ทริปนี้ บางทัวร์ก็จะจัดรวมกับเส้น POON HILL ซึ่งเราก็เคยจัดมาก่อน แต่ทริปนี้เราจัดแยกจากเส้น Poon Hill เพราะสมาชิกหลายๆคนมีข้อจำกัดเรื่องเวลา ความยากของการเดินทางก็จะเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ต้องเดินระยะทางไกลขึ้น ขึ้นบันไดหินเยอะเยอะขึ้น ระดับความสูงก็มากกว่าเส้นพูนฮิลล์ แต่ธรรมชาติและทิวทัศน์ระหว่างทางก็สวยไม่เป็นรองเส้นพูนฮิลล์เลย สมาชิกจะได้เข้าใกล้ยอดเขาที่สูงติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกมากมายเช่น Annapurna I, Machhapuchre หรือที่นิยมเรียกกันว่ายอดเขาหางปลา,  Dhaulagiri, Ganuapurna เป็นต้น แต่ไม่ใช่ว่าคนที่ไม่เคยไปเทรคพูนฮิลล์มาก่อน จะไม่สามารถไปเดินเส้น ABC ได้นะคะ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือเคยไปเดินเขาในเมืองไทยมาบ้าง ท่านก็สามารถผ่านเส้นทางนี้ได้อย่างสบายๆ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย

โปรแกรมการเดินทาง
 06 – 15 เมย. 67 : เทศกาลสงกรานต์  อากาศหนาวเย็นบนยอดเขาสูงๆ อาจจะเจอหิมะที่ ABC
12 – 21 ตค.67 : วันคล้ายวันสวรรคตในหลวง ร.9 อากาศเริ่มหนาว หนาวมากที่ Deurali MBC และ ABC แต่เป็นช่วงที่ท้องฟ้าสดใส ดอกไม้ป่ากำลังบาน
18 – 27 ตค.67 : วันปิยมหาราช อากาศหนาว อาจจะมีหิมะตกที่ ABC แต่เป็นช่วงที่ท้องฟ้าสดใส ดอกไม้ป่ากำลังบาน 

หมายเหตุ : ถ้ามีกรุ๊ปส่วนตัว สามารถกำหนดวันเดินทางเองได้ กี่คนก็ออกทริปได้ ต้องการแบบมีหัวหน้าทัวร์จากไทย หรือไม่ต้องการหัวหน้าทัวร์ไทยก็ได้ค่ะ
เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์สูงอยู่ที่เนปาล สามารถจัดการทุกอย่างให้ได้
ติดต่อ–> ศิริพร  :  098-2725406, 092-4341166   Line ID : ssp061962
อีเมล์ : s_pond2010@hotmail.com   

วันแรก กรุงเทพ – กาฐมาณฑุ – โพครา
08.00 น. เช็คอิน กับสายการบินไทยสมายด์ ไฟร้ท์ WE 319 
10.15 น. ได้เวลาบินสู่กรุงกาฐมาณฑุ เนปาล ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.ครึ่ง
12.45 น. ถึงสนามบินตรีภูวัน ตามเวลาท้องถิ่นเนปาล ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 1 ชม.15 นาที ถึงสนามบินตรีภูวันผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง  รับสัมภาระ นำท่านเดินเท้าไปยังสนามบินภายในประเทศ ประมาณ 10 นาที
14.00 น. เช็คอินกับสายการบินภายในประเทศ Yeti Airline
14.30 น. บินไปเมืองโพคราใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที
15.30 น. ถึงเเมืองโพครา รับสัมภาระแล้วนั่งรถไปที่พักในเมืองโพครา ประมาณ 15 นาที
16.00 น. พาเข้าที่พัก โรงแรมในเมืองโพครา เช็คอิน เก็บสัมภาระ ปล่อยตามอัธยาศัย
16.45 น. พาเดินเท้าไปถ่ายรูปเล่นริมทะลสาบเฟว่า (Phewa Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจีดขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองโพครา ในวันที่ท้องฟ้าสดใสไร้เมฆหมอก ยอดเขาหางปลาหรือมัจฉาปุชเรจะโผล่มาทักทายให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นเต้นกัน ถ่ายรูปกัน แล้วพานั่งเรือไปชมวัด Barahi ซึ่งเป็นวัดฮินดูเล็กๆที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ 
18.30 น. พาไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ใกล้ๆทะเลสาบเฟว่า หลังจากนั้นปล่อยให้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ใครที่ยังขาดอุปกรณ์เดินเขา เสื้อแจ็คเก็ต กางเกงเดินเขา รองเท้าเทรคกิ้ง หมวก ถุงมือ ถุงเท้า หรือไม้เท้าเดินเขาก็สามารถหาซื้อได้ในราคาย่อมเยา ต่อรองราคากันได้ ตามความสามารถ แล้วก็เดินกลับโรงแรม 

วันที่ 2 : Pokhara -Jhinu Danda – Chomrong (2170 m.) เดินประมาณ 4 ชม.
07.00 น. ทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
07.30 น. นั่งรถจี๊ปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จากเมือง Pokhara ไปส่งที่หมู่บ้าน Syomrong ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ Jhinu Bridge
10.00 น. ถึงหมู่บ้าน Syomrong ส่งสัมภาระให้ลูกหาบ เริ่มออกเดินทางไปยังหมู่บ้าน Chomrong ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เดินผ่านหมู่บ้าน Jhinu Danda ใครหิวก็แวะดื่มชากาแฟทานขนมรองท้องไปก่อน
13.00 น. โดยประมาณ ถึงหมู่บ้าน Chommrong เข้าที่พัก เก็บสัมภาระ แล้วสั่งมื้อเที่ยงทาน Chommrong เป็นหมู่บ้านใหญ่ที่สุดในเส้นทางนี้ เป็นชุมทางสำหรับการเทรคกิ้งเส้น ABC และเป็นศูนย์กลางการขายส่งสินค้าราคาถูก ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆในแถบนี้มักจะมาซื้อสินค้าจากหมู่บ้าน Chhomrong ไปขายหรือหรือนำไปใช้ในครัวเรือน ใครที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์อะไรก็หาซื้อได้ที่หมู่บ้านนี้ มีทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้ากันหนาว หมวก รองเท้า ถุงมือ ถุงเท้า อุปกรณ์เดินเขา ขนมขบเคี้ยว ร้านชากาแฟ เบเกอรี่ น้ำอัดลม น้ำดื่มบรรจุขวด น้ำผลไม้กระป๋อง แม้กระทั่งเครื่องดื่มชูกำลังจากประเทศไทยก็เห็นมีวางขายให้ชาวบ้านและนักเดินเขาที่ผ่านไปผ่านมาได้ซื้อกัน หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ แล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย อย่าลืมสั่งอาหารเย็นไว้ล่วงหน้านะคะ หรือใครอยากจะออกไปเดินเล่นถ่ายรูปในหมู่บ้านก็ได้ค่ะ
วันที่ 3 : Chomrong – Sinuwa – Bamboo (2310 เมตร) เดินประมาณ 6 ชั่วโมง
07.00 น. ทานมื้อเช้าที่เกสเฮ้าส์
08.00 น. ออกเดินทางต่อ เดินผ่านหมู่บ้าน Sinuwa ระหว่างทางมองเห็นยอดเขา Machhapuchre หรือยอดเขาหางปลา โผล่มาทักทายเกือบตลอดทาง
เที่ยงๆ พักทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Sinuwa (2145 m.) หลังจากนั้นเดินทางกันต่ออีกครึ่งทางหรือประมาณ 3 ชั่วโมง ช่วงนี้ทางเดินง่ายๆ ผ่านดงกุหลาบพันปี เดินทะลุป่าไผ่ไปเรื่อยๆ
เย็นๆ ถึงหมู่บ้าน Bamboo ไปถึงรีบสั่งอาหารมื้อเย็นเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นถ้าใครต้องการจะอาบน้ำอุ่นก็ต้องรีบเข้าคิวกันหน่อยเพราะห้องอาบน้ำร้อนมีน้อย (จ่ายค่าอาบน้ำร้อนกันเองนะคะ ประมาณ 200-300 รูปี)

วันที่ 4 Bamboo – Dovan – Himalaya – Deurali (3230 m.) เดินประมาณ 6-7 ชม.
07.00 น.  หลังอาหารเช้าออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราต้องไต่ระดับ ขึ้นและขึ้นสูงไปแตะที่ระดับ 3000 เมตรกันแล้ว ต้องเดินกลางแจ้ง ไม่ค่อยมีร่มไม้ แดดร้อนพอสมควร
เที่ยงๆ ทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Himalaya แล้วออกเดินกันต่อ ก่อนถึงหมู่บ้าน Deurali ต้องข้ามสะพานแคบๆ เพื่อข้ามแม่น้ำไปยังหมู่บ้าน Deurali
เย็นๆ ประมาณห้าโมงเย็น ถึงหมู่บ้าน Deurali รีบเข้าห้องพักกันเลย เพราะอากาศหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว หลังจากพระอาทิตย์ตก ที่เกสเฮ้าส์มีห้องรวมให้ลูกค้าเข้าไปนั่งผิงไฟ เพื่อรอทานอาหารเย็น
วันที่ 5 Deurali – MBC – ABC (4230 m) ใช้เดินประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ
เช้า หลังอาหารเช้า ออกเดินทางกันต่อ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ไปยังหมู่บ้าน MBC
เที่ยง ทานมื้อเที่ยงที่ MBC (Machhapuchre Base Camp) สูงระดับ 3700 เมตร ถ้าใครยังไม่หิวก็เดินต่อไปทานที่ ABC ก็ได้ (จาก MBC เดินไป ABC ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
บ่ายๆ ประมาณบ่ายโมง ถึง ABC (Annapurna Base Camp) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของ
ทริปนี้  เข้าที่พักเก็บสัมภาระ แล้วสั่งอาหารเที่ยงมาทานเลย แล้วอย่าลืมสั่งมื้อเย็นไว้ด้วยนะคะ นั่งพักให้หายเหนื่อย จิบชา กาแฟแก้หนาวกันก่อน หรือใครจะนอนพักก็ตามอัธยาศัย เย็นๆออกไปถ่ายรูปทิวทัศน์และพระอาทิตย์ตกสวยๆที่รอบๆเบสแคมป์กัน เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม หมวก ถุงมือ ขาดไม่ได้ บน ABC อากาศหนาวเย็นมาก เพราะได้ขึ้นมาที่ระดับความสูงถึง 4130 เมตรแล้ว) จากประสบการณ์ที่เคยไป ABC ในเดือนเมษายน อากาศบนเขายังหนาวเย็นมาก อุณหภูมิอาจจะถึง 0 องศาหรือถึงขั้นติดลบ มีหิมะตกบน ABC เพราะที่เบสแคมป์ล้อมรอบไปด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นยอดเขาสูงๆจำนวนมาก ที่โดดเด่นคือ Annapurna I (สูง 8,091 m.) เมตร) เป็นยอดเขาที่สูงอันดับ 10 ของโลก, Annapurna south (สูง 7,219 เมตร), Machapuchare (สูง 6,993 เมตร)

วันที่ 6 : ABC – MBC – Deurali – Himalaya – Dovan – Bamboo (2305 m.) เดินประมาณ 6 ชม.
06.00 น. ตื่นเช้า ออกไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเทือกเขาหิมะสวยๆกัน สัมผัสอากาศหนาวเย็น เก็บบรรยากาศสวยๆแสนประทับใจไว้ให้เยอะที่สุด แล้วกลับมากันทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของเกสเฮาส์ แล้วออกไปถ่ายรูปวิวทิวทัศน์รอบๆ ABC ตอนที่แดดจ้าๆ กันอีกรอบ
08.00 น. ได้เวลาอำลา ABC กันแล้ว วันนี้เราต้องเดินลงเขากันยาวๆกันเลย
เที่ยงๆ แวะทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Deurali แล้วออกเดินทางกันต่อ
17.00 น. ถึงหมู่บ้าน Bamboo เก็บสัมภาระ แล้วสั่งอาหารมื้อเย็นทานพร้อมกัน แล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

วันที่ 7 : Bamboo – Sinuwa – Chhomrong – Jhinu Danda  (1780 เมตร)
08.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารที่เกสเฮ้าส์
08.30 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เดินไต่ขึ้นเขายาวๆไป เดินลงเขายาวๆไปเลย ผ่านหมู่บ้าน  Sinuwa ไปเขาจนถึงหมู่บ้าน Chhomrong
เที่ยงๆ แวะทานมื้อเที่ยงที่หมู่บ้าน Chhomrong หลังจากนั้นก็เดินลงเขายาวไปเลย
บ่ายๆ น่าจะเดินถึงหมู่บ้าน Jhinu Danda เก็บสัมภาระ สั่งอาหารมื้อเย็นไว้ก่อน ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ริมแม่น้ำ ถ้าต้องการไปแช่น้ำพุร้อน ต้องเดินลงเขาไปจากที่พักประมาณ 15 นาที (ให้ท่านนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วย ใครที่ไม่ได้สระผมมาหลายวัน แนะนำให้สระที่นี่เลย มีก๊อกน้ำให้สระผม อาบน้ำเสร็จก็ต้องเดินขึ้นบันไดสูงชันกลับที่พัก เหนื่อยเอาการ เดินมาประมาณ 20 นาที ถึงที่พักแล้วจะรู้สึกหิวจนตาลายเพราะได้แช่น้ำพุร้อนกันนาน และเสียพลังงานไปเยอะกับการเดินขึ้นบันไดกลับมาที่เกสเฮ้าส์
เย็นๆ ทานมื้อเย็นพร้อมกัน คืนนี้อากาศไม่ค่อยหนาวมาก อาจไม่ต้องใช้ถุงนอนก็ได้

วันที่ 8 : Jhinu Danna – New Bridge – Pokhara 
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของเกสเฮ้าส์
07.30 น. ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะเดินกันประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ผ่านหมู่บ้าน New Bridge
08.30 น.
ไปขึ้นรถจี๊บที่หมู่บ้าน Syomrong พากลับเมืองโพครา  นั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
เที่ยงๆ ถึงโพครา พาเข้าที่พัก เก็บสัมภาระ แล้วออกไปทานมื้อเที่ยง  หลังจากนั้นก็ปล่อยตามอัธยาศัย เย็นๆค่อยนัดกันไปทานมื้อเย็นพร้อมกัน
วันที่ 9 โพครา – กาฐมาณฑุ – ชมเจดีย์โบดะนาถ – ชมวัดลิง
07.00 น. ทานมื้อเช้าด้วยที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ช๊อปปิ้งกันสักพัก
10.00 น. เช็คเอ้า นั่งรถไปสนามบินโพคราประมาณ 15 นาที แล้วไปเช็คอินกับสายการบิน Yeti 
11.00 น.  นั่งเครื่องบินไปเมืองกาฐมาณฑุ ด้วย Yeti Airline ใช้เวลาบินประมาณครึ่งชั่วโมง
11.30 น. ถึงกรุงกาฐมาณทุ เข้าที่พักในย่านทาเมล เก็บสัมภาระ พาไปทานมื้อเที่ยงกัน
13.00 น. พาไปชม เจดีย์โบดะนาถ (Bhoudanath Stupa) ชมเจดีย์ดวงตาเห็นธรรมที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์สถูปทรงกลมสีขาวมีดวงตาเห็นธรรมสีแดง เหลือง และน้ำเงิน แถวรอบๆเจดีย์เป็นที่ตั้งของชมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล เป็นศูนย์กลางทางศาสนาแบบทิเบตที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีบ้านเรือนสีสันสดใสตั้งอยู่รายรอบตัวตัวเจดีย์ มีร้านค้าขายสินค้าต่างๆ และของที่ระลึกอยู่รอบๆเจดีย์ ให้สมาชิกใช้เวลาเดินชมรอบๆสถูป ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
15.00 น. ไปชม วัดลิง (Swayambhunath temple) ซึ่งเป็นวัดทางพุทธศาสนาแบบทิเบต เป็นวัดที่มีสถูปดวงตาเห็นธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในเนปาล ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ สูงระดับ 77 เมตรเหนือน้ำทะเล มองลงมาเห็นวิวของเมืองกาฐมาณฑุ ที่องค์เจดีย์มีคิ้วและดวงตาทั้งสี่ด้าน เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 2000 ปี ตัวสถูปครึ่งวงกลมสีขาว เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) เหนือองค์สถูปมีปล้องไฉนสีเหลืองทองอร่าม 13 ชั้น เป็นสัญลักษณ์แทนระดับธรรม 13 ขั้น ก่อนบรรลุพระนิพพานของพระพุทธเจ้า
17.00 น. ได้เวลาพอสมควร พากลับทาเมล แล้วไปทานมื้อเย็นกัน หลังจากนั้นก็เชิญช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย

วันที่ 10 กาฐมาณฑุ – กรุงเทพมหานคร
07.00 น. ทานมื้อเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นปล่อยตามอัธยาศัย
08.00 น. นั่งแท็กซี่ไปชม Kathmandu Durbar Square กัน ชมวังกุมารี เป็นวัดก่ออิฐถือปูนจากกลางศตวรรษที่ 18 หน้าต่างวัดเป็นไม้แกะสลักฝีมือละเอียด มีรูปสิงห์ขนาบสองข้าง
ประตู ชมวัดนารายัณ ชมวังประตูหนุมาน (Hanuman Dhoka Durbar) ด้านข้างประตูเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพหนุมาน สร้างขึ้นในปี 1672 ตัวเทพได้รับการเจิมชาดเสียจนเป็นสีแดงเข้มใต้ร่มฉัตร ประตูเข้าตัววังได้รับการทาสีสดใสทางซ้ายของบริเวณทางเข้าคือเทวรูปนรสิงห์ อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุเป็นเทพกึ่งสิงห์กึ่งมนุษย์เพื่อฆ่ายักษ์หิรัญกศิลป์
11.00 น. ได้เวลาพอสมควร พากลับโรงแรม แล้วเช็คเอ้า นั่งรถไปสนามบินตรีภูวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
11.40 น. เช็คอินน์กับสายการบินไทยสมายล์ โหลดสัมภาระ แล้วผ่านพิธีทางศุลกากร
13.50 น. ได้เวลาเหินฟ้าโบกมืออำลาเนปาล ด้วยไฟร้ท WE320 บินสู่ประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 3 ชั้วโมงเศษ
18.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน    ขอขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการนะคะ 

อัตราค่าทริป  
xxx usd (สำหรับสมาชิก 10-12 ท่าน)
xxx usd (สำหรับสมาชิก 7-9 ท่าน)
xxx usd (สำหรับสมาชิก 4-6 ท่าน)

อัตรานี้รวม
* ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ (ไป-กลับ) กาฐมาณฑุ-โพครา
* ค่าที่พักในทาเมล 1 คืน (รวมอาหารเช้า)
* ค่าที่พักในโพครา 2 คืน (รวมอาหารเช้า)
* ค่าที่พักบนภูเขาระหว่างการเทรคกิ้ง 6 คืน รวมอาหารเช้า
* ค่าธรรมเนียมเข้าชมพระราชวังโบราณและวัดต่าง
* ค่านั่งเรือในทะเลสาบเฟว่า
* ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์จากเมืองไทย 1 คน
* ค่าจ้างไกด์เดินเขาชาวเนปาล 1 คน
* ค่าจ้างลูกหาบแบกสัมภาระ (ลูกหาบ 1 คนต่อลูกทัวร์ 2 คน รับน้ำหนักไม่เกิน 25 kg.)
* ค่าทำ ACAP permit & TIMS CARD
* ค่ารถรับ-ส่งระหว่างสนามบิน-พาไปชมวัดแห่ง 2 ในวันแรก และส่งที่โรงแรมในทาเมล
* ค่ารถรับ-ส่งระหว่างสนามบิน-โรงแรม-จุดเริ่มเทรคกิ้ง ตลอดทริป
* ค่าทำวีซ่าเข้าเนปาล
อัตรานี้ไม่รวม
* ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ไป-กลับสุวรรณภูมิ-กาฐมาณฑุ (เช็คค่าตั๋วเครื่องบินวันที่จองทริป        จองทริปมาแต่เนิ่นๆมีโอกาสได้ตั๋วถูกกว่า)
* ค่าทำประกันภัยการเดินทาง ถ้าให้เราหาให้ จะเช็คราคาให้ก่อน
* ค่าอาบน้ำร้อนและชาร์จแบตเตอรี่ตามโรงแรมบนภูเขา บางที่ก็อาบน้ำร้อนฟรีและชาร์ตแบตฟรี        บางที่อาจจะชาร์ตเงิน
* ค่าอาหารเที่ยงและเย็นในเมืองกาฐมาณฑุและเมืองโพคราและเครื่องดื่ม
* ค่าอาหารเที่ยงและเย็นระหว่างการเดินเทรคกิ้งบนเขา 7 วัน ซื้อทานได้ที่ร้านค้าระหว่างทาง
* ค่าน้ำดื่มบรรจุขวดระหว่างเดินเทรคกิ้งบนเขา สามารถซื้อได้ที่ร้านค้าระหว่างทาง หรือสามารถสั่ง    น้ำต้มเป็นกระติกแล้วมาแชร์กันได้
* ค่าทิปไกด์-ลูกหาบ-เด็กเสิร์ฟ-เด็กยกกระเป๋า
* ค่าเช่าถุงนอน ประมาณ วันละ 100 รูปี (ถุงนอนควรรับอุณหภูมิได้ -5 ถึง -10 องศา)
* ค่าเช่าไม้เท้า ถ้าท่านไม่ต้องการซื้อไปเช่าก็ได้ ค่าเช่าประมาณ วันละ 50 รูปี
* ค่ารถนำเที่ยวเพิ่มเติมในโพคราและกาฐมาณฑุ ถ้าต้องการใช้บริการ สามารถติดต่อทางโ่รงแรม      ให้เรียกรถให้ได้

การจองทริป
– โทรมาจองก่อน ถ้าแน่ใจว่าออกทริปได้แน่แล้ว เราจะให้เลขที่บัญชีสำหรับโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน (เช็คค่าตั๋วให้ก่อนจองทริป) หรือจะจองเองก็ได้ค่ะ
– โอนเงินค่ามัดใจทริปทัวร์คนละ 5000 บาท
– สแกนหน้าพาสปอร์ตส่งมาทางอีเมลล์
– สำหรับท่านที่ให้เราจองตั๋วให้ เราจจะเช็คค่าตั๋วให้ก่อน แล้วแจ้งให้โอนเงินค่าตั๋วตามจริง
– โอนค่าทริปที่เหลือก่อนวันเดินทางประมาณ 20 วันตอนที่รับพาสปอร์ตไปขอวีซ่าเนปาล

การทำวีซ่า
– ใช้เล่มพาสปอร์ตและสำเนาพาสปอร์ตหน้าแรก 1 แผ่น (มีอายุการใช้เหลืออย่างต่ำ 6 เดือนนับจากวันเดินทาง)
– รูปถ่ายสี 1 นิ้วหรือ 1 นิ้วครึ่ง 3 ใบ (ทำวีซ่า 1 รูป และส่งให้ทางเนปาลทำ ACAP Permit &TIMS card อีก 2 ใบ)

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments