้นเนปาลโควตราคามาเป็นเงิน USD เราจึงจำเป็นต้องเก็บค่าทริปลูกค้าเป็นเงิน USD ด้วยค่ะ

สมาชิก 4 คน ค่าทริปคนละ 655 USD
สมาชิก 6 คน ค่าทริปคนละ 640 USD
สมาชิก 8 คน ค่าทริปคนละ 620 USD
สมาชิก 10 คน ค่าทริปคนละ 610 USD

อัตรานี้รวม :
ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ (one way) โพครา-กาฐมาณฑุ
ค่ารถตู้รับส่ง (Hiace Van) จากกาฐมาณฑุ-โพครา (one way)
ค่ารถ Hiace Van รับ-ส่งและนำเที่ยวตามโปรแกรมที่ระบุ
ค่ารถจี๊ปส่วนตัวจากโพคราไปส่งที่หมู่บ้าน Hile ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเทรคกิ้ง
ค่ารถจี๊ปส่วนตัวรับจากหมู่บ้าน Grandruk พากลับโพคราหลังจากจบการเทรคกิ้ง
ค่าห้องพัก รร.ในทาเมล ( 2 คืน) ห้องละ 2 คน รวมอาหารเช้า
ค่าห้องพัก รร.ในโพครา (2 คืน) ห้องละ 2 คน รวมอาหารเช้า
ค่าห้องพักระหว่างเทรคกิ้งบนเขา 3 คืน
ACAP & TIMS permit (ใบอนุญาตสำหรับเดินเขา)
ค่าจ้างไกด์เดินเขาชาวเนปาล จากกาฐมาณฑุ 1 คนเป็นเวลา 4 วัน  รวมค่าเดินทางของไกด์
ค่าจ้างลูกหาบแบกสัมภาระระหว่างเดินเขาเป็นเวลา 4 วัน (ลูกหาบ 1 คน ต่อลูกทัวร์ 2 คน)
ค่าเบี้ยประกันภัยการเดินทาง วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท
ค่าทำวีซ่าท่องเที่ยวเนปาล
อัตรานี้ไม่รวม
ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ (การบินไทย) ไป-กลับกรุงเทพ-กาฐมาณฑุ (ประมาณ 18xxx บาท)
ค่าอาหารและน้ำดื่ม ระหว่างการเทรคกิ้งบนเขา 4 วัน
ค่าอาหารมื้อเที่ยงและเย็นที่กาฐมาณฑุและที่โพครา
ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ เช่น เจดีย์ วัด พระราชวังโบราณ
ค่าอาบน้ำร้อนตามโรงแรมบนเขา บางที่อาจจะคิดเงิน
ค่าชาร์ตแบตเตอรี่มือถือและกล้องถ่ายรูปตามโรงแรมบนเขา
ค่าเรือ (เหมาลำ) ไปชมวัด Barahi ที่อยู่กลางเกาะในทะเลสาบเฟว่า (1 ชม.) ไป-กลับ 8 usd
ค่าจ่างไกด์จากเมืองไทย 1 คน
ค่าทิปคนขับรถ ลูกหาบ และไกด์
หมายเหตุ  :  พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มคนละ 1000 บาท
การจองทริป :
งวดแรก : โอนเงินค่าตั่ว การบินไทย 18xxx บาท (เราจะเช็คค่าตั๋ว การบินไทยให้ก่อนโอนเงิน) งวดที่  2 : โอน 210 USD หรือประมาณ 7500 บาท ตอนที่ยื่นเอกสารให้ทำวีซ่าและประกันภัยการเดินทางก่อนออกทัวร์ 2 สัปดาห์
งวดสุดท้าย : โอนก่อนเดินทาง 3 วัน
ต้องการจองทริปหรือหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ : ศิริพร : 098-2725406 092-4341166    Line ID : ssp061962

 

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments